December 18, 2024

“ซีพี-เมจิ” เท 470 ล้าน รุกตลาดโยเกิร์ต วางเป้ารวมปีนี้โต 8%

บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด” ปรับแผนการลงทุนเพิ่ม ทุ่มงบกว่า 470 ล้านบาท ปรับปรุงไลน์การผลิตที่โรงงานเดิม และเพิ่มกำลังผลิตอีกเท่าตัว รองรับทำขยายตลาดทั้งในประเทศและส่งออก พร้อมลุยตลาดโยเกิร์ต หวังแชร์ฐานตลาดเพิ่ม คาดปี 2562 นี้โตเพิ่ม 30% แน่นอน

นางสาวสลิลรัตน์ พงษ์พานิช รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจนมและโยเกิร์ต ของเครือซีพี เปิดเผยว่า ตลาดรวมผลิตภัณฑ์นมมีการเติบโต ขณะที่ตลาดรวมผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตในปีที่ผ่านมาหดตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อัตราการบริโภคโยเกิร์ตของคนไทยตกลง 10% เหลือแค่ 4 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ขณะที่คนญี่ปุ่นบริโภคมากกว่าไทย 1 เท่าครึ่ง ส่วนคนยุโรปบริโภคมากกว่าไทย 5 เท่าตัว รวมทั้งผู้นำตลาดไม่ได้มีการขับเคลื่อนธุรกิจในตลาดรวมมากนักจึงทำให้ตลาดรวมค่อนข้างทรงตัวและตกลง

 

ปัจจุบัน ซีพี-เมจิ ยังคงเติบโตและเป็นผู้นำอันดับที่สองด้วยส่วนแบ่งตลาด 13%  แบ่งเป็น บัลแกเรียในกลุ่มพรีเมียม แชร์ 7% ส่วนซอฟต์โยเกิร์ต หรือเมนสตรีม มีแชร์ 6% ขณะที่ผู้นำตลาด คือ ดัชชี่ในเครือดัชมิลล์ครองตลาดมากถึง 70% อันดับ 3 คือ บีทาเก้น มีแชร์ 5% นอกนั้นก็เป็นรายย่อยที่มีแชร์ไม่มากนัก

ล่าสุดบริษัทฯ ได้ปรับปรุงครั้งใหญ่รอบ 10 ปีของโยเกิร์ตเซกเมนต์เมนสตรีมแบบถ้วยทั้งหมด สูตรสินค้า 5 รสชาติที่มีเนื้อนุ่มแน่นไม่เหลว ชูจุดเด่นแม้ส้อมก็ยังตักได้ ถ้วยขนาด 135 กรัม ราคา 14 บาท แพกเกจจิ้งฝาใหม่เปิดง่ายไม่บาดมือ

โดยบริษัทฯ ได้วางภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัย เน้นสุขภาพ จับกลุ่มเป้าหมายผู้ชายและผู้หญิงอายุ 15-29 ปี การทำตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เช่น ยูทูป เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ โฆษณาต่อเนื่อง เป็นต้น และการใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นครั้งแรกของโยเกิร์ตถ้วยเมนสตรีมซีพี-เมจิ คือ “วี-วิโอเลต วอเทียร์” ด้วยงบการตลาดรวม 70 ล้านบาท จากงบตลาดรวมทั้งบริษัทฯ 400 ล้านบาท

นอกจากนี้ ซีพี-เมจิ ได้ลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 400 ล้านบาท ในการปรับปรุงไลน์การผลิตที่โรงงานเดิม และเพิ่มกำลังผลิตอีกเท่าตัว รองรับทำขยายตลาดทั้งในประเทศและส่งออกด้วย โดยปัจจุบันส่งออกสัดส่วน 20% ตลาดหลัก คือ สิงคโปร์ และฮ่องกง และเริ่มทำตลาดซีแอลเอ็มวีแล้ว และบริษัทฯ คาดหวังยอดขายปี 2562 เพิ่มเป็น 20% จากการใช้งบลงทุนรวมเฉพาะซีพี-เมจิ โยเกิร์ต 470 ล้านบาท

บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้รวมทั้งบริษัทปีนี้เติบโต 8% เป็น 9,000 ล้านบาท จากรายได้รวม 8,200 ล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว และสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์นม 80% และโยเกิร์ต 20% โดยในส่วนของโยเกิร์ต สัดส่วนส่งออก 20% และจะเพิ่มเป็น 30% ในปี 2562

บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้ผลิต-จำหน่ายผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์รายใหญ่ของประเทศไทย ถือกำเนิดจากการร่วมลงทุนระหว่าง บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กับ บริษัท เมจิ จำกัด ผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นเจ้าของเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับโลก โดยบริษัทฯ ได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ด้วยความมุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นมในประเทศไทยให้มีมาตรฐานสูงขึ้นเทียบเท่าระดับสากล

โดยกระบวนการผลิตเริ่มจากการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพเยี่ยมจากธรรมชาติ สะอาด สดใหม่ ผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย เพื่อส่งต่อคุณภาพความสด ใหม่ และคงคุณประโยชน์ไว้อย่างเต็มเปี่ยม ไปยังผู้บริโภค ด้วยความพิถีพิถันและความใส่ใจที่ไม่เคยหยุดยั้ง ทำให้บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด สามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง ตลาดนมสดพาสเจอร์ไรส์ของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง

ตลอดระยะ เวลาที่ผ่านมา บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ยังคงสานต่อเจตนารมณ์อันแรงกล้า ในการสนับสนุนและส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงคุณประโยชน์ของการบริโภคผลิตภัณฑ์นม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนไทยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงทั่วหน้า

 

Rate this item
(1 Vote)
Last modified on Wednesday, 20 May 2020 13:24
สมิตา ตั้งชินคุปต์

Author : ติดตามและเขียนข่าวด้าน Consumer Product ความเคลื่อนไหว การตลาด ธุรกิจ เทรนด์ หรือเรื่องราวของคนในวงการการตลาดฯ ตลอดจนงานสร้างสรรสินค้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

Latest from สมิตา ตั้งชินคุปต์

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM