IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 นี้ บริษัทคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากการรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากโครงการ Pet Aseptic (สายการผลิตขวดพลาสติก PET)) และแนวโน้มการส่งออกคาดว่ายังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มราคาต้นทุนวัตถุดิบมองว่าไม่ได้แตกต่างจากปีที่ผ่านมานอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 3/2566 บริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกให้ผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัว อีกทั้งมีปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ประกอบกับแผนการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายของลูกค้าในสหรัฐฯ มีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นส่งผลให้คำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้
บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตใหม่จากโครงการ Pet Aseptic ล็อตแรกภายในไตรมาส 3/2566 โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อของลูกค้ารองรับกำลังการผลิตในสายการผลิตขวด PET ไว้บางส่วนแล้ว จะหนุนรายได้ให้เติบโตและต้นทุนทรงตัว
สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 428.1 ล้านบาท ลดลงจํานวน 15.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากการลูกค้าทวีปอเมริกาอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขการขยายช่องทางการจัดจําหน่าย ลูกค้าจึงมีการชะลอการนําเข้าสินค้า จึงทําให้แผนการขายไปทวีปอเมริกายังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนการขายสินค้าในภูมิภาคอื่นๆ ช่วงไตรมาสที่ 2 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าทางการตลาด โดยเฉพาะทวีปยุโรปมีการเติบโตสูงถึง 245.6%, ทวีปออสเตรเลียเติบโต 162.1%, ตะวันออกกลางโต 39.4%, ทวีปเอเชียเติบโต 37.2% และทวีปแอฟริกาเติบโต 26.4%ทําให้รายได้จากการขายสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้นจํานวน 179.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 74.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
บริษัทฯ มีกําไรสุทธิ สําหรับไตรมาสที่ 2 ปี2566อยู่ที่ 61.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกําไรสุทธิร้อยละ14.4 ของรายได้รวม ลดลงจํานวน 15.7 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 20.3 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ล่าสุด PLUS ได้ฉลองครบรอบ 25 ปี ขึ้นแท่นผู้ผลิตแถวหน้าส่งต่อสุดยอดน้ำมะพร้าวไทย ดังไกลระดับโลก เจ้าของสโลแกนสะดุดหู “PLUS+ พร้อมบวก” หนึ่งในผู้นำผลิตและส่งออกเครื่องดื่มน้ำผลไม้ และเครื่องดื่มต่างๆ ที่ได้รับการรับรองในระดับสากล ร่วมฉลองความสำเร็จในโอกาสครบรอบ 25 ปีของเส้นทางธุรกิจ นำโดยแม่ทัพใหญ่ “พลแสง แซ่เบ๊” กรรมการผู้อำนวยการ พร้อมด้วยผู้บริหารของบริษัท ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอย่างอบอุ่น ณ สำนักงานใหญ่ บมจ. โรแยลพลัส การันตีสุดยอดความสำเร็จจากการเป็นผู้ส่งออกน้ำผลไม้ที่ขายดีที่สุดระดับ Top 5 ของประเทศ ด้วยเสียงตอบรับด้านคุณภาพ และรสชาติที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภคกว่า 106 ประเทศทั่วโลก
PLUS มองตลาดและทิศทางการลงทุน
"ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ผลผลิตมะพร้าวและผลไม้ที่มีคุณภาพ แต่การเก็บผลไม้และมะพร้าวสดเพื่อจำหน่ายส่งออกไปยังต่างประเทศค่อนข้างที่จะมีอุปสรรคพอสมควร ทางโรแยลพลัสมองเป็นปัญหาและโอกาสตรงนี้เลยพัฒนามาเป็นเครื่องดื่มเพื่อให้คนต่างชาติได้รู้ถึงรสชาติที่แท้จริงมาจากธรรมชาติของน้ำมะพร้าวจริงๆ"
“เราเป็นผู้ผลิตน้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำมะพร้าว น้ำผลไม้ผสม และน้ำผลไม้ผสมแมงลัก จำหน่ายไปกว่า 106 ประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ ประเทศจีน โซนยุโรป และญี่ปุ่น ฯลฯ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ของเราคือจะเติมเนื้อผลิตภัณฑ์ลงไปในขวดด้วย ซึ่งน้ำนมมะพร้าวของเรา ผู้ที่แพ้นมวัวก็สามารถที่จะทานได้ และโยเกิร์ตมะพร้าวของเราเป็นโยเกิร์ตที่สามารถเก็บได้อย่างยาวนานถึง 18 เดือนเลย เนื่องจากเราใช้การผลิตเป็นสเตอริไลซ์ (Sterilization) ในโรงงานผลิตอันทันสมัย ที่ตั้งอยู่ในแหล่งวัตถุดิบโดยตรงในอำเภออัมพวา จึงได้วัตถุดิบที่สดใหม่ในการผลิตอยู่เสมอ” คุณพลแสง กล่าว
นอกจากนี้เรายังได้พัฒนาสูตรการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับลูกค้าทั่วโลก โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์เราคือการผสมเนื้อผลไม้ในผลิตภัณฑ์ไม่ให้จมลงไปใต้ขวด เพื่ออรรถรสที่ดีในการดื่ม แต่น้ำมะพร้าวและน้ำผลไม้ของโรยัลพลัสคือกระจายในขวด ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมเด่นของโรแยลพลัส
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของโรแยลพลัสเริ่มต้นจากธุรกิจอิเลคทรอนิคส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้านำเข้าจากต่างประเทศ พอทำประมาณ 13 ปีเรารู้สึกอิ่มตัวพอสมควร เนื่องจากเทคโนไลยีของเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดทำให้เราปรับตัวได้อยาก และทำการตลาดได้ลำบาก เลยมีแนวคิดที่จะทำธุรกิจอื่น โดยเบนเข็มมาทำน้ำมะพร้าว เนื่องจากตอนที่เราติดต่อชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะชื่นชอบน้ำมะพร้าวมาก จึงมีแนวคิดที่จะทำน้ำมะพร้าวส่งออกไปยังต่างประเทศ”
“ในมุมมองของผมคือ ถ้าสิ่งที่เราทำมันไม่ใช่ เราต้องรีบเปลี่ยน แต่หากอะไรที่เป็นการต่อยอดได้ในระยะยาว เราต้องรีบตัดสินใจ ต้องกล้าเพื่อไม่ให้เสียโอกาส เรามองว่าธุรกิจเครื่องดื่มน้ำมะพร้าว ตลาดค่อนข้างกว้าง สามารถที่จะขายไปได้ทั่วโลก โดยเฉพาะอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ซึ่งน้ำมะพร้าวมีผลผลิตมีอยู่ไม่กี่ประเทศในโลกนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่แถบอาเซียน หลักคือประเทศไทย เวียดนาม อินโดฯ และฟิลิปปินส์ เพราะฉะนั้นการที่เรามีวัตถุดิบตรงนี้ ถือว่าเป็นจุดได้เปรียบตั้งแต่เริ่มต้น เรามีวัตถุดิบที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ เราจึงได้พัฒนานวัตกรรมและสร้างจุดเด่นขึ้นมาและส่งออกไปต่างประเทศทั่วโลกให้รู้จักน้ำมะพร้าวของไทย ถือว่าเป็น Soft Power ของไทยที่จะให้คนต่างชาติได้รู้จักประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น”
ความยากของการผลิตคือการผลิตสูตรที่เป็นสเกลใหญ่ แต่เราเริ่มต้นจาก R&D ในสเกลเล็กก่อน เป็นสูตรเฉพาะ ที่เป็นจุดเด่นของเรา เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ประเทศแรกที่ส่งออกคือประเทศอเมริกา ถือว่าเป็นจุดที่ท้าทายมาก เพราะกว่าที่จะได้รับการยอมรับต้องผ่านการตรวจสอบในทุกการผลิต ซึ่งเค้าเดินทางมาตรวจที่โรงงานเราเลย จนเราได้รับการยอมรับให้วางจำหน่ายในหลายช่องทางในประเทศอเมริกาและโซนยุโรป ซึ่งถือว่ามาจากจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นของโรแยลพลัส
จุดแข็งสำคัญอย่างหนึ่งคือ สินค้าสามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้โดยไม่ต้องแช่เย็น จึงเป็นโอกาสในการขายที่ดี
โดยสถานการณ์โควิดทึ่ผ่านมา ถือว่าเป็นอีกจุดที่สร้างโอกาสให้โรแยลพลัส หลังจากที่มีการล็อคดาวน์ และประชาชนมีการกักตุนสินค้าจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งสินค้าของเราสามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้โดยไม่ต้องแช่เย็น จึงเป็นโอกาสในการขายในช่วงนั้น แต่ในประเทศไทยมีการติดขัดเรื่องการขนส่ง ก็มีผลกระทบบ้างในการส่งออกในช่วงนั้น
บริษัทอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิต การปรับปรุงพื้นที่และติดตั้งเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อรองรับฐานตลาดที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับทิศทางการลงทุนหลังจากนี้ เราได้มีการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยตอนนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและติดตั้งเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อรองรับฐานตลาดที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพัฒนาสินค้า พัฒนาบุคลากร และสร้างตลาดใหม่ ด้วยเป้าหมายธุรกิจ เน้นการเติบโตและเป็นมิตรกับคนและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันเราใช้ไบโอแมส หรือโซล่าร์รูฟท็อปในการผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุนไปประมาณ 30% ส่วนด้านชุมชนเราจะรับวัตถุดิบจากเกษตรกรโดยตรงในราคาที่เป็นกลางและยุติธรรม เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรในชุมชน ถือว่าเป็นการสร้างการเติบโตและแบ่งปันให้ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
PLUS รับเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับองค์กร ต่อยอดอุตสาหกรรมเครื่องดื่มสู่ความยั่งยืน
นายกิตติ วชิรจิรากร (ขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายการเงินและปฏิบัติการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS ผู้ผลิตเครื่องดื่มและส่งออกรายใหญ่ระดับสากล รับประกาศนียบัตรรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับองค์กร (CARBON FOOTPRINT FOR ORGANIZATION) ประจำปี 2566 โดยได้รับเกียรติจาก นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ให้เกียรติเป็นผู้มอบ ณ ห้องอบรม องค์กรบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เมื่อต้นไตรมาสสามที่ผ่านมา
โดยเครื่องหมายรับรองลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับองค์กร แสดงถึงความมุ่งมั่นของ PLUS ในการให้ความสำคัญในการวัดระดับปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานเพื่อวางแผนในการตั้งเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก เป็นองค์กรรักษ์โลกที่ใส่ใจต่อภาวะโลกร้อน ร่วมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเพื่อช่วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ตามเป้าหมายของประเทศไทยที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 20-25 ภายในปี พ.ศ. 2573 เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ.2593 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ.2608 ดังวิสัยทัศน์ของ PLUS ที่จะมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ ด้วยนวัตกรรมอย่างไม่หยุดนิ่ง บวกประสบการณ์ความสุขให้ผู้บริโภคทั่วโลก พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนอย่างยั่งยืน
บริษัทใช้ไบโอแมสเป็นเชื้อเพลิงการผลิต และใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้กว่า 30%
ทั้งนี้ PLUS ได้วางกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนทั้ง 3 มิติ ได้แก่ มิติสิ่งแวดล้อม ที่จะยกระดับการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (GHG),พลังงาน และน้ำ อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มิติสังคม สร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยในการทำงานและส่งเสริมสวัสดิภาพของพนักงาน การเคารพสิทธิมนุษยชน มิติเศรษฐกิจและธรรมาภิบาล ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง โปร่งใสและเป็นธรรม โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน
PLUS ตั้งปณิธานในการดำเนินธุรกิจ “ก้าวสู่ปีที่ 25 บวกคุณภาพ บวกความสุข บวกความยั่งยืน” ด้วยความมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันกับลูกค้า คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาชุมชนและสังคม และ ด้านสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับกระบวนการทำงานที่เป็นเลิศและมีประสิทธิภาพ
PLUS เริ่มเส้นทางธุรกิจด้วยจุดกำเนิดของแรงบันดาลใจ ให้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หลากรูปแบบไร้ขีดจำกัดด้วยผลผลิตจากแหล่งกำเนิดระดับเพชรน้ำหนึ่ง เติมความคิดสร้างสรรค์เฉพาะแบบของเรา ผ่านวัตกรรมในทุกกระบวนการผลิต สู่ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และครองใจคนทั้งโลก