ภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจที่แม้จะกินสัดส่วนของ GDP เพียงราวๆ 1 % แต่ก็เป็นตัวเลขที่มหาศาล และเป็นต้นน้ำของห่วงโซ่ธุรกิจที่สำคัญ กำลังเป็นภาคที่ได้รับผลกระทบที่ “ตรง” และหนักมากที่สุด
เนื่องจาก “จีน” เป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และจากประเด็นสงครามการค้า ทำให้จีนขึ้นภาษีถั่วเหลืองและเนื้อหมู ภาคเกษตรของสหรัฐฯ จึงส่งออกได้น้อยลง
ทั้งนี้ U.S. Department of Agriculture ซึ่งมีข้อมูลทั้งหมดของภาคเกษตร ใช้โมเดลคาดการณ์ว่า จีนจากที่เคยเป็นผู้นำเข้าสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุด จะหล่นจากอันดับ 1 ไปสู่อันดับ 3 ในปีนี้ โดยประเทศแคนาดากับเม็กซิโกจะขึ้นมาแทน และการที่จีนสั่งซื้อน้อยลง ก็น่าจะทำให้ยอดการส่งออกลดลงราวๆ 7.7 % อย่าลืมว่า การ Demand หายไป ย่อมไปกดราคาสินค้าดังกล่าว ซึ่งจะสร้างแรงกดดันไปที่เกษตรกรโดยตรง และนั่นหมายถึงกำลังซื้อของคนอเมริกันกลุ่มที่ค่อยๆ หายไป

แต่ถ้าจะเอาตัวเลขคาดการณ์สินค้าที่ส่งไปจีนทั้งหมด USDA เชื่อว่า น่าจะหายไปถึง 37 % จากเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน