บอร์ดใจป้ำ จ่ายเงินปันผลอีกในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปีจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น สะท้อนเป็นหุ้นแกร่งทั้ง Growth Stock และ Dividend Stock แถม ไร้ภาระหนี้ระยะยาว มั่นใจ ผลงานปี 62 เติบโตต่อเนื่อง จากแรงหนุนอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาฯ ขยายตัว

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำกลุ่มธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจปี 2562 มั่นใจจะเติบโตต่อเนื่อง รับภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวทั้งแบบแนวราบและแนวสูง ขณะที่ อยู่ระหว่างเดินหน้าประมูลงานใหม่ สนับสนุนงานในมือ (Backlog) และผลประกอบการให้เติบโตแข็งแกร่ง

ล่าสุด ประกาศผลประกอบการงวดประจำปี 2561 มีการเติบโตตามคาดหมาย กลุ่ม STI มีรายได้จากการให้บริการ 631.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.83 ล้านบาท หรือคิดเป็น 27.67% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากรายได้จากธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง มีปริมาณงานที่ให้บริการเพิ่มขึ้น อาทิ โครงการ One Bangkok , โครงการ The PARQ และโครงการประเภทอาคารอเนกประสงค์ เป็นต้น สนับสนุนให้กำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 73.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.65 ล้านบาท หรือ 27.26% มีกำไรขั้นต้น 200 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 31.68 และมีค่าใช้จ่ายจากการบริหารจัดการเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

สำหรับต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 1.14 ล้านบาท ลดลง 31.04% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินและหนี้สินตามสัญญาเช่าการเงิน รวมทั้ง ได้จ่ายเงินกู้ยืมระยะยาวคงเหลือทั้งหมดและปิดวงเงินกู้ยืมระยะยาวดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว สะท้อนฐานะการเงินของบริษัทฯ ที่แข็งแกร่ง

เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น และสร้างความเชื่อมั่นภาพรวมธุรกิจมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสดประจำปี 2561 ในอัตรา 0.40 บาทต่อหุ้น โดย STI จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น ดังนั้น บริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมให้ผู้ถือหุ้นอีกในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น โดยจ่ายจากกำไรสุทธิงวดวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 29 เมษายน 2562 และวันที่จ่ายปันผล 22 พฤษภาคม 2562

"ในปี 2561 ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัว มีการลงทุนจากภาครัฐบาลและเอกชนในงานโครงการขนาดใหญ่ สนับสนุนให้รายได้จากธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ซึ่งเป็นรายได้หลักของกลุ่ม STI มีการเติบโตที่ อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ กลุ่มบริษัทมีการเพิ่มจำนวนพนักงานเพื่อรองรับปริมาณงานที่สูงขึ้น จึงมั่นใจได้ว่า ในปี 2562 เราพร้อมลุยงานอย่างเต็มกำลัง และจะเป็นอีกปีทองของกลุ่ม STI ให้สามารถทำผลงานนิวไฮอย่างต่อเนื่องได้

โดยในช่วงต้นปี 2562 ที่ผ่านมา STI ได้เซ็นสัญญารับงานบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ในโครงการ One Bangkok เฟส 1 เพิ่มเติม และโอกาสในการดูแลงานโครงการ One Bangkok ในเฟสต่อไป รวมถึง อยู่ระหว่างเข้าร่วมประมูลงานโครงการจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศอย่างต่อเนื่อง คาดจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้" นายสมเกียรติ กล่าว