IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
อย่างที่ทราบกันดี ทุกวันนี้โลกต้องเผชิญกับปัญหาภาวะเศษฐกิจถดถอย จากหลายๆ ปัจจัยที่รุมเร้า ทั้งไวรัสโควิด, สงครามรัสเซีย-ยูเครน, วิกฤตอสังหาในจีน, ปัญหาซับไพรม์สหรัฐที่ก็ยังไม่จบ โดยเฟดต้องขึ้นดอกเบี้ยสูงเป็นประวัติการณ์, ยังมีเรื่องความอ่อนไหวของจีน-ไต้หวัน และล่าลุดสงครามพลังงานระหว่างอียูกับรัสเซีย, หรือปัญหาเงินเฟ้อที่ก่อตัวบนปัญหาเงินฝืดไร้กำลังซื้อ สร้างหนี้สินครัวเรือนให้ถีบตัวสูงลิ่วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนของประเทศไทยเรา ทุกปัญหาเหล่านี้ ล้วนถั่งโถมเข้าทำลายภาวะเศษฐกิจโลกและเศษฐกิจไทย สร้างปัญหาใหญ่ให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SME และผู้รับเหมา ที่ต้องพยายามยืนหยัดต่อสู้เพื่อความอยู่รอดให้ได้ ทีมกลางเศษฐกิจวิถีใหม่ยุค New Normal
กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เป็นกลุ่มธุรกิจแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบเมื่อเกิดภาวะเศษฐกิจไม่ว่าจะเป็นวิกฤติครั้งใดก็ตาม สิ่งแรกสุดที่เกิดขึ้นในตลาดก็คือการชะลอการลงทุนและก่อสร้าง ผู้รับเหมารายใหญ่อาจไม่กระทบอะไรมากนัก เพราะมีโครงการมหาโปรเจคภาครัฐทั้งหลายคอยป้อนงานต่อเนื่องให้ตลอด แต่เศษฐกิจแบบนี้สร้างปัญหาให้ผู้รับเหมารายย่อยอย่างไม่ต้องสงสัย ต้องดิ้นรน ปรับตัวอย่างหนัก หลายรายขาดงาน ขาดทุน ต้องปิดตัว ล้มหาย ปิดกิจการไปมากมาย
แต่ยังมีผู้รับเหมารายย่อยส่วนหนึ่ง ที่มีความเก่งกาจในการปรับตัว หนึ่งในนั้นคือ "บริษัท โตเต็ม 100 เพาเวอร์กรุ๊ป จำกัด" โดยวันนี้สำนักข่าว IM ได้รับเกียรติจาก คุณปิยะศักดิ์ มั่งคั่ง กรรมการผู้จัดการบริษัท ที่สละเวลาให้เกียรติตอบคำถามสัมภาษณ์ขณะเดินตรวจงาน โดยได้เปิดเผยเคล็ดลับการบริหารฝ่าวิกฤติ ที่แม้ในสภาวะเช่นนี้ บริษัทยังมีงานในมือต่อเนื่อง สร้างการรับรู้รายได้ไม่ขาด มิหนำซ้ำยังสั่งสมประสบการณ์และสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักจากปากต่อปาก ด้วยคุณภาพของงานที่มีมาตรฐานสูง ด้วยการบริหารงานที่คล่องตัว เป็นระบบ เป็นมืออาชีพ จนกลายเป็นบริษัทรับเหมารายย่อยที่ได้รับการยอมรับเป็นอันดับต้นๆ ในเวลานี้
คุณปิยะศักดิ์ มั่งคั่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตเต็ม 100 เพาเวอร์กรุ๊ป จำกัด
จุดเริ่มต้นของ บริษัท โตเต็ม 100 เพาเวอร์กรุ๊ป จำกัด และพันธมิตร?
แรกเริ่มนั้นผมและเพื่อนๆ ก็รวมตัวกันเพื่อรับงานก่อสร้างและงานรีโนเวท ก็เหมือนกับหลายๆ บริษัทรับเหมา ที่เรียนจบมาก็ทำงาน เมื่อสั่งสมประสบการณ์ได้ระดับหนึ่งก็รวมกันเปิดบริษัทนั่นแหละครับ เรารวมตัวกันหลายคนรับงานหลายอย่าง เอาทุกรูปแบบ ใช้แรงงานเยอะ ต้องมีกำลังพลเยอะ ต้องรับงานขนาดกลางๆ เท่านั้น แต่พอถึงจุดนึงสภาพเศษฐกิจมันเปลี่ยน งานไม่ต่อเนื่อง และความคล่องตัวเป็นสิ่งสำคัญ จึงตัดสินใจกันแยกมาเปิดบริษัทเล็กๆ ตามความถนัดของแต่ละคน ทำให้ปัจจุบันแต่ละคนสามารถรับงานขนาดเล็กๆ ก็สามารถเลี้ยงดูกำลังพลมีรายได้ต่อเนื่องและทำกำไรได้ ทั้งยังมีงานมากมายให้เลือกหากเรารักษามาตรฐานงานที่ดี คล่องตัวกว่าเดิมมาก แต่พวกเรายังคงเป็นพันธมิตรกันครับ หากได้รับงานใหญ่เราก็จะมารวมกัน ตอนนี้บริษัทผม (โตเต็ม 100) มีแมนเพาเวอร์ประมาณ 20 กว่าคน แต่ถ้ารวมกับบริษัทเพื่อนๆพันธมิตรแล้ว เราจะมีกำลังพลราว 150-200 คนเลยทีเดียว
การแยกทีมออกมาเป็นทีมเล็ก เหมาะกับสภาพเศษฐกิจและสภาพการทำงานในปัจจุบันมากกว่าการรวมทีมใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารต้นทุนแรงงาน หรือการหางานใหม่ๆ ให้มีงานในมือมีแบล็คล็อคในมืออย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการตัดสินใจแก้ปัญหาอะไรก็ง่าย ไม่ต้องผ่านมติที่ประชุม บริษัทผมตอนนี้ ผมมีอำนาจการตัดสินใจเพียงผู้เดียว ทำให้สะดวกและรวดเร็วในการทำงานและการแก้ปัญหา ปัญหาบางอย่างแก้ปัญหาได้เร็วความเสียหายก็น้อย ความคล่องตัวและการผสสานพันธมิตรเป็นสิ่งสำคัญมากเลยครับ
การตะเวนรับงานต่างจังหวัดนับเป็นเรื่องดีในตอนนั้น เราเองก็ได้งานได้เงินหมุน ทีมงานเองก็มีรายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างต่อเนื่องด้วย และเราก็สามารถให้มีสวัสดิการกับทีมงานเต็มที่จึงสามารถปฎิบัติหน้าที่ให้งานลุล่วงไปด้วยดีทุกจ๊อบ และผ่านวิกฤติโควิดมาได้โดยไม่บอบช้ำ
หาช่างมีประสบการณ์ มีทักษะสูง ดูสนุกในการทำงานเหล่านี้มาจากไหน?
คือช่างพวกนี้อยู่กับผมมาตั้งแต่แรกๆ แล้วครับ ราว 15-18 ปี ตั้งแต่เริ่มรับเหมาก่อสร้าง คือเราไม่ได้รับสมัครคนใหม่เพราะคนเก่าไม่มีใครลาออกไปเลย (หัวเราะ) ช่างเหล่านี้ผ่านงานมาเยอะ ต้องพูด ต้องสอน ต้องฝึกฝน ต้องย้ำเยอะ เพื่อให้ช่างมีแนวคิดที่ตรงกับเรา ตอนนี้เมื่อเค้ามีประสบการณ์มากขึ้น ง่ายขึ้นเยอะ เค้าจะรู้ว่าเราเน้นอะไร ตรงไหนที่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ ลูกค้าบอกว่าเรามีทีมช่างฝีมือดี ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นจากเวลา ประสบการณ์ และความพิถีพิถันเอาใจใส่ฝึกอบรม เพิ่มทักษะ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญนะ ถ้าคิดจะทำอาชีพรับเหมาให้มั่นคงยั่งยืน ต้องใส่ใจในการพัฒนาฝีมือช่าง งานฝีมือดีงานก็สวย งานเนี้ยบ เสร็จไว ไม่เสียเวลา ลูกค้าก็ชอบ ถ้าไม่ใส่ใจในการพัฒนาช่างหวังแต่งานเสร็จใว งานจะมีแต่ปัญหา เสียเวลาแก้ไข เสียเงินเสียทอง ลูกค้าไม่พอใจ งานไร้มาตรฐาน แบบนี้ไม่ยั่งยืน
ช่างพวกนี้อยู่กันมานานไม่ยอมไปไหน เพราะเราดูแลเค้าดี เหมือนเป็นคนในครอบครัวเรา เหมือนญาติเรา ผมใช้เวลาอยู่กับพวกเค้าในแต่ละวันมากกว่าอยู่กับคนในครอบครัวซะอีก (หัวเราะ) ไม่ใช่เฉพาะเรื่องงาน การอยู่ การกิน การใช้ชีวิต เราดูแลเค้าหมด พวกเค้ามีปัญหาอะไรชีวิตก็ปรึกษาผมได้ตลอด พวกเค้าดูอารมณ์ดี เค้าอยู่กับเราแล้วสบายใจ ผมว่ามันคือจุดแข็งอย่างหนึ่งของการทำบริษัทเล็กๆ เราสามารถเข้าถึงพนักงานได้ทุกคน ทำให้เค้าเข้าใจแนวคิดของเรา และเข้าใจงานได้อย่างดี
ปลูกฝังแนวคิดการทำงานอะไรให้ทีมช่าง?
แนวคิดที่ผมพยายามปลูกฝังมีหลายอย่าง แต่ที่เราเน้นมากตอนนี้ก็คือ Zero Error หรือ Zero Mistake คือเราจะเน้นเรื่องปัญหาหน้างาน ปัญหาจากการทำงาน ให้น้อยที่สุดหรือไม่มีเลยยิ่งดี อย่างที่ทราบกันดีงานรับเหมาที่ขาดทุนกันนั้น ส่วนใหญ่ก็เพราะเจอปัญหาเหล่านี้ ให้ตามแก้ไขกันนี่แหล่ะ ยิ่งเรามีปัญหาน้อยยิ่งใช้เวลา ใช้เงิน ใช้ทรัพยากรแก้ปัญหาน้อย ทั้งยังสร้างความไม่พอใจให้กับลูกค้าด้วย ยิ่งเราก่อสร้างบ้านถ้ามีปัญหาทีหลัง เช่น ถ้าน้ำรั่ว น้ำท่วมบ้าน ท่อแตก หลังคารั่ว เมื่อมันเกิดหลังจากลูกค้าย้ายเข้าไปอยู่แล้ว ลูกค้าจะรู้สึกเช่นไร การแก้ปัญหาก็ยาก การแก้ปัญหาทีหลังมันยากอยู่แล้ว ฉะนั้นต้องเน้นทำให้ดีเยี่ยมไปตั้งแต่แรกเลยจะดีกว่า
การปลูกฝังแนวคิดมันยาก มันไม่ใช่แค่การพูดย้ำบ่อยๆ แต่ต้องลงรายละเอียดถึงเนื้อในหน้างาน เช่น เราต้องอธิบายหน้างานให้เค้าฟังเลยว่า ถ้าเราไม่เสริมเหล็กรอบฟอร์เดนจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บางอย่างต้องแสดงให้เค้าเห็น หาคลิปให้ดู ต้องเน้นเพื่อเป้าหมายปัญหางานต้องน้อยที่สุด และหากช่างคนไหนทำพลาด ผมจะให้ช่างคนนั้นแหล่ะตามไปแก้ปัญหา เค้าจะได้จำและมีความรอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วนในการทำงาน จะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก สิ่งสำคัญเราต้องรู้ปัญหาตลอด เรายืนอยู่หน้างานเราก็จะสื่อสารกับทีมงานตลอด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและมาคอยตามแก้ทีหลัง เราละเอียดในงานทีมงานก็จะละเอียดตามเรา เราเน้นป้องกันปัญหาดีกว่ามาตามแก้ปัญหา
เน้นสร้างงานคุณภาพ!
ยุคโซเชี่ยลนี้ เรื่องแย่ๆ แพร่กระจายไปไวกว่าเรื่องดีๆ หากมีอะไรผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย ข่าวสารจะไปเร็วมาก อย่างไรก็ตามเรื่องดีก็เล่าต่อกันไปได้ไกลเหมือนกัน ในยุคนี้การรักษาชื่อเสียงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราต้องสร้างงานที่มีคุณภาพ และต้องพยายามรักษามาตรฐานของงานเอาใว้ให้ดี ต้องจริงจังทุกรายละเอียด ผมพยายามอยู่หน้างานตลอด เวลาเราทำงานเหมือนเราออกรบ ขุนศึกต้องอยู่กับทหาร ทีมงานตากแดดเราก็ต้องตากแดด เราลุยด้วยกัน เวลาเขามีปัญหาเราก็แก้ไขได้ทัน ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นเราจะรับผิดชอบ ถ้าเขาทำงานตามที่เราสั่ง แต่ถ้าเขาทำนอกเหนือจากนั้นเขาต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่เราที่ต้องคิดถึงการสร้างงานที่มีคุณภาพ แต่ช่างทุกคนต้องคิดเหมือนเรา ต้องมีแนวคิดเน้นสร้างงานคุณภาพเหมือนกันทุกคน
ปัจจุบันงานที่เราทำส่วนใหญ่คืองานสร้างบ้านเป็นหลัง บ้านไม่ใช่แค่อาคารสิ่งปลูกสร้าง แต่มันคือความหวัง ความฝัน คือสถานที่ของการสร้างครอบครัว เป็นสถานที่ให้เด็กๆได้เติบโต บ้านจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราเน้นก่อสร้างด้วยความใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่าง เพราะเราเข้าใจหัวจิตหัวใจของลูกค้า เราจึงพิถีพิถันทุ่มเทเหมือนทุกหลังเป็นบ้านของเราเอง
ดูเหมือนช่างสนุกกับงาน ทำงานไปร้องเพลงไปด้วย!
ถ้าเราได้ทำสิ่งที่เรารัก เราจะสนุกกับมัน ถ้าเค้ารู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่สำคัญ เค้าก็จะทำมันด้วยหัวใจและความตั้งใจ การปลูกฝังแนวคิดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญไง เมื่อเราสอนให้เค้าคำนึงถึงคุณค่าของงานที่ทำ เค้าจะใส่ใจในรายละเอียดของมัน เค้าจะภูมิใจกับมัน เมื่อบ้านสร้างเสร็จเค้าขับรถผ่าน เค้าจะสามารถชี้ให้ลูกๆดูได้อย่างภาคภูมิใจว่า นี่คือบ้านที่พ่อสร้าง เรื่องเหล่านี้คือเรื่องสำคัญ
อีกอย่างที่พวกช่างอารมณ์ดี เพราะเราปฏิบัติต่อพวกเค้าดี เราดูแลเค้าดีมาก กินด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาตลอด อะไรที่เราเปย์ให้เค้าได้ เราต้องเปย์ให้เค้า โดยเฉพาะเรื่องงาน อย่างอุปกรณ์เซฟตี้ต่างๆ เราต้องจัดหาให้เค้าฟรีๆ เพราะเมื่อไหร่ที่ให้เค้าต้องซื้อเอง เค้าจะซื้อของถูกๆ ไร้คุณภาพ เอามาใช้ก็อันตรายต่อตัวเองและเพื่อนร่วมงาน เพราะฉะนั้นเราต้องซื้อให้เค้า หรืออย่างอุปกรณ์ป้องกันโควิด ทุกอย่างเราต้องซื้อให้เค้า ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากปิดจมูก ชุดตรวจ ATK หรือแม้แต่ชุดสม็อค เราก็ต้องซื้อให้เค้า ซื้อของดีๆ แพงๆไปเลย เมื่อเค้าได้ของดีๆใช้ เค้าก็จะพึงพอใจ
บ้านนครนายก ออกแบบก่อสร้างให้มีอารมณ์ของตัวอาคารกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมของภูมิประเทศ เนื่องจากสถานที่ตั้งของโครงการอยู่ในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว คือจังหวัดนครนายก
ช่วงโควิดผ่านมาได้อย่างไร ปรับตัวอย่างไร?
ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ช่วงเริ่มต้นการระบาด มีการล็อคดาวน์ บริษัทค่อนข้างมีผลกระทบมาก เรามีงานแต่ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ โครงการที่ทำโดนล็อกดาวน์ งานหยุดชะงัก เงินชะงัก เรามีโจทย์ใหญ่คือต้องมีงานให้ลูกน้องทำต่อเนื่อง โดยที่การใช้ชีวิตต้องไม่เกี่ยวข้องติดต่อกับผู้คนมากมายนัก จึงเห็นควรไปรับงานต่างจังหวัด เพื่อรักษาทีมงานเอาไว้
เราโชคดีที่ไม่คิดเหมือนคนอื่น (หัวเราะ) หลายคนคิดว่าโควิดแปบเดียวก็คงจบแล้วรอดีกว่า เดี๋ยวก็คงกลับไปทำงานได้ กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้ แต่ก็อย่างที่เห็น วิกฤติมันลากยาวไม่รู้จบ หากใครสายป่านไม่ยาวพอก็เจ๊ง หากเรารองานเราคงเจ็บไปเยอะ การตะเวนรับงานต่างจังหวัดนับเป็นเรื่องดีในตอนนั้น เราเองก็ได้งานได้เงินหมุน ทีมงานเองก็มีรายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างต่อเนื่องด้วย และเราก็สามารถให้มีสวัสดิการกับทีมงานเต็มที่จึงสามารถปฎิบัติหน้าที่ให้งานลุล่วงไปด้วยดีทุกจ๊อบ และผ่านวิกฤติโควิดมาได้โดยไม่บอบช้ำ
ทิศทางบริษัทในอนาคต!
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในอนาคต ผมจะเน้นเข้าไปโฟกัสงานของโครงการเองทุกโครงการโดยเน้นรับงานคุณภาพไม่ให้โอเวอร์โหลดเกินไป มีแผนในการขยายทีมออกไปบนพื้นฐานการเน้นพัฒนาทักษะบุคคลากร เพื่อให้สามารถปฎิบัติงานและแก้ปัญหาได้เอง และต้องมีแนวคิดเหมือนเรา ซึ่งนอกจากช่างจะต้องทำงานเก่งแล้ว การเข้ากับชุมชนรอบข้างโครงการเป็นสิ่งสำคัญ การรับเหมาต่อเติม ก่อสร้าง รีโนเวท บนที่ดินตนเอง ในขณะก่อสร้างจะกระทบกับชุมชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราต้องฝึกช่างให้รับฟังและกลมกลืนกับชุมชน ต้องรับฟังและแก้ปัญหาให้ชุมชน อย่าไปสร้างปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียง เรื่องกลิ่น เรื่องฝุ่น หรือการปฏิบัติตัว อย่างถ้าเราก่อสร้างในชุมชนพี่น้องมุสลิม เราก็ต้องปรับตัวกับวิถีของเค้า
คืองี้ ทิศทางของบริษัทก่อสร้างในอนาคตในความเห็นผม ไม่ใช่ว่าจะแข่งขันกันแค่งานก่อสร้างให้ได้คุณภาพตรงตามแบบแค่นั้นก็จบ แต่จะต้องไปแข่งขันกันเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่นการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับชุมชน ในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ เรื่องนี้เริ่มเป็นประเด็นที่สำคัญ เนื่องด้วยกฏหมายชุมชน และกฏหมายท้องถิ่นต่างๆ ประเทศไทยก็เช่นกันไม่ช้าก็เร็ว ผมจึงคิดว่าการวางแนวคิดของทีม ปลูกฝังการก่อสร้างที่เป็นมิตรกับชุมชนจึงเป็นเรื่องสำคัญ
นอกจากนี้ เรายังพยายามคิดหาปรับปรุงแก้ไขวิธีการทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้สามารถดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งมอบงานคุณภาพที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้อย่างตรงใจและตรงเวลา อย่างไรก็ตามในอนาคตบริษัทเน้นการพัฒนาศักยภาพการดำเนินงานโครงการให้ดีที่สุด เพื่อเตรียมขยายทีมให้รองรับงานที่มีสเกลใหญ่กว่านี้
TOTEM 100 TEAM บริการออกแบบ ก่อสร้าง ต่อเติม ปรับปรุง รีโนเวท ตกแต่งภายใน ปรับทัศนียภาพพื้นที่รอบๆ ตัวอาคาร ได้สั่งสมประสบการณ์ ในการก่อสร้าง ออกแบบ รีโนเวท ตกแต่งภายใน มามากมายและหลากหลาย เราสร้างสรรค์ผลงาน ที่มีคุณภาพด้วยความเอาใจใส่และความเชี่ยวชาญ ควบคุมทุกงานโดยทีมงานมากความสามารถ ที่ไม่ยอมเห็นอาคารไร้ซึ่งความงาม เน้นงานคุณภาพ ละเอียด รอบคอบ มั่นคง แข็งแรง และความสวยงามเชิงศิลปะ เราพร้อมให้ที่จะตอบสนอง ต่อทุกความต้องการ ส่งมอบงานโดยยึดหลักความพึงพอใจของลูกค้า บนความสมบูรณ์ของงานและตรงตามกำหนดเวลา ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้โอกาสในการเรียกใช้งาน ติดตามผลงานของเราได้ที่ เวปไซต์ และ เฟสบุ้ค
บริษัท โตเต็ม 100 เพาเวอร์ กรุ๊ป จำกัด
TOTEM 100 POWER GROUP CO.,LTD.
87 หมู่ที่ 7 ตำบลโคกกรวด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก 26130
Tel : 087-599-4959
Email : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
LINE ID : 0875994959
Face Book : @TOTEM100
www.totem100powergroup.com