IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ได้รับคัดเลือกเป็นอันดับที่ 12 ในรายชื่อ 40 บุคคลที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ระดับโลก (Top 40 Power Players) ประจำปี 2565 ซึ่งประกาศโดย Independent Commodity Intelligence Services (ICIS) ผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารชั้นนำในตลาดเคมีภัณฑ์ระดับโลก โดยการจัดอันดับดังกล่าวคัดเลือกประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทต่างๆ ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกที่สำคัญต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ การได้รับคัดเลือกครั้งนี้สะท้อนความโดดเด่นในการบริหารไอวีแอลให้มุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนและเปี่ยมด้วยความหมายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นผู้วางรากฐานความมุ่งมั่นของไอวีแอลที่มีต่อเป้าหมายด้านความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการเสริมสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนให้แข็งแกร่งและการดำเนินโครงการรีไซเคิล PET ต่างๆ
โดยไอวีแอลได้กำหนดเงินลงทุนมูลค่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อทำให้เป้าหมายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำเร็จตามที่กำหนดไว้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเพิ่มกำลังการรีไซเคิล PET ของไอวีแอลทั่วโลกเป็น 750,000 ต่อปี ภายในปี 2568
โดย Top 40 Power Players เป็นการจัดอันดับผู้บริหารที่มีความเป็นเลิศและวิสัยทัศน์ในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) นวัตกรรม การควบรวมกิจการหรือการจัดการธุรกิจ การริเริ่มโครงการ และการทำกำไรหรือสร้างมูลค่าแก่ผู้ถือหุ้น โดย ICIS ได้เปิดเผยว่า ESG และความยั่งยืนมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการจัดอันดับปีนี้ เนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อการเติบโตในอนาคต สำหรับการลงทุนในปีที่ผ่านมา IVL ได้ประกาศสร้างโรงงานในเมือง Karawang ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อรีไซเคิลขวดพลาสติกเกือบ 2 พันล้านขวดต่อปี เป็นการสนับสนุนแผนงานของรัฐบาลอินโดนีเซียด้านการลดขยะในมหาสมุทร นอกจากนี้ ไอวีแอลได้เพิ่มฐานการผลิตสาร PNDA แห่งใหม่ในเมืองดีเคเตอร์ รัฐแอละบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตสารดังกล่าวรายใหญ่ที่สุดในโลก ล่าสุด ไอวีแอลได้ตกลงที่จะเข้าซื้อกิจการ Oxiteno ในประเทศบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตสารลดแรงตึงผิวแบบบูรณาการชั้นนำ
Ngoc Nghia Industry - Service - Trading Joint Stock Company (NN) is the leading PET converter in Vietnam, specializing in bottle blow-molding, injection molding, and cap compression molding.
นอกจากนี้ยัง ได้ดำเนินการเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท Ngoc Nghia Industry – Service – Trading Joint Stock Company หรือ NN หนึ่งในผู้นำของธุรกิจขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ PET ในประเทศเวียดนาม โดยมีความสัมพันธ์อันยาวนานกับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ และมีฐานการผลิต 4 แห่งทั้งทางตอนเหนือและตอนใต้ของประเทศ ด้วยกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปขวด (preform) ขวดสำเร็จ และฝา PET รวม ทั้งหมดประมาณ 55,000 พันล้านหน่วย หรือเทียบเท่าการขึ้นรูป PET ประมาณ 76,000 ตันต่อปี
ด้วยการดำเนินงานได้มาตรฐานระดับสูง NN จึงเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ PET ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำทั้งในประเทศเวียดนามและบริษัทข้ามชาติต่างๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอื่นๆ การดำเนินธุรกิจของ NN อยู่ภายใต้การบริหารของทีมผู้นำที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมและตลาดท้องถิ่นเป็นอย่างดี ข้อได้เปรียบทางการแข่งขันเหล่านี้นับได้ว่าเป็นส่วนผสมเชิงกลยุทธ์ที่ลงตัวสำหรับไอวีแอล และจะช่วยส่งเสริมการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะยาวภายหลังการควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ โอกาสในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ตำแหน่งทางการตลาดในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ของไอวีแอล โดยเฉพาะในภูมิภาคที่ตลาดมีการเติบโตสูงอย่างเอเชีย-แปซิฟิก
โดย นายดีลิป กุมาร์ อากาวาล กรรมการบริหาร กรรมการด้านความยั่งยืนและการบริหารความเสี่ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ Combined PET, IOD และ Fibers และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน กล่าวว่า “โอกาสในการลงทุนในครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจของไอวีแอลที่กำลังขยายฐานการผลิตของเราเข้าสู่ตลาดที่กำลังโตอย่างเวียดนาม ซึ่งได้รับการวางตำแหน่งให้เป็นศูนย์กลางการผลิตในอาเซียนสำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก นอกจากนี้ ตลาดบรรจุภัณฑ์ PET ในเวียดนามเองก็มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากการบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น และมาตรฐานการดำรงชีวิตที่กำลังพัฒนาขึ้น โอกาสการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะช่วยหล่อเลี้ยงการเติบโตอย่างยั่งยืนของกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเราอย่าง Combined PET ซึ่งเติบโตอย่างมั่นคงและสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก”
ทั้งนี้ ขั้นตอนการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้จะต้องปฎิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ พระราชกฤษฎีกาและหนังสือเวียนต่างๆ ตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของประเทศเวียดนาม (State Securities Commission of Vietnam) กำหนด รวมถึงข้อบังคับต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์ฮานอย (HNX) โดยไอวีแอลและ/หรือบริษัท Indorama Netherlands B.V. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท NN ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในครึ่งแรกของปี 2565
สำหรับการการเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 85 ใน บริษัท UCY Polymers CZ s.r.o. (UCY) ผู้รีไซเคิลพลาสติก PET ที่มีฐานการผลิตในสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความมุ่งมั่นในการเก็บรวบรวมพลาสติกใช้งานเพื่อนำไปรีไซเคิลให้มากขึ้นทั้งในประเทศและภูมิภาคยุโรป ซึ่งผลจากการลงทุนครั้งนี้จะทำให้ไอวีแอลสามารถรีไซเคิลขวดพลาสติก PET (polyethylene terephthalate) ใช้งานแล้วในสาธารณรัฐเช็กได้เพิ่มขึ้นอีก 1,120 ล้านขวดต่อปี และภายในปี 2568 ไอวีแอลจะสามารถเพิ่มจำนวนการรีไซเคิลทั้งในสาธารณรัฐเช็ก เยอรมัน และยุโรปตอนกลางได้เป็น 1,600 ล้านขวดต่อปี สอดคล้องกับเป้าหมายของไอวีแอล ในฐานะบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่กำลังลงทุนมูลค่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อขยายโรงงานรีไซเคิลและการผลิตที่ยั่งยืนทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการเพิ่มกำลังการรีไซเคิลของบริษัทฯ เป็น 750,000 ตันต่อปีภายในปี 2568
การลงทุนใน UCY มีความเหมาะสมในเชิงกลยุทธ์สำหรับไอวีแอล เนื่องจากเป็นการขยายธุรกิจในลักษณะการบูรณาการย้อนกลับ (backward integration) เพื่อช่วยในการจัดหาวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์ PET รีไซเคิล (rPET) อันเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ PET ของไอวีแอลทั้งในทวีปยุโรปและทั่วโลก โดย UCY สามารถผลิตเกล็ดพลาสติก PET ได้ 40,000 ตันต่อปี ไอวีแอลจะสามารถพัฒนา UCY ให้ตอบสนองความต้องการต่อการใช้ PET รีไซเคิลที่เพิ่มสูงขึ้นในยุโรปได้เป็นอย่างดี
UCY จะทำงานร่วมกับโรงงานผลิตเกล็ดพลาสติก PET แห่งอื่นๆ ของไอวีแอลที่ดำเนินการอยู่แล้วในภูมิภาค โดยจะนำขวด PET ที่ใช้งานแล้วมาผ่านกระบวนการรีไซเคิลจนได้เกล็ดพลาสติก PET ที่สามารถนำไปเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิลคุณภาพสูง ซึ่งเหมาะสมสำหรับใช้เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจาก PET เป็นวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ทั้งหมด อีกทั้งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ถูกเก็บรวบรวมเพื่อนำไปรีไซเคิลมากที่สุดในยุโรป
“ไอวีแอลจะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของเราในการเพิ่มกำลังการรีไซเคิลขวดเครื่องดื่มให้ได้มากยิ่งขึ้น สอดคล้องความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียนของเรา ไอวีแอลกำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรีไซเคิลที่จำเป็นต่อการลดจำนวนขยะ PET ในสิ่งแวดล้อม การรีไซเคิลขวด PET ที่ผ่านการใช้งานแล้วให้กลายเป็นขวดใหม่ถือเป็นการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจให้แก่วัสดุใช้งานแล้ว แนวทางการดำเนินงานเช่นนี้จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาระบบจัดเก็บขยะให้ดียิ่งขึ้น นำไปสู่สิ่งแวดล้อมที่มีของเสียน้อยลงและสะอาดยิ่งขึ้น” นายนายดีลิป กุมาร์ อากาวาล กล่าวทิ้งท้าย