IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU กล่าวว่า ประกาศผลประกอบการในปีที่ผ่านมา ยอดขายลดลง 5.3% อยู่ที่ระดับ 126,270 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่ในด้านปริมาณการขายเติบโต 1.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลจากธุรกิจอาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็งและธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่มีปริมาณการขายเติบโตขึ้น 12.8% ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่ามีปริมาณการขายเติบโตขึ้น 3.2 % กำไรจากการดำเนินงานในปี 2562 เติบโตขึ้นถึง 20.8 % อยู่ที่ 5,642 ล้านบาท
สำหรับสัดส่วนของยอดขายตามภูมิภาค ยอดขายจากทวีปอเมริกาเหนือมีสัดส่วนถึง 41% ยอดขายจากทวีปยุโรป 28 % ยอดขายจากประเทศไทย 12 % และตลาดอื่นๆได้แก่ เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกาใต้ 18% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (normalized net profit) 5,218 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
โดยกำไรสุทธิภายหลังจากหักรายพิเศษ (Net profit) อยู่ที่ 3,816 ล้านบาท พร้อมเผยความสามารถในการทำกำไรเข้มแข็งขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเติบโต 6.4 % คิดเป็นเงินมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 9.2 % เมื่อเทียบกับปี 2561 ถือว่าทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์
สะท้อนถึงการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งความสามารถในการทำกำไร การลงทุน และผลงานของบริษัทในเครือดีขึ้นสม่ำเสมอ
ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนลดลงจาก 1.40 เหลือ 1.07 เท่า เป็นผลจากการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ที่มีลักษณะคล้ายทุนมูลค่า 6,000 ล้านบาทในไตรมาสสุดท้ายของปี ประกอบกับการลดหนี้สินจากกระแสเงินสดอิสระ 3,000 ล้านบาท สำหรับปี 2562 ไทยยูเนี่ยนจะปันผล 47 สตางค์ต่อหุ้น กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้น 17.2% เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยในปี 2562 ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 25 สตางค์ต่อหุ้น
นายธีรพงศ์ กล่าวว่า ไทยยูเนี่ยน ยังคงมุ่งมั่นในการทำกำไรจากทั้งการดำเนินงานของธุรกิจหลัก ธุรกิจเพิ่มมูลค่าใหม่ๆ และการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มีอยู่ เราภูมิใจกับผลงานและความเติบโตของบริษัทในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผมมั่นใจว่าไทยยูเนี่ยนจะก้าวต่อไปในทศวรรษใหม่นี้ในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเลอีกทั้งยังลงทุนต่อเนื่องในด้านนวัตกรรม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลก และสานต่อพันธกิจในการสร้าง “สุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่สมบูรณ์”
“นวัตกรรมยังเป็นหัวใจสำคัญในการเติบโตของไทยยูเนี่ยนในอนาคต บริษัทมุ่งมั่นนำเทคโนโลยี ล่าสุดมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค โดยในปีที่ผ่านมาได้เปิดศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยนขึ้นที่กรุงเทพฯ มีนักวิจัยกว่า 120 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักวิจัยระดับปริญญาเอกจากทั่วโลกกว่า 40 คนที่เชี่ยวชาญในสาขาเทคโนโลยีชีวภาพทางทะเล วิศวกรรม ยา อาหาร และสารอาหาร”
ในปี 2562 ไทยยูเนี่ยนยังได้ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติและคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ก่อตั้งโครงการสเปซ-เอฟ โครงการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพนวัตกรรมอาหาร เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมใหักับอุตสาหกรรม โดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้จัดงานพบปะนักลงทุนให้กับ 23 สตาร์ทอัพจาก 6 ประเทศได้แก่ เยอรมัน อินเดีย นอร์เวย์ สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย และในไตรมาสแรกของปี 2563 จะมีการจัดแสดงผลงานหรือ Demo Day ในวันที 5 มีนาคมนี้ ด้วย
“ไทยยูเนี่ยนยังคงมุ่งมั่นในการทำกำไรจากทั้งการดำเนินงานของธุรกิจหลัก และเพิ่มมูลค่าใหม่ด้วยการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เราภูมิใจกับผลงานและความเติบโตของบริษัทในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มั่นใจว่าไทยยูเนี่ยนจะก้าวต่อไปในทศวรรษใหม่นี้ในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเล อีกทั้งยังลงทุนต่อเนื่องในด้านนวัตกรรม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลก”
โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการซื้อที่ดินของ บริษัท เอเซียนแปซิฟิคแคน จำกัด จากบริษัท ไทยยูเนี่ยน ปร็อปเปอร์ตี้ส์ จำกัด พื้นที่ 69 ไร่ ที่ถนนเศรษฐกิจ1 ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร มูลค่า 345.68 ล้านบาท (ตรว.ละ 12,500 บาท) ทั้งนี้ราคาที่ดินดังกล่าวประเมินโดยสำนักงานที่ดิน จังหวัดสมุทรสาคร ที่ราคา 318,025,000 บาท (ตรว.ละ 11,500 บาท) บวกเพิ่ม 8,7 % เนื่องจากเป็นที่ดินเปล่าถมแล้ว พร้อมใช้งาน โดยมีราคาขายเปรียบเทียบกับที่ดินประกาศขายในบริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งการลงทุนนี้เพื่อผลประโยชน์ในการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เพื่อการขยายโรงงานและรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขี้นของ บริษัท เอเซียนแปซิฟิคแคน จำกัด ต่อไป
บริษัท เอเซียนแปซิฟิคแคน จำกัด หรือ APC เป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของ TU ตั้งอยู่ที่ถนนเศรษฐกิจ1 ตำบลท่าทราย จังหวัดสมุทรสาคร ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2530 ด้วยทุนจดทะเบียน 80,000,000 บาท มูลค่าหุ้นละ 400,000 บาท ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระป๋องเปล่าและฝาไร้ตะเข็บแบบ Two pieces and Three pieces สำหรับบรรจุผลิตภัณฑ์อาหาร โดยสินค้าของบริษัทฯ ได้ส่งไปจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ