Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

Create an account

Fields marked with an asterisk (*) are required.
Name *
Username *
Password *
Verify password *
Email *
Verify email *
Captcha *
Reload Captcha

Tetra Pak เผย “เทรนด์ดิพิเดีย” ประจำปี 2565 ชี้เทรนด์การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค

เต็ดตรา แพ้ค  (Tetra Pak) ผู้นำเสนอโซลูชันการแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก เผยรายงานฉบับสรุป ‘เทรนดิพีเดีย 2022’ ที่แสดงถึงข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคจากปีที่แล้วที่เห็นได้ชัด 3 ประการ

ซึ่งได้แก่ Stay in Control ความสามารถในการควบคุม ทั้งในเรื่องของสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และค่าใช้จ่าย, Break Out & Re-Experience ความสนุกและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ และ Explore OMNI-Spaces ความต้องการพื้นที่เชื่อมโยงระหว่างออฟไลน์และออนไลน์  พร้อมด้วยตัวอย่างที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในสิ่งที่แบรนด์สามารถทำได้ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งปรับเปลี่ยนสินค้าหรือบริการให้ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคเพื่อแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของแบรนด์

ในช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา เมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มกลับมาเป็นปกติ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต่างโหยหาการเข้าสังคมและการใช้ชีวิตนอกบ้านเพื่อกลับไปรู้สึกถึงความสมดุลในชีวิตอีกครั้ง แต่ก็ดูเหมือนว่าหลายอย่างกลับพลิกผันอย่างรวดเร็วและอนาคตยังดูต่างจากที่คาดคิดไว้ สงครามครั้งใหม่ที่เกิดขึ้นเป็นส่วนสำคัญให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และทำให้ทรัพยากรในห่วงโซ่อุปทานขาดแคลนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ผู้บริโภคต้องเผชิญหน้ากับค่าครองชีพที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปอย่างรวดเร็วทั่วโลกนี้อาจเป็นสิ่งที่ช่วยเร่งนวัตกรรมใหม่ให้เกิดขึ้น การฟื้นฟูตลาดหลังการระบาดใหญ่จะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อทำให้ภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจมีความยั่งยืนมากขึ้น ทำให้ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้าใจผู้บริโภค และรับรู้ถึงการให้ความสำคัญกับสิ่งต่าง ๆ ของผู้คน นอกจากนั้น เรายังควรจัดหาสินค้าและบริการที่ตรงใจและสนองต่อความต้องการ เนื่องจากผู้บริโภคจะเริ่มใช้จ่ายอย่างรอบคอบกันมากขึ้น

เทรนด์ของผู้บริโภคในปี 2564 ยังคงมีความสอดคล้องกับปี 2565 ในรายงานสรุปเทรนดิพิเดียของเต็ดตรา แพ้ค เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงหลัก 3 ประการโดยเฉพาะ อันดับแรกคือ "Stay in Control" ในช่วงที่ทุกอย่างคือความไม่แน่นอน ผู้บริโภคต้องการรู้สึกว่าชีวิตอยู่ในการควบคุม ซึ่งความกังวลอันดับต้น ๆ จะเป็นเรื่องของสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการเงิน

คุณปองสงวน จีระเดชากุล รองผู้อำนวยการฝ่ายงานวิจัยด้านไลฟ์สไตล์ ในประเทศอินเดียและประเทศไทย ของบริษัท มินเทล (ประเทศไทย) จำกัด

“ในเทรนด์ Stay in Control ระบุถึงการจัดการกับความรู้สึกที่ไม่แน่นอนจากสถานการณ์โรคระบาดของผู้บริโภคและตอนนี้พวกเขาต้องการที่จะควบคุมทุกอย่างในแบบที่สามารถทำได้ แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ มีภารกิจมากขึ้นในการให้ข้อมูลที่มีความชัดเจนและเชื่อถือได้ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความสนใจของผู้บริโภค ทั้งนี้ แบรนด์ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมการเลือกซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มตามที่ตนเองต้องการ ด้วยการให้รายละเอียดสินค้าอย่างโปร่งใส ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพของผลิตภัณฑ์ การระบุส่วนผสม หรือความก้าวหน้าด้านความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” คุณปองสงวน จีระเดชากุล รองผู้อำนวยการฝ่ายงานวิจัยด้านไลฟ์สไตล์ ในประเทศอินเดียและประเทศไทย ของบริษัท มินเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ในเทรนด์ Stay in Control ระบุถึงการจัดการกับความรู้สึกที่ไม่แน่นอนจากสถานการณ์โรคระบาดของผู้บริโภคและตอนนี้พวกเขาต้องการที่จะควบคุมทุกอย่างในแบบที่สามารถทำได้

 

คุณสุทธินันท์ เตชะทยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด

เทรนด์การเปลี่ยนแปลงอันดับที่สองของปี 2565 คือเทรนด์ “Break Out & Re-Experience” ที่สะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคในการแสวงหาความสุขและความสนุกสนานเพื่อคลายความเครียด “สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มดีขึ้นทำให้ผู้บริโภคมองหาหนทางที่จะหลุดออกจากกรอบเดิมๆ และค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตมีความสุขและสนุกสนานมากขึ้น แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มจึงสามารถส่งมอบประสบการณ์เหล่านี้ ผ่านผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระตุ้นรสสัมผัสในด้านต่าง ๆ การสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการบริโภค การทำกิจกรรมการตลาดที่ใช้เทคโนโลยีหรือสร้างประสบการณ์เสมือนจริงเพื่อเชื่อมโยงให้ผู้คนเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างและช่วยให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น” คุณสุทธินันท์ เตชะทยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในอันดับที่สามจากรายงานเทรนด์ดิพิเดีย เรียกว่า Explore OMNI-Spaces” ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม บ้านยังคงเป็นที่ผ่อนคลายหลักสำหรับหลาย ๆ คน ผู้บริโภคต่างได้ลองทำอาหารกันที่บ้านและ ตระหนักถึงประโยชนที่ได้รับ ความสะดวกสบายในบ้านกลายมาเป็นสิ่งสำคัญในช่วงของสถานการณ์การแพร่ระบาด ทำให้ทุกมื้ออาหารเกิดขึ้นที่บ้านเป็นประจำ อุปกรณ์ทำอาหารและบริการจัดส่งอาหารออนไลน์จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะผู้บริโภคต่างมองหาตัวช่วยที่จะมาทำให้ชีวิตของพวกเขาเป็นเรื่องง่ายภายใต้ช่วงเวลาอันแสนกดดัน ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการจัดส่งอาหารถึงหน้าบ้านไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนช่วงที่ผ่านมาและอาจจะชะลอตัวลงไปบ้าง แต่พฤติกรรมการสั่งอาหารของผู้บริโภคดูเหมือนว่าจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

คุณแสงโสม บัวลำใย ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ธุรกิจ บริษัท อิคาโน่ (ประเทศไทย) จำกัด

“การแพร่ระบาดใหญ่ทำให้เราเห็นคุณค่าในการเชื่อมต่อกับผู้คน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังแสดงให้เห็นถึงความสะดวกสบายของการช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น” คุณแสงโสม บัวลำใย ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ธุรกิจ บริษัท อิคาโน่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “แบรนด์ต่าง ๆ จะสามารถตอกย้ำเทรนด์นี้ได้ด้วยการรวมช่องทางการขายหน้าร้านเข้ากับการจำหน่ายแบบออนไลน์ เราจะเห็นว่าผู้ค้าปลีกจำนวนมากขึ้นปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์นี้ และสร้างสภาพแวดล้อมแบบผสมผสาน ซึ่งผนวกรวมองค์ประกอบทั้งออนไลน์และออฟไลน์เข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้ที่ติ”

คุณสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย)

“พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเป็นอย่างมาก” คุณสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในปี 2565 ชี้ให้เห็นว่า บรรจุภัณฑ์ที่ใช้งานสะดวกเป็นที่ต้องการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการบริโภคในครัวเรือนหรือระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่เปิดง่าย กันรั่ว และสามารถเปิด-ปิดซ้ำได้ยังถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ชีวิตที่มีความยืดหยุ่นของผู้บริโภค สำหรับช่องทางการให้บริการด้านอาหาร จะเห็นว่าร้านค้าต่าง ๆ ต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งง่ายต่อการจัดเก็บและวางซ้อนกันบนชั้น และเทรนด์เช่นนี้เอง เป็นตัวชี้ชัดว่าทุกภาคส่วนในปีนี้ต้องการโซลูชันบรรจุภัณฑ์เชิงนวัตกรรม ที่จะมาช่วยทำให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น”

Tetra Pak นำเสนอรายงานเทรนด์ผู้บริโภค เทรนด์ดิพิเดีย ประจำปี 2565 ให้กับลูกค้าของเรา เพื่อให้พวกเขาเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง 

เกี่ยวกับเต็ดตรา แพ้ค

เต็ดตรา แพ้ค คือผู้นำเสนอโซลูชันบรรจุภัณฑ์และกระบวนการผลิตอาหารชั้นนำของโลก โดยทำงานร่วมกับลูกค้าและซัพพลายเออร์อย่างใกล้ชิด เพื่อมอบผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย ทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้คนนับพันล้านในกว่า 160  ประเทศทั่วโลก ด้วยจำนวนพนักงานมากกว่า 25,000 คนซึ่งมีฐานการดำเนินงานทั่วโลก เราเชื่อในความรับผิดชอบของเราในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมและการมอบความยั่งยืนแก่ธุรกิจนี้ ปรัชญาการทำงานของเราคือปกป้อง ทุกคุณค่า™ หรือ “PROTECTS WHAT’S GOOD™” ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเราในการผลิตอาหารที่ปลอดภัยและซื้อหาได้ในทุกที่

ข้อมูลเกี่ยวกับ เต็ดตรา แพ้ค กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.tetrapak.com/th     



รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc
เพิ่มเพื่อน

Rate this item
(1 Vote)
Last modified on Friday, 09 September 2022 09:28
จิราพร เดชปัญญา

Author : เกาะติดและเขียนข่าวเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โรงแรมและร้านอาหาร ต่างประเทศ สุขภาพ เครื่องสำอาง แฟชั่น เครื่องประดับ จิวเวลรี่ สินค้าและอุปกรณ์ประเภทของใช้ในครัวเรือน ฯลฯ

Latest from จิราพร เดชปัญญา

Related items

Leave a comment

Make sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.


  

Tweet Feed

Post Gallery

“คุณภาพของงาน การบริการที่ดี ตอบสนองทันใจ” คือหัวใจความสำเร็จของบริษัท พรีเมี่ยม ดีไซน์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด

เลือกผู้รับเหมาอย่างไรให้ได้งานสำเร็จ

ESC ปิดหีบสำเร็จตามเป้า มุ่งรณรงค์ลดการเผาอ้อย ชูแนวคิด Full Integrated System เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

Zoomlion ประเทศไทยฉลองครบรอบ 9 ปี เปิดตัวศูนย์บริการสาขานครสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่!

ซีพี ติดอันดับความยั่งยืนโลก ระดับ “Top 5 %” จาก S&P Global ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ชูจุดเด่นเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

STEC ปรับกลยุทธ์ “Move To The Next Chapter” มุ่งพัฒนาต่อยอด New S-Curve เน้น Backlog แสนล้าน วางนโยบายองค์กร ตอบแทนสังคม มอบอาคารชาญวีรกูลที่ 71

Thaifoods Fresh Market โตสวนกระแส ครบ 350 สาขาตามเป้า, TFG จับมือ CooperL ตั้ง TFNG ดำเนินธุรกิจฟาร์มสุกรปู่ทวดพันธุ์ ด้วยงบลงทุนกว่า 746 ล้านบาท

TTA ต่อยอดธุรกิจขนส่งทางเรือ เข้าถือหุ้น 100% "ไทแทน แทงเกอร์" รุกธุรกิจผลิตน้ำมันดิบ เข้าถือหุ้น 10.14% "แวลูร่า เอ็นเนอร์ยี่" Q3/66 กำไร 374.8 ล้านบาท

AWC เผย Q3 ลงทุน 1 หมื่นล้าน กำไรพุ่ง 1.13 พันล้าน เชื่อมั่นพลังขับเคลื่อนความยั่งยืนกับพันธมิตรทุกภาคส่วน ร่วมสร้างไทยให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM