“กลุ่มบริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน)” หรือ ALT ขยายการลงทุนธุรกิจโทรคมนาคมทุก Segment ผนึกกำลังพันธมิตร เร่งลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ลุยโครงการเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง (High Speed Fiber Optic) ขับเคลื่อนสู่โครงข่ายดิจิตอล

นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่ารายได้ปี 2562 นี้จะเติบโตขึ้น จากการมุ่งเน้นไปยังธุรกิจให้บริการเช่าใช้วงจรระหว่างประเทศภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อย คือ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เกทเวย์ จำกัด หรือ IG ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามและบริการอินเตอร์เน็ตเกตเวย์ระหว่างประเทศรวมถึงบริการชุมสายอินเตอร์แน็ตแบบที่ 2 ที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง จาก กสทช.


โดยจะเน้นการให้บริการแบรนด์วิธแก่กลุ่มลูกค้าโทรคมนาคมในต่างประเทศเป็นสำคัญ และครอบคลุมยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เมียนมา, ลาว,กัมพูชา และมาเลเซีย ซึ่งจะเชื่อมต่อสถานีปลายทาง เพื่อเชื่อมต่อกับเคเบิ้ลใต้น้ำ (Submarine CableC) จากต่างประเทศจำนวน 3 ตำแหน่ง คือ จังหวัดระยอง, ทะเลอ่าวไทยจังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูลรวมถึงจังหวัดใกล้เคียงโซนทะเลอันดามัน ที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะสถานีที่จังหวัดระยองที่รองรับการเติบโตจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC

ส่วนแผนการดำเนินงานอื่นๆ บริษัทฯได้โอนขายโครงข่ายใยแก้วนำแสง จำนวน 24 คอร์ พร้อมวงจรและอุปกรณ์ทั้งหมดที่เกียวข้องตามแนวรถไฟฟ้าและทางหลวง (โครงการ SRT) ให้แก่ IG เพื่อให้บริการแบรนด์วิธแล้ว แต่ยังคงเหลือจำนวนเคอร์เคเบิ้ลในโครงข่ายดังกล่าวจำนวนเพียงพอ ต่อการให้บริการ Dark Fiber แก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ทั้งผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ต่อยอดการลงทุนใน โครงการเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงความเร็วสูง (High Speed Fiber Optic) ที่ได้ลงทุนไปแล้วในสวนอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี และโครงข่ายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


รวมถึงได้ต่อยอดธรุกิจ โดยเตรียมร่วมลงทุนในบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจที่เกียวเนื่อง อาทิ TOT, Smart City, Big Data ซึ่งปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนไปแล้วกับ “บริษัท สปอทเวิร์คซ์ (ประเทศไทย) จำกัด” ผู้เชี่ยวชาญด้าน Data Analytic และยังอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนกับบริษัทที่เกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ลงนาม : นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้อำนวยการ นายสมบุญ เศรษฐ์สันติพงศ์ (ที่ 1 จากซ้าย) รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT พร้อมด้วย นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายพีระวัฒน์ พุ่มทอง (ที่ 1 จากขวา) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ลงนามร่วมทุนโครงการโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสงใต้ดิน (Underground Optical Cable Network) อีกทั้งเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศไทย เพื่อลงทุนในธุรกิจอื่นๆ และสนับสนุนการเติบโตในอนาคต คาดว่าการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนจะแล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย. 2562 โดยจะมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1 ล้านบาท ณ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆนี้

สำหรับโครงการลงทุนล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงทุนในโครงข่ายสายใยแก้วนำแสงใต้ดินกับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH โดยได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ในนาม บริษัท สามาร์ท อินฟราเนท จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อให้บริการด้านสื่อสารแก่กิจการด้านไฟฟ้าและพลังงาน รวมถึงได้ลงนามสัญญาร่วมกับ FCL Tech; Ltd. (FCL) บริษัทย่อยของ Fecebook เพื่อให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับประชาชนทั่วไป

การร่วมทุนกับ FCL นั้น ทางบริษัทฯมีบทบาทในการเตรียมสัญญานอินเทอร์เน็ต เช่น ความพร้อมของอุปกรณ์ Wi-Fi ตลอดจนการบริหารจัดการ รวมถึงการดำเนินการให้บริการเชื่อมต่อสัญญานอินเตอร์เน็ต ด้วยไวไฟ ณ จุดเชื่อมต่อให้เป็นไปอย่างราบรื่น โดยทาง FCL มีบทบาทในการจัดเตรียมระบบซอฟต์แวร์ และการสนับสนุนทางเทคนิค เพื่อช่วยให้การบริการอินเตอร์เน็ตผ่านระบบ Wi-fi แก่ประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อเป้าหมายสำคัญของคู่สัญญา คือตอบสนองทางเลือกให้ประชาชนในการเข้าถึงการบริการอินเตอร์เน็ตคุณภาพราคาถูก ได้อย่างกว้างขวาง ภายใต้ระบบซอฟต์แวร์ที่ทรงพลัง นาม “Express Wifi by Fecebook” โดยมีพื้นที่ให้บริการ 3 ระยะ คือ
- พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า,
- พื้นที่ตามบริเวณโรงเรียน มหาวิทยาลัย หอพักต่างๆ รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำในเขตกรุงเทพ
- พื้นที่อื่นๆ ที่มีความต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตและสอดคล้องกับโครงข่ายของบริษัทฯ

ทั้งนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ สำหรับค่าบริการซอฟต์แวร์ เพื่อเป็นไปตามนโยบายของ Facebook ที่ต้องการสนับสนุนให้ผู้คนทั่วโลก สามารถเขาถึงอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพในราคาถูก โดยรายได้ของบริษัทฯจะมาจากการให้บริการโฆษณาและการขายแพคเกิจอินเตอร์เน็ตรายวัน จึงถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่มีอยู่แล้วเพื่อช่วยขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่สังคมดิจิตอลได้เร็วขึ้น

นอกเหนือจากโครงการนำสายสื่อสารลงดินตามแนวทางนโยบาย Smart City ที่กล่าวถึงแล้ว บริษัทฯยังวางกรอบในการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ให้มุ่งเน้น ส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรของบริษัทฯให้เกิดประโยชน์สูงสุด อันได้แก่ โครงข่ายสื่อสารตามแนวเส้นทางรถไฟบนพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทฯได้เสริมศักยภาพของโครงข่ายให้สูงขึ้น มีเสถียรภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการเชื่อมต่อโครงข่ายสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และ มาเลเซีย ผ่านด่านชายแดนทั่วประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐที่กำหนดให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในภูมิภาครวมถึงระบบการสื่อสารด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯยังแสวงหาธุรกิจใหม่ ๆที่จะมีส่วนในการใช้ประโยชน์ในโครงข่ายสื่อสารที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่และสัมพันธ์กับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มการจับจ่ายใช้สอยที่ไม่ต้องใช้เงินสด รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับการใช้งานอินเตอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมองหาพันธมิตรทางธุรกิจที่จะช่วยเสริมศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทฯให้แข็งแกร่งขึ้น” นางปรีญาภรณ์ กล่าว

บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้ก่อตั้งในปี 2544 จวบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งรวมระยะเวลาที่ดำเนินงานมากว่า 14 ปีนั้น บริษัทได้มีการพัฒนาองค์กรและบุคลากรในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการลูกค้า สภาวะตลาด และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งและมีประสบการณ์เชี่ยวชาญในธุรกิจสื่อสาร เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะก้าวไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศ



ธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร
ALT ได้แบ่งธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
- ธุรกิจให้บริการสร้างสถานีฐาน ติดตั้ง และซ่อมแซมอุปกรณ์โทรคมนาคม
- ธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มโทรคมนาคม ได้แก่ สายเคเบิลใยแก้วนำแสง, ตู้โทรคมนาคม, สถานีโทรคมนาคมเคลื่อนที่, สายอากาศ และอุปกรณ์โทรคมนาคมอื่น ๆ
- ธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม
โดยมีพันธกิจ "เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่มีความเป็นกลาง ตอบสนองด้านคุณภาพ การเข้าถึงพื้นที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการใช้โครงข่ายร่วมกัน เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้านต้นทุนและการใช้ทรัพยากรของประเทศ"
