IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการ ไตรมาส 1-3 ปี 2566 มีรายได้รวม 17,763 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,477 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 918 ล้านบาท คิดเป็น 2.6 เท่าของกำไรปีก่อน จากยอดขายกระดาษที่เพิ่มขึ้นหลังสภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในหลายประเทศ และความสามารถในการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ ยังคงรักษายอดขายรวมติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก สะท้อนถึงการยอมรับในคุณภาพจากผู้บริโภค 145 ประเทศทั่วโลก และในปี 2567 บริษัทฯ ยังเชื่อมั่นว่าจะขยายความสามารถในการทำกำไรให้เติบโตได้อีกไม่น้อยกว่า 40% ซึ่งทำให้มีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งต่อไปในระยะยาว
นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีการขยายธุรกิจในอีกหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยแผนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG รวมถึงมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปีค.ศ. 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศที่กำหนดไว้ในปีค.ศ. 2065 โดยแผนขับเคลื่อนดังกล่าว บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ได้มีการประกาศเจตนารมณ์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2050 เดินหน้าRoadmap ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต สนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานแสงอาทิตย์ ส่งเสริมใช้รถไฟฟ้า (EV) ในการขนส่ง และตอกย้ำการขับเคลื่อนธุรกิจบนแนวนโยบาย ESG ชู 3S เพื่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "กลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ" ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับเรื่องของภาวะโลกร้อนมาอย่างต่อเนื่อง จึงตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กร โดยแบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ได้แก่ มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 25% ภายในปี 2030 บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ซึ่งเป้าหมายนี้ ถือว่าเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศที่กำหนดไว้ในปี 2065 โดยแผนงานและการประเมินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้กำหนดให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการ โดยยังคงคุณภาพระดับพรีเมียมเพื่อผู้บริโภคเหมือนเดิม” นายโยธินกล่าว
มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 25% ภายในปี 2030 บรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ซึ่งเป้าหมายนี้ ถือว่าเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศที่กำหนดไว้ในปี 2065
ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ประกอบธุรกิจโดยคำนึงถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติมาโดยตลอด รวมถึง นำแนวทาง ESG มาขับเคลื่อนธุรกิจ และ ด้วยโมเดลทางธุรกิจที่อยู่บนพื้นฐานคาร์บอนต่ำตั้งแต่เริ่มแรก เน้นการดำเนินการอย่างยั่งยืน ใน 3 ด้าน (3S) ได้แก่
- Sustainable Sourcing โดยการใช้วัตถุดิบจากต้นกระดาษของเกษตรกร และไม่ใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ ซึ่งต้นกระดาษเหล่านี้มีส่วนช่วยในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมากและต่อเนื่อง
- Social Harmony โดยเกษตรกรที่ปลูกต้นกระดาษสามารถมีรายได้เสริมที่ยั่งยืน อันจะเป็นการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของสังคมไทยไปพร้อม ๆ กัน
- Self Sufficient นำของเหลือจากการผลิตมาสร้างเป็นพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด โดยทุกขั้นตอนในการผลิตเรามี By product หรือ ผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการผลิต มาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนเช่น การส่งน้ำมันยางไม้ (Black liquor) จากการผลิตเยื่อ นำมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าชีวมวล (Biomass) นอกจากนี้ยังมีโครงการใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ในการผลิต และการใช้รถขนส่งไฟฟ้า (EV)ในด้านโลจิสติกส์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกทางหนึ่ง และเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า บนหลัก 4R ได้แก่ Reduce Reuse Recycle และ Renewable
จากการดำเนินการโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นสำคัญ ทำให้ผลิตภัณฑ์เยื่อและกระดาษของดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับมาตรฐานระดับนานาชาติจาก FSC (Forest Stewardship Council) และ PEFC ( Programme for the Endorsement of Forest Certification) รับรองแหล่งที่มาของวัตถุดิบจากไม้เพื่อการพาณิชย์ และกระบวนการผลิตที่ถูกจัดการอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้เข้าร่วมเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network – TCNN) ที่มีองค์กรชั้นนำระดับประเทศจากภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่นกว่า 500 องค์กร ที่จะช่วยผลักดันให้มีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการลดก๊าซเรือนกระจกให้บรรลุเป้าหมายทางคาร์บอนของประเทศด้วย
ผลิตภัณฑ์กลุ่มกระดาษพิมพ์เขียนภายใต้แบรนด์ในเครือดั๊บเบิ้ล เอ ที่ได้รับเกียรติบัตรรับรองฉลากเขียว (Green Label) โดยรับมาแล้วอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันและสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่คำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งมอบคุณค่าจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค ทั้งนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสนับสนุนเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2050
“แม้จะเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะให้บรรลุเป้าหมาย เราเชื่อว่า ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เราจะสามารถช่วยกันขับเคลื่อนให้ประเทศบรรลุเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้เร็วขึ้น เพื่อช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกของเรา” นายโยธินกล่าว
ทั้งนี้กำไรที่เพิ่มขึ้นที่คิดเป็น 2.6 เท่าของกำไรปีก่อน เป็นผลมาจากความสามารถในการรักษายอดขายรวมติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งดั๊บเบิ้ล เอ ยังมีแผนขยายธุรกิจการลงทุนไปยังอีกหลายประเทศ อาทิ อินเดีย ออสเตรเลีย ทำให้ในอนาคตบริษัทจึงยังสามารถทำยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้วางนโยบายการบริหารจัดการตามแนว ESG เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นผู้นำอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษที่ครบวงจร ทำให้เกิดการผสานพลัง (Synergy) และช่วยควบคุมต้นทุน รวมทั้งการมีสินค้าที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในประเทศและในต่างประเทศกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งและการครองใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ดั๊บเบิ้ล เอ
ดั๊บเบิ้ล เอ ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ตลาดกระดาษคราฟท์มาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีการลงทุนสร้างโรงเยื่อ RECYCLE PULP (RCP) แห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ด้วยงบลงทุน 1,000 ล้านบาท มีการเดินเครื่องจักรเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับกระบวนการผลิตของโรงกระดาษที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงโรงกระดาษ 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มาผลิตกระดาษคราฟท์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 250,000 ตันต่อปี และมีผลิตภัณฑ์แรกที่พร้อมจำหน่ายแล้ว คือ กระดาษคราฟท์เพื่อทำลอนกล่องลูกฟูก CORRUGATED MEDIUM (CM)
จากการดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจ และมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ล่าสุด ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับการรับรองเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP) เพิ่มอีก 2 รายการ ได้แก่ กระดาษถ่ายเอกสารดั๊บเบิ้ล เอ ขนาด A4 80 แกรม และเยื่อแผ่นแห้ง (Dry Pulp) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO
ทั้งนี้ Double A ได้มุ่งมั่นดำเนินโครงการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP) ในปี 2566 รวมทั้งสิ้นอีก 12 ผลิตภัณฑ์ โดยก่อนหน้านี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้รับประกาศนียบัตรการรับรอง “เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจหมุนเวียน (CE-CFP)” ในส่วนของผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษรีไซเคิล (RCP) เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา และดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network) หรือ TCNN เพื่อร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการจัดการก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำการเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ ทั้งยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจไทยบนเวทีการค้าโลก ร่วมสร้างการเติบโตในทุกมิติบนสังคมสีเขียวอย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) อีกด้วย
ปัจจุบัน ดั๊บเบิ้ล เอ มีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เยื่อกระดาษใยสั้น กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษสำนักงาน และผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มกระดาษ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องเขียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ปากกา ปากกาเน้นข้อความ ปากกาลบคำผิด เครื่องเย็บกระดาษ กระเป๋าผ้า ซึ่งมีการจำหน่ายในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ delivery.doubleapaper.com ซึ่งบริการเดลิเวอรี่ส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานในยุค New Normal