"TCP" ทุ่มงบลงทุนรองรับ "SCGP" สร้างการเติบโตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารในระดับโลก เพิ่มศักยภาพด้านการผลิตเพื่อรองรับการขยายตลาดและความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ รับเทรนด์ผู้บริโภคยุค New Normal รุกธุรกิจอีคอมเมิร์ชและตลาดส่งออกภูมิภาคอาเซียน

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TCP บริษัทในกลุ่ม SCGP เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาความต้องการใช้กระดาษบรรจุภัณฑ์ในประเทศไทยลดลง จากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 และจากมาตรการปิดเมืองเพื่อควบคุมโรคระบาด แม้ว่าจะมีปัจจัยเกื้อหนุนจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่มีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น แต่กำลังซื้อของผู้บริโภคซบเซาทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้การอุปโภค บริโภคสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งนี้ปริมาณการส่งออกกระดาษบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคเอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดประเทศจีน
เนื่องจากปริมาณการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่จีนลดลงตามมาตรการจำกัดการนำเข้าเศษกระดาษของรัฐบาลจีน จึงส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตของผู้ผลิตรายหลัก

โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 6,284 ล้านบาท กำไรสุทธิ 721 ล้านบาท จากการบริหารจัดการประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นพัฒนาสินค้าตามความต้องการของลูกค้าและปรับปรุงขั้นตอนต่างๆในกระบวนการผลิต รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงเน้นการดำเนินกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น นำเสนอสินค้าที่เพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้า และบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับธุรกิจและควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงบริหารทรัพยากรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและพัฒนาศักยภาพของพนักงาน เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายขององค์กร

“ในปีที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ ทั้งในกลุ่มอาเซียนและทั่วโลกเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณความต้องการซื้อสินค้าในกลุ่มสินค้าคงทาน โดยเฉาะอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและยานยนต์ ปรับตัวลดงลอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม ความต้องการซื้อสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ รวมถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ชยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใส่ใจในเรื่องสุขอนามัย และปรับพฤติกรรมมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น”

TCP ได้รับรางวัล "CSR-DIW CONTINUOUS AWARD" โดยกรมอุตสาหกรรมเพื่อมอบแก่สถานประกอบการที่ปฎิบัติตามมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคม โดยบริษัทฯได้รับรางวัลนี้ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 9
บริษัทฯได้ดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจดูแลลูกค้า พัฒนาศักยภาพบุคลากรและผู้มีส่วนร่วมได้เสียที่เกี่ยวข้อง โดยให้ความสำคัญและดำเนินธุรกิจโดยการยึดถือบรรษัทภิบาล การพัฒนาที่ยั่งยืนมุ่นเน้นดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการผลิต และนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Clroular Economy) มาใช้นในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด ตลอดจนร่วมกันดูแลสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน เช่น การนำแกนกระดาษที่ผ่านการใช้งานแล้วกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์เพิ่มเติม การลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตเพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การผลิตอิฐบล็อกจากเถ้าลอยเพื่อนำวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และยังเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

TCP มอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้น ด้วยนโยบายที่มุ่งมั่นการสนับสนุนกิจกรรมชุมชน
นอกจากนี้บริษัทฯยังดำเนินกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด กลุ่มเอสซีจี ได้มุ่งมั่นส่งต่อองค์ความรู้การปลูกต้นไม้ให้อยู่รอดและตอบโตอย่างยั่งยืนที่โรงงานไทยเคนเปเปอร์ ท่าม่วง ภายใต้โครงการ “ปลูกด้วยรักษ์ พิทักษ์โลก” ซึ่งเป็นการรวมพลังปลูกต้นไม่ตลอดปี 2564 รวม 150,000 ต้น คิดเป็นปริมาณการดูซัพก๊าซคาร์บอนไซด์ 14,500 ตัน พร้อมส่งต่อองค์ความรู้การปลูกต้นไม้เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับสถานการณ์โควิด-19 บรัทได้มอบเตียงสนามกระดาษจำนวน 200 เตียง เพื่อใช้ในศูนย์พักคอยให้กับทางเทศบาลตำบลท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี อีกด้วย

บริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TCP ประกอบธุรกิจหลักในการผลิต และจำหน่ายกระดาษคราฟท์ สำหรับผลิตเป็น บรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก โดยแบ่งสินค้าเป็น 2 ประเภทหลัก คือ กระดาษคราฟท์ทำผิวกล่อง และกระดาษทำลอนลูกฟูก โดยมีเกรดสินค้าที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 300,000 ตัน/ปี ประกอบด้วยโรงงานที่ 1 (กาญจนบุรี) มีกำลังการผลิต 100,000 ตัน/ปี และโรงงานที่ 2 (ปราจีนบุรี) มีกำลังการผลิต 200,000 ตัน/ปี ซึ่งโรงงานที่ 2 แห่งนี้เป็นโรงงานที่มีเทคโนโลยีการผลิต ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย

ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ประกอบกับใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมคุณภาพอัตโนมัติ Quality Control System (QCS) ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีคุณภาพได้มาตรฐานทุกตารางฟุต และบริษัทได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 : 2000 จาก สถาบัน SGS (Thailand) และ United Registrar System ประเทศ อังกฤษ ที่โรงงานที่ 1 และ 2 รวมถึงได้รับรางวัล CSR-DIW CONTINUOUS AWARD 2020 และใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 5 (Green Network) จากกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นรางวัลรับรองมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่า กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตด้วยกระดาษคราฟท์ของไทยเคนเปเปอร์ จะสามารถปกป้องสินค้าให้ถึงมือผู้ใช้ สินค้าอย่างดี

นายวิชาญ เปิดเผยต่อว่า สำหรับการลงทุนในส่วนของ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ "SCGP” นั้น ทางบริษัทฯได้เดินหน้าขยายการลงทุนอีก 2 โครงการเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารในระดับโลก โดยขยายกำลังการผลิตของบรรจุภัณฑ์อาหารจากกระดาษเพิ่มขึ้น 1,615 ล้านชิ้นต่อปี ขณะเดียวกันได้ลงทุนขยายกำลังการผลิตในธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารจากเยื่อธรรมชาติ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 223 ล้านชิ้นต่อปี ที่โรงงานจังหวัดกาญจนบุรี โดยคาดว่าจะเริ่มเดินดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2/65 ซึ่งการลงทุนขยายกำลังการผลิตทั้ง 2 โครงการด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้น 631 ล้านบาท จะเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตเพื่อรองรับการขยายตลาดและความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมจากทั้ง 2 โรงงานเพิ่มอีก 1,838 ล้านชิ้น/ปี

โดยการขยายกำลังการผลิตนี้ จะทำให้บริษัทมีรายได้ต่อปีเพิ่มขึ้นประมาณ 35% จากกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งในประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย และประเทศเวียดนาม รองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจ บรรจุภัณฑ์อาหารทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีปัจจัยจากพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ การบริโภคอาหารพร้อมรับประทาน การเลือกใช้บริการจัดส่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ถือเป็นเมกะเทรนด์ที่ส่งผลดีต่อการเติบโตของธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหาร โดยคาดว่าภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทานในภูมิภาคอาเซียนในปี 64-67 จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 6-7% ต่อปี

ทั้งนี้ กลุ่ม SCGP ได้ขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาด้วยฐานผลิตในประเทศไทยและมาเลเซีย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป รองรับตลาดในภูมิภาคอาเซียนและประเทศญี่ปุ่น และในมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้ขยายการลงทุนนอกภูมิภาคอาเซียน โดยเข้าลงทุน 100% ใน Go-Pak UK Limited (Go-Pak) เพื่อเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งด้านการผลิต และสามารถขยายฐานลูกค้าทั่วโลก

รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc
