IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
โครงการก่อสร้างโรงงาน 15,000 ตารางเมตร ก้าวหน้าแล้วกว่า 65% โดยก่อสร้างด้วยระบบเสา-คาน Precast โครงเหล็กรูปพรรณ ประกอบที่โรงงานแล้วขนย้ายมาติดตั้งที่หน้างาน ลดปัญหาเรื่องผลกระทบต่อชุมชมระหว่างการก่อสร้างได้ดี
นายเกรียงศักดิ์ บัวนุ่ม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ WGE เปิดเผยว่า กิจการร่วมค้า WP ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าของบริษัท ประกอบด้วย บริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิจิตสุวรรณ ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้าง โครงการก่อสร้างงานปรับปรุงระบบป้องกันน้ำท่วมและระบบระบายน้ำนิคมอุตสาหกรรมนครหลวง โดยมีการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นผู้ว่าจ้าง มูลค่า 255.88 ล้านบาท ซึ่งลักษณะของงานเป็นการก่อสร้างเขื่อนดินป้องกันน้ำท่วม รวมระยะทาง 5.588 กิโลเมตร (กม.), งานสถานีสูบน้ำ, งานระบบระบายน้ำ และงานระบบไฟฟ้า โดยมีระยะเวลาการก่อสร้าง 300 วัน
งานก่อสร้างโครงการ J070 “MODIZ LAUNCH” คืบหน้าแล้วกว่า 23%
โดยบริษัทฯ คาดว่าหลังสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายจากการเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ บริษัทฯมีแผนเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐมากขึ้น เนื่องจากมองว่าตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างถนน งานสะพาน ทั้งนี้ วางเป้าสัดส่วนงานภาครัฐเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 50% เทียบกับปีที่ผ่านมา รวมถึงการขยายธุรกิจเข้าสู่งานก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อผลักดัน Backlog ก้าวสู่ระดับ 5,000 ล้านบาท
โครงการก่อสร้างคอนโด 30 ชั้น Supalai วงเวียนใหญ่ คืบหน้าแล้วกว่า 99% พร้อมส่งมอบแล้ว
โดยในช่วงไตรมาส 3/64 บริษัทฯได้งานใหม่ 6 โปรเจค ประกอบด้วย
- โครงการก่อสร้าง อาคาร 2-GA01,2-GB01 โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (งานโครงสร้าง และงานสถาปัตย์) ของบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
- โครงการงานจัดหาและติดตั้งงานระบบภายใน อาคาร 2-GA01,2-GB01 โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ของบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
- โครงการก่อสร้างสะพานข้ามจุดตัดทางรถไฟสายห้วยทราย-ปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ของกรมทางหลวง
- โครงการก่อสร้างสะพานลอยกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 1 บริเวณ บ.ชะแมบ (ขาเข้า) 1 ระหว่าง กม.69+700.000 -กม.71+825.000 รวมระยะทาง 2.125 กิโลเมตร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- โครงการ ก่อสร้างสะพานลอยกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 1 บริเวณ บ.ชะแมบ (ขาออก) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- งานก่อสร้างเขื่อนดินป้องกันน้ำท่วมของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเตรียมแผนบุกตลาดงานก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อขยายฐานลูกค้า ลดความเสี่ยงความผันผวนธุรกิจ โดยเน้นโรงานอุตสาหกรรมประเภทอาหารมากขึ้น เนื่องจากแนวโน้มอุตสาหกรรมเติบโตได้ดี และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่างานประเภทอื่นๆ รวมถึงใช้ระยะเวลาก่อสร้างน้อยกว่าอีกด้วย สอดคล้องกับแผนงานระยะยาวอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่งทางการตลาดติดอันดับ 1 ใน 10 ของอุตสาหกรรมผู้รับเหมาก่อสร้างอาคาร และเป็นบริษัทฯหุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องต่อไป
บริษัทให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานวิศวกรรมและงานระบบ กรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ได้เข้าชมการก่อสร้าง "อาคารสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน" โดยบริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐมากขึ้น
“แม้ที่ผ่านมาจะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ และคว้างานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของงานภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ขยายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน รองรับการขยายตัวเศรษฐกิจ โดยปัจจุบันมีงานในมือ รอรับรู้รายได้ หรือ Backlog จำนวน 3,697.28 ล้านบาท และอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่ มูลค่าประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของปี 2565 บริษัทฯคาดว่าสถานการณ์โดยรวมจะเริ่มคลี่คลาย จากการที่ภาครัฐเร่งระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯจึงเร่งงานประมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อพร้อมดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบในช่วงที่สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ โดยครึ่งปีหลังของปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้กระจายงานออกไปสู่ต่างจังหวัด เนื่องจากพื้นที่ในกรุงเทพฯมีความเสี่ยงด้านการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การดำเนินงานครึ่งปีหลังดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก แม้จะได้รับผลกระทบจากการปิดแคมป์ก่อสร้างบางส่วน ซึ่งปัจจุบันได้กลับมาเปิดให้ดำเนินงานตามปกติเกือบ 100% แล้ว
ส่วนการดำเนินงานด้านต้นทุนนั้นจากปัญหาราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น บริษัทฯได้สั่งซื้อวัตถุดิบ จำพวกเหล็ก ตุนในราคาต้นทุนไว้ล่วงหน้าแล้วพร้อมใช้เริ่มงานได้ทันทีหลังประมูลงาน รวมถึงได้ลงทุนกว่า 40 ล้านบาทซื้อเครื่องจักรเพื่อใช้ในการรับเหมาก่อสร้าง อาทิ รถสิบล้อ รถแมคโคร รถเกรด และรถบด และมีแผนจะซื้อเพิ่มอีกในวงเงินเดิม เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านงานเช่าและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ภายในระยะเวลาและงบประมาณที่กำหนด
จุดแข็งของ WGE คือการปรับตัว ขยายพอร์ต เรียนรู้งานใหม่ๆ มีงานสะพาน งานเขื่อน และงานใหม่อีกมาก แต่เราเชื่อว่าเราสามารถจัดการได้ เราเน้นงานที่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรมากขึ้น
“ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น งานพวกนี้คือการปรับตัวเพื่อการอยู่รอด ไม่พึ่งพาแรงงานเหมือนเดิม ถึงแม้เราจะมีผลกระทบจากโควิด-19 ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เรายังคงเข้มแข็ง เดินหน้าและโฟกัสในธุรกิจรับเหมาของเราต่อไปอย่างต่อเนื่อง” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
ด้านผลประกอบการนั้น ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 มีมติให้บริษัทฯดำเนินการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2564 เป็นทุนสำรองตามกฎหมาย เป็นเงินจำนวน 3.5 ล้านบาท ซึ่งไม่น้อยกว่า 5% ของกำไรสุทธิ และจ่ายปันผลประจำปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท เป็นเงิน 30 ล้านบาท ทั้งนี้การจ่ายปันผลดังกล่าวให้จ่ายแก่ผู้ถือหุ้นเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฎรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2565 กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เม.ย. 2565 โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2565
“การจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นขอบคุณที่ผู้ถือหุ้นมีความเชื่อมั่นต่อบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่บริษัทฯยังสามารถทำผลงานออกมาได้ในระดับที่ดี และบริษัทฯหวังว่าในปี 2565 จะสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรักษาการเติบโตไว้เป็นอย่างดี เพื่อสามารถสร้างผลกำไรและผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงต้นปี 2565 มีสัญญาณที่ดีโดยบริษัทฯสามารถประมูลงานโครงการได้มากขึ้น ส่งผลให้มีมูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3,061.80 ล้านบาท สนับสนุนผลงานในช่วงไตรมาส 1/2565 น่าจะออกมาโดดเด่นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ขณะเดียวกันบริษัทฯได้เตรียมความพร้อมในการยื่นประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนมูลค่าไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายยอดงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท
WGE เซ็นสัญญากับ บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด(มหาชน) หรือ CMC เพื่อก่อสร้างอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น 2 อาคาร ในโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ แอท เสนาสเตชั่น
อนึ่งในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามสัญญาจ้างงานก่อสร้าง โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ แอท เสนาสเตชั่น (ชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน พัฒนาโดยกลุ่มบริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน)) ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 292,500,000.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีผู้ว่าจ้างเป็น บริษัท พระยาพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยลักษณะงานประเภทก่อสร้างอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น 2 อาคาร ประกอบด้วย งานโครงสร้าง สถาปัตยกรรม งานระบบประกอบอาคาร งานภูมิสถาปัตยกรรมและงานตกแต่งภายใน และมีระยะเวลาการก่อสร้าง 12 เดือน
บริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ WGE ดำเนินธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างประเภทต่างๆ ทั้งงานภาครัฐและเอกชน เช่น คอนโดมิเนียมแนวราบและแนวสูง โรงพยาบาล สำนักงาน ซึ่งครอบคลุมถึงงานวิศวกรรมโยธา งานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารและงานภูมิสถาปัตย์ รวมถึงงานก่อสร้างงานระบบสาธารณูปโภคตามแบบที่ลูกค้ากำหนด โดยบริษัทฯเป็นทั้งผู้รับจ้างโดยตรง (Main Contractor) และเป็นผู้รับเหมาช่วง (Sub Contractor) ด้วยการดำเนินการก่อสร้างและส่งมอบโครงการให้แก่ลูกค้าด้วยผลงานเป็นที่พึงพอใจได้ตามกำหนดเวลา ส่งผลให้บริษัทฯได้รับโอกาสทางธุรกิจในการให้บริการรับเหมาก่อสร้างโครงการที่มีขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง
โครงการก่อสร้างอาคารสีเขียว ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านการทำพิธีบวงสรวง วางศิลาฤกษ์ เพื่อเริ่มต้นก่อสร้างอย่างเต็มตัวแล้ว
โดยบริษัทฯ มีโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) เพื่อเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป เริ่มตั้งแต่ ขั้นตอนการออกแบบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ควบคุมการผลิตด้วยผู้เชี่ยวชาญ สามารถผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูปที่มีคุณภาพหลากหลาย เพื่อเพิ่มศักยภาพให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีประสิทธิภาพภายในระยะเวลาที่กำหนด ด้วยพันธกิจ “งานมีคุณภาพได้มาตรฐาน เสร็จตรงเวลา และอยู่ภายใต้งบประมาณที่กำหนด เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า”
Well Graded ผ่านการรับรอง ISO 45001:2018
อนึ่ง WGE ได้ให้ความสำคัญเรื่องการทำงานภายไต้ความปลอดภัยมาโดยตลอด อีกครั้งที่ตอกย้ำเรื่องมาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยผ่านการรับรอง ISO 45001:2018 มาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัย และ ความปลอดภัย จาก "บริษัท ยูไนเต็ด รีจิสตร้า ออฟ ซิสเท็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด" หรือ URS ซึ่งเป็นบริษัทผู้ตรวจประเมินมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรชั้นนำในระดับโลก โดยความสำเร็จครั้งนี้ ตรงตามนโยบายที่มุ่งมั่นของบริษัทที่ว่า "คุณภาพที่ดี ต้องมาพร้อมกับ ความปลอดภัยที่ดี"