IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
นายธีระศักดิ์ วิกิตเศรษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร และ ศ.ดร.มาลิน อังสุรังสี กรรมการฝ่ายเทคนิค บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า พวกเราในนามของเอสแอนด์เจอินเตอร์ เนชั่นแนล พร้อมด้วยทีมงานผู้ทุ่มเททั้งหลาย มีความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลนี้จาก อย. ด้วยความมุ่งมั่น และจะพัฒนาบริษัทให้มีคุณภาพมาตรฐานที่ดีที่สุด และปฏิบัติตัวเป็นองค์กรแบบอย่างที่มีความสํานึกรับผิดชอบต่อสังคมในฐานะพลเมืองบรรษัท โดย อย. ได้ประกาศผลรางวัล ควาลิตี้ อวอร์ด 2563 ให้กับสินค้าอุปโภคบริโภคและสถานประกอบการด้านการ ดูแลสุขภาพในประเทศไทย และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกพร้อมด้วยสถาน ประกอบการอีก 11 แห่ง
เรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นสถานประกอบการด้านเครื่องสําอางและผลิตภัณฑ์เพื่อความงามใน ประเทศไทยเพียงเเห่งเดียวที่คว้ารางวัลในสาขานี้
โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาการให้การรับรอง คือ ผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยด้วยคุณธรรมและจริยธรรมตลอดกระบวนการผลิต ,ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบโดยตลอดมา ,เป็นสถานประกอบการตัวอย่าง รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อสังคมและการดูแลรักษาสิ่งเเวดล้อม และส่งเสริมกิจกรรมที่พัฒนาด้านสังคม คุณธรรม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
โดย บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2523 โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ประกอบด้วย ผู้ถือหุ้นในเครือสหพัฒน์ฯ โดยมีบริษัทเดิม คือ บริษัท เอส แอนด์ เจ อาหารสำเร็จรูป จำกัด มีวัตถุประสงค์แรกเริ่มเพื่อผลิตอาหารสำเร็จรูป ต่อมาบริษัทฯ ได้เปลี่ยนการดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตเครื่องสำอางค์ โดยได้รับความช่วยเหลือทาง เทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จํากัด ในปี 2526และในปี 2531 ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อมาในปี 2537 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนแปรสภาพ เป็นบริษัทมหาชน ในนาม บริษัท เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จํากัด (มหาชน)
บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตชั้นนําในอุตสาหกรรมความงามและเครื่องสําอางกว่า 30 ปี ที่ให้บริการผลิตทั้งการผลิต OEM/ODM อย่างครบวงจร โดยครอบคลุมตั้งแต่แต่ขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา การวิจัยผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ การออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การพัฒนาสินค้าตามความต้องการของลูกค้า การผลิตสินค้าด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยและมีมาตรฐาน ตลอดจนออกแบบแนวคิดทางธุรกิจ พร้อมทั้งกลยุทธ์ทางการตลาดให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจสตาร์ทอัพ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับโลก ซึ่งจากใบรับรองมาตรฐานคุณภาพเหล่านี้ สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ด้วยโอกาสและความท้าทายในปัจจุบัน ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ที่ต้องการความแปลกใหม่และทันสมัยอยู่ ตลอดเวลา ดังนั้น จึงทําให้ Product Life Cycle ของสินค้าสั้นกว่าสมัยก่อน อีกทั้งผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข่าวสารได้ง่าย ผ่านสื่อ Social Media ต่างๆ รวมไปถึง Real Influencer ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ จึงทําให้ ผู้ประกอบการต่างๆ ต้องเกาะติดสถาณการณ์ และเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ทําให้บริษัทต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และกระบวนการทํางานใหม่ในการทํางานทางด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่พร้อมขายและยังคงอยู่ในกระแส รวมถึงการปรับ กระบวนการทํางานให้กระชับและสั้นลง เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในยุคดิจิทัล
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากธรรมชาติซึ่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ ๆ ที่ใช้สมุนไพรตามธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางค์มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้น บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์การตลาด โดยเน้นคุณภาพของสินค้าที่มาตรฐานสูง รวมถึงมีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของสินค้าให้มี ความสวยงาม ทันสมัย สะดวกต่อการใช้งาน อีกทั้งมีการวิจัยและพัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าดังกล่าว และขยายฐานสู่ลูกค้าใหม่ เพื่อเสริม สร้ างความมั่นคงและเพิ่มศักยภาพการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งการตั้ง ราคาจะคํานึงถึงภาพลักษณ์ของสินค้า ต้นทุนการผลิต และต้นทุนการตลาดเป็นพื้นฐาน เน้นความเหมาะสมของคุณภาพกับราคาที่ ดึงดูดความสนใจของลูกค้า โดยคํานึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
บริษัทฯ ยังคงใช้การวางแผนทางด้านสูตรของผลิตภัณฑ์ โดยจะมีการปรับสูตรที่มีคุณภาพและใช้วัตถุดิบที่ไม่เฉพาะเจาะจง สําหรับแต่ละสูตรให้มากเกินความจําเป็น เพื่อให้บริษัทไม่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบที่หลากหลาย แต่เป็นการสั่งซื้อวัตถุดิบน้อยรายการโดยได้ ราคาที่ตํ่า เพื่อให้ต้นทุนการผลิตสามารถแข่งขันได้ในตลาด ปริมาณการสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าในแถบเอเชียเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถบริหารจัดการการสั่งซื้อได้ดียิ่งขึ้น
สำหรับทิศทางการตลาด บริษัทฯวางการตลาดไว้ 3 ช่องทางคือ ตลาดภายในประเทศ บริษัทวางช่องทางจัดจําหน่ายให้ครอบคลุมทั้งประเทศเช่น โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน สถานพยาบาล คลีนิค และร้านยา โดยเน้นกลยุทธ์การแข่งขันด้วยขบวนการผลิตที่มีคุณภาพ การค้นคว้าและพัฒนาสูตรใหม่ๆ และการบริการที่ดี ด้วยราคายุติธรรมเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาได้และบริษัทยังเป็นผู้นําในตลาดในยารักษาโรคหลอด เลือดหัวใจต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ตลาดต่างประเทศ บริษัทได้มีการจําหน่ายในต่างประเทศ เช่น พม่า ลาว เขมร และมีแผนที่จะขยายตลาดใน ต่างประเทศเพิ่มขึ้น
เนื่องจากบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานด้านการผลิตระดับสากล เช่น มาตรฐานของยุโรป(GMP- PIC/S: Good Manufacturing Practice-Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme)และ ISO 9100 : 2015 การรับจ้างผลิต (OEM: Original Equipment Manufacturing) บริษัทได้รับความไว้วางใจจากบริษัทยาชั้นนําให้ผลิตเวชภัณฑ์และอาหารเสริมเป็นจํานวนมากมาเป็นเวลานาน สภาวการณ์แข่งขัน การแข่งขันด้วยราคายังเป็นปัจจัยหลักในตลาดภายในประเทศ ทางบริษัทเน้นกลยุทธ์ด้านคุณภาพการผลิตสินค้าและ การบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิ์ ภาพเพื่อจะได้แข่งขันกับคู่แข่งได้ สําหรับตลาดต่างประเทศ ทางบริษัทเน้นกลยุทธ์ด้านคุณภาพและการบริการระดับสากลเพื่อให้แข่งขันในตลาดโลกได้
โดยเฉพาะการเพิ่มมูลค่าให้ เป็นผลผลิตสุดท้ายที่จะสามารถนําไปสู่การใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ ทั้งนี้แหล่งทุนวิจัยของประเทศขณะนี้ หลายแหล่งทุนเน้นให้ ทุนการสนับสนุนโครงการวิจัยที่มีโอกาสหรือศักยภาพนําไปสู่การเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และบางแหล่งทุนเน้นต้องมีความร่วมมือกับ ภาคธุรกิจเอกชน จึงมองว่าภาวะงานวิจัยและพัฒนาในกลุ่มอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะที่จะร่วมมือกับ สถาบันการศึกษา หรือองค์กรวิจัยของรัฐ ซึ่งภาวะดังกล่าวจะทําให้คู่แข่งของบริษัทมีมากขึ้น และสภาพการแข่งขันของบริษัทใน อนาคตจะมีมากขึ้น ทั้งนี้การสร้างพันธมิตรจะเป็นการเพิ่มโอกาสการแข่งขันต่อไป
อนึ่ง บริษัทได้รับรางวัลมากมาย โดยล่าสุดเพิ่งได้รั
ในการสัมภาษณ์คุณธีรศักดิ์ วิกิตเศรษฐ กรรมการผู้จัดการและประธาน บริษัท S&J International แบ่งปันปรัชญาการดำเนินธุรกิ