บริษัท สยามไฟเบอร์กลาส จำกัด ในเครือธุรกิจเอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เป็นผู้ผลิตฉนวนประเภทใยแก้วทั้งฉนวนกันความร้อนเอสซีจี แผ่นโปร่งแสงเอสซีจี และวัสดุอะคูสติกเอสซีจี อีกทั้งยังได้รับรางวัลฉลากเขียวอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เนื่องจากเป็นผู้ผลิตเจ้าแรกที่ใช้เศษแก้วแทนทรายในการผลิตฉนวนเพื่อช่วยลดพลังงานในการหลอมแก้ว ลดการใช้ทรายจากธรรมชาติ ตลอดจนลดปริมาณขยะขวดแก้วภายในประเทศ

คุณสลิล กันตนฤมิตรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สยามไฟเบอร์กลาส จำกัด ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการทำฉนวนกันความร้อนจนพัฒนามาเป็นฉนวนกันเสียงไว้ว่า “ต้องบอกก่อนว่าฉนวนกันความร้อนเมื่อก่อนยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะคนเรายังไม่ค่อยกังวลเรื่องความร้อนมากเท่าที่ควร คนส่วนใหญ่จะคิดว่าถ้าอากาศร้อนเราก็แค่เปิดแอร์ซึ่งนั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ยังไม่ถูกจุดนัก เพราะยิ่งอากาศร้อนมันยิ่งส่งผลให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้นและปริมาณค่าไฟก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน พอมาในช่วงปี 2539 เราจึงเริ่มพัฒนาฉนวนกันความร้อนรุ่น ‘Stay Cool’ เป็นแผ่นปูบนฝ้าเพดาน ซึ่งเราได้ทำการวิจัยมาแล้ววว่าสามารถประหยัดค่าไฟได้ถึง 47% จนเรามาค้นพบว่านอกจากใยแก้วจะช่วยในเรื่องของการกันความร้อนแล้ว ตัวใยแก้วเองยังมี dead air gap หรือโพรงอากาศนิ่งที่อยู่ภายในตัวเนื้อฉนวนที่ช่วยในการดูดซับพลังงานเสียงได้อีกด้วย”

ซึ่งหลังจากที่พบข้อดีจุดนี้ของฉนวนใยแก้วแล้ว ทางบริษัทสยามไฟเบอร์กลาสจึงเริ่มมีแนวคิดที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ฉนวนใยแก้วให้สามารถใช้งานเป็นฉนวนกันเสียงได้

และด้วยปัจจุบันที่มีมลภาวะทางเสียงอยู่มาก นี่จึงถือเป็นโอกาศดีที่ทางบริษัทจะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

“ในช่วงปี 2552 ได้มีการจัดตั้งหน่วยงาน ‘Cylence Expert เป็นการรวบรวมวิศกรที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของเสียงเพื่อมาร่วมค้นคว้าวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องเสียงที่เกิดขึ้นตามสถานที่ต่าง ๆ” กล่าวเพิ่มเติมโดย คุณสลิล

เมื่อทำการคิดค้นแล้วจึงพบว่าคุณสมบัติของการลดพลังงานเสียงแบ่งออกได้เป็น 2 อย่าง คือ การป้องกันเสียง ซึ่งก็คือการป้องกันไม่ให้เสียงทะลุจากอีกห้องหนึ่งไปสู่อีกห้องหนึ่ง และการดูดซับเสียง ที่ช่วยในเรื่องการเพิ่มคุณภาพเสียงที่อยู่ในห้อง เช่น การใส่ฉนวนเข้าไปเพื่อลดเสียงก้องหรือป้องกันไม่ให้เสียงดังขึ้น และจากที่ได้ศึกษาตัววัสดุใยแก้วแล้ว พบว่าใยแก้วสามารถดูดซับเสียงที่ส่งผ่านออกมาได้ถึง 90% ทั้งนี้ ตัวใยแก้วจำเป็นต้องมีวัสดุปิดผิวเพื่อป้องกันการกระแทก โดยจะแบ่งออกเป็นตัวดูดซับเสียงที่มี 2 ลักษณะ คือ Glass Cloth ผ้าอุตสาหกรรมที่เน้นเรื่องความแข็งแรงทนทานเป็นหลัก เน้นการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม และผ้าเฟอร์นิเจอร์ ที่ใช้ในการตกแต่งตามห้องประชุม สัมนา หรือตามที่อยู่อาศัย ส่วนตัวป้องกันเสียงจะใช้ร่วมกับวัสดุปิดผิวแบบแข็ง เช่น สมาร์ทบอร์ด ยิปซัม หรือแผ่นไม้อัด เพื่อป้องกันไม่ให้เสียงทะลุไปยังอาคารอื่น เหมาะกับการใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ยังมีจุดแข็งทั้งในด้านของขั้นตอนการผลิตที่ทางบริษัทได้ใช้เทคโนโลยีจากอเมริกา ซึ่งสามารถผลิตให้เส้นใยออกมาสม่ำเสมอและเรียงตัวกันได้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังสามารถผลิตสินค้าให้เป็นเนื้ออัดแข็งที่มี Identity สูงเกิน 100 กิโลกรัม/ลูกบาศก์เมตร รวมไปถึงมีการทดสอบคุณภาพและการใช้งานของตัวดูดซับเสียงเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของตัวผลิตภัณฑ์อีกเช่นกัน

สำหรับวัสดุอะคูสติกหรือฉนวนกันเสียงของเอสซีจีมีทั้งหมด 4 รุ่น แบ่งออกเป็นตัวป้องกันเสียง 1 รุ่น และตัวดูดซับเสียง 3 รุ่น ที่สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้ ดังนี้

ผนังกันเสียง รุ่น Cylence™ Zoundblock™เป็นฉนวนแผ่นแข็งสีเทา ใช้สำหรับการกันเสียงระหว่างผนังหรือในส่วนต่อเติมต่าง ๆ โดยใช้ร่วมกับผนังสมาร์บอร์ด ซิปซั่ม ผนังอิฐมวลเบา และผนังอื่น ๆ เพื่อประสิทธิภาพในการกันเสียงให้ดียิ่งขึ้น

ผนังดูดซับเสียง รุ่น Cylence™ Zoftone™ เป็นแผ่นบุผนังสำเร็จรูป ช่วยในการดูดซับเสียงสะท้อนและลดเสียงก้อง ผลิตจากแผ่นกลาสวูลที่ผ่านการเข้ารูปให้เป็นแผ่นและหุ้มรอบด้วยผ้าใยแก้วชนิดพิเศษ ซึ่งตัวนี้จะเน้นที่การใช้งานมากกว่าความสวยงาม เหมาะสำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม สตูดิโอ และห้องซ้อมดนตรี เป็นต้น

ผนังดูดซับเสียง รุ่น Cylence™ Zandara™ผลิตจากแผ่นกลาสวูลที่ผ่านการขึ้นรูปให้เป็นแผ่นแข็ง มีน้ำหนักเบา หุ้มด้วยผ้า 2 ชนิดคือผ้ามาตราฐานและผ้า ‘Pasaya’ ติดตั้งง่าย มีให้เลือกหลายสีหลายรูปแบบ เหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องประชุม เน้นใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้อง

ฝ้าเพดานดูดซับเสียง Cylence™ Wondery™ฝ้าเพดานสำเร็จรูป ช่วยในการลดเสียงสะท้อน ผลิตจากฉนวนกลาสวูลความหนาแน่นสูง มีลวดลายสวยงาม ง่ายต่อการติดตั้ง เหมาะกับใช้งานในห้องที่มีการตกแต่งอยู่ก่อนแล้ว เช่น โบสถ์คริส สำนักงาน ช้อปปิ้งมอลล์ ห้องประชุม เป็นต้น

ในส่วนของการโปรโมท คุณสลิลเผยว่า “ช่วงแรกเราต้องใช้ความพยายามเยอะหน่อย เพราะคนยังไม่ค่อย concern เรื่องของเสียงมากเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ถูกกดดันมาจริง ๆ เช่น โรงงานที่ถูกสั่งปิด หรือวัดที่อยู่ตามเขตชุมชนอะไรแบบนี้ แต่ในช่วง 2-3 ปีหลัง คนเริ่มเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์และเริ่มหันมาสนใจการแก้ปัญหาเรื่องเสียงรบกวนมากขึ้น เราจึงเริ่มทำการโปรโมทผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ หรือเพจเฟสบุ๊คของ SCG และยังมีการจัดสัมนาให้ความรู้ ทำโชว์เคสตามภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงจัดเป็นห้องโชว์ตาม SCG Home Solution และตาม SCG Experience ด้วย”

สุดท้ายนี้จะเป็นในเรื่องของบริการหลังการขายที่ทางสยามไฟเบอร์กลาสและ SCG ได้จัดตั้งหน่วยงานที่ให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบและยังให้ความช่วยเหลือในด้านการดีไซน์เพื่อแก้ปัญหาเสียงรบกวนที่เกิดขึ้น หรือที่เรียกว่า ‘Total Solution’ และหากท่านหากใดที่ติดตามเว็บไซต์ของ SCG อยู่ก็สามารถรับข้อมูลรายละเอียดวิธีการติดตั้งแบบคร่าว ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ของ SCG ได้โดยตรง