ประตูหน้าต่างสีใหม่ กับประตูหน้าต่างไวนิล รุ่น Signature สีวอลนัท (ลายไม้)

วินด์เซอร์ (WINDSOR) แบรนด์ในกลุ่มนวพลาสติก ของ SCG ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านตลาดประตูหน้าต่างไวนิล ด้วยประสบการณ์งานประตูหน้าต่างสำหรับบ้านในประเทศไทย ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี  บ้านและสวนแฟร์ปีนี้ วินด์เซอร์ยกขบวนประตูหน้าต่างไวนิลคุณภาพ ตอบโจทย์สไตล์ที่หลากหลาย ผ่านการจำลองพื้นที่ใช้งานจริงภายในบ้านแบบ Living Integrated พร้อมยกระดับทุกการอยู่อาศัยทุกรูปแบบ ทั้งบ้านสร้างใหม่ หรือบ้านต่อเติม พบกับไฮไลท์การเปิดตัวประตูหน้าต่างสีใหม่ กับประตูหน้าต่างไวนิล รุ่น Signature สีวอลนัท (ลายไม้) ตอบโจทย์เจ้าของบ้านที่ต้องการบรรยากาศคลาสสิก อบอุ่น หรือดีไซน์โมเดิร์น เรียบ อย่างมีสไตล์

ประตูหน้าต่างไวนิล วินด์เซอร์ รุ่น Grand สีโกลเด้น ทิมเบอร์ และสีดาร์คโอ๊ค

หรือจะเป็นประตูหน้าต่างรุ่น Grand ที่จะช่วยเสริมลุคหรูหรา เพิ่มความโอ่โถงให้กับบ้าน ด้วยสีโดดเด่นอย่างสีทอง โกลเด้น ทิมเบอร์ พร้อมขนประตูหน้าต่างไวนิลสำเร็จรูป รุ่น เรดดี้ หลากหลายรูปแบบบาน เอาใจเจ้าของบ้านที่กำลังมองหาประตูหน้าต่างสำหรับงานต่อเติมพื้นที่การใช้ชีวิต มาพร้อมคุณสมบัติที่เหนือกว่า ด้วยไวนิลสูตรพิเศษของวินด์เซอร์ ที่ทั้งเงียบ ทนทาน เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย พร้อมบริการท่านด้วยเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ประตูหน้าต่างไวนิลวินด์เซอร์ แบบสำเร็จรูป รุ่นเรดดี้

นอกจากนี้ภายในงานยังมีสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ไวนิล เอสซีจี พร้อมบริการติดตั้ง มาเอาใจคนรักบ้าน อย่างระบบรางน้ำฝนไวนิล ระบบระแนงไวนิล และระบบฝ้าชายคาไวนิล ที่ตอบโจทย์การใช้งาน ทนทานทุกสภาวะ หมดปัญหาสินค้าแตกหัก โก่งงอ หรือบิดตัว และยังไม่ต้องเสียเวลาหรือค่าใช้จ่ายการดูแลรักษาตลอดอายุการใช้งาน

ระบบรางน้ำฝนไวนิล เอสซีจีและโซ่ระบายน้ำฝนไวนิล เอสซีจี

เชิญสัมผัสประสบการณ์การใช้งานสินค้า พร้อมรับโปรโมชันพิเศษกว่าครั้งไหน ๆ ได้ที่บูธวินด์เซอร์ ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2020 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เสา I 36 ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 8 พฤศจิกายน 2563 เวลา 09:30 – 21:00 น. พิเศษ!! เพราะ WINDSOR จัดเต็มกว่าปีไหน ๆ มอบส่วนลดประตูหน้าต่างรูปแบบสั่งตัด ทุกรุ่น ทุกสี สูงสุดถึง 40%*

ปั้นภาพรักษ์โลก ปั้นแอพพลิเคชั่น "คุ้มค่า" (KoomKah) 

SCG ได้เดินหน้ายกระดับการจัดการขยะ ปั้นแอปพลิเคชัน “คุ้มค่า”  โดยนายสัมพันธ์ ลู่วีระพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี พลาสติกส์ จำกัด ในธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี และ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม (สระบุรี) จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มเอสซีจีได้ให้ความสำคัญในการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยการบริหารจัดการขยะให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากรมาใช้ใหม่ โดยการคัดแยกขยะและนำเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ ซึ่งจากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษพบว่า ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีจำนวนขยะรวมกว่า 27.8 ล้านตัน และสามารถนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้เพียง 0.5 ล้านตันเท่านั้น บริษัทฯจึงได้ใช้ แอปพลิเคชั่น "คุ้มค่า" (KoomKah) เพื่อช่วยส่งเสริมให้ลดปริมาณขยะและเกิดการรีไซเคิลได้มากขึ้น โดยเป็นผู้ช่วยให้กับธนาคารขยะและสมาชิก สำหรับนำมาใช้บริหารจัดการขยะอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพสูงสุด

โครงการนี้จะช่วยให้วางแผนกลยุทธ์การซื้อ-ขายขยะได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับขยะสร้างโอกาสการจำหน่ายขยะแต่ละชนิดไปยังโรงงานรีไซเคิลและโรงหลอมได้โดยตรง

ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมของคนในสังคมในการจัดการขยะในบ้านเรือนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการคัดแยกและการทิ้งขยะของชุมชน ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการจัดการขยะและส่งเสริมกระบวนการรีไซเคิลได้อย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายที่จะขยายการใช้แอปพลิเคชันไปยัง 170 ชุมชน ภายในปี 2563 นี้ ซึ่งที่ผ่านมา ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ได้ร่วมพัฒนาและนำแอปพลิเคชัน “คุ้มค่า” นำร่องใช้งานร่วมกับธนาคารขยะแล้วหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และธนาคารขยะชุมชนเขาไผ่ จังหวัดระยอง ฯลฯ

โดยล่าสุดเดินหน้าส่งเสริมการบริหารจัดการธนาคารขยะในประเทศไทย ติดตั้งเว็บแอปพลิชัน “คุ้มค่า” (KoomKah) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 101 แห่งในจังหวัดเลย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูล ส่งเสริมกระบวนการรีไซเคิล และยังช่วยลดปัญหาโลกร้อน โดยได้รับเกียรติจากสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (TIPMSE) และสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเลย เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการจัดการขยะตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และวิธีการใช้งานเว็บแอปพลิเคชัน “คุ้มค่า” ในโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการนำแอปพลิเคชันกับกิจกรรมธนาคารวัสดุรีไซเคิลและตลาดนัดรีไซเคิลจังหวัดเลย รุ่นที่ 2 โดยผู้เข้ารับการอบรมป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้แทนจากชุมชน

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ (ที่ 3 จากขวา) รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ชูนโยบายร่วมกับ ทีมงานคุ้มค่า และผู้เข้าร่วมอบรม

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า “จังหวัดเลยเป็นเมืองท่องเที่ยว การดูแลสถานที่ท่องเที่ยวให้สะอาดอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ และได้มีการผลักดันอย่างสม่ำเสมอ โดยมีความร่วมมือของพี่น้องชาวเลย และหน่วยงานทุกภาคส่วนเป็นแรงสำคัญ เน้นปลูกฝังจิตสำนึกให้ตั้งแต่วัยเยาว์ และสร้างแรงจูงใจในการแยกขยะด้วยผลตอบแทนผ่านการทำธนาคารขยะ จนได้รับรางวัลชนะเลิศ “จังหวัดสะอาด” ในกลุ่มจังหวัดขนาดกลาง ประจำปี 2561 และ 2562”

ด้าน นายดิษพล บุตรดีวงศ์ ท้องถิ่นจังหวัดเลย กล่าวว่า “การจัดอบรมในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินการจัดการขยะและบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีที่เข้ากับยุคสมัยของผู้บริโภคในปัจจุบันอย่าง เว็บแอปพลิชัน “คุ้มค่า” เข้ามาปรับใช้ เพื่อให้จัดเก็บข้อมูลปริมาณวัสดุรีไซเคิลได้อย่างเป็นระบบ สามารถเรียกดูข้อมูลในรูปแบบรายงานได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงจัดเก็บข้อมูลร้านรับซื้อและชุมชนที่มีการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ได้อย่งมีประสิทธิภาพ”

ขณะที่ นางกัญจน์รัตน์ สมทรัพย์ ตัวแทนจากอบต. ศรีสองรักษ์ หนึ่งในผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้ กล่าวว่า “เดิมทีการจัดทำธนาคารขยะมักเจอกับปัญหาการจัดเก็บเอกสารและข้อมูล ที่อาจมีการสูญหายและมีความลำบากในการรื้อค้นข้อมูล การได้มาเรียนรู้การใช้งานและติดตั้ง เว็บแอปพลิชัน “คุ้มค่า” ในวันนี้ จะช่วยให้ธนาคารขยะในพื้นที่ได้รับประโยชน์ เกิดความคุ้มค่าและโปร่งใสในการดำเนินการ อีกทั้งยังทำให้เห็นภาพรวมของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว”

เว็บแอปพลิชัน “คุ้มค่า” (KoomKah) พัฒนาโดยเอสซีจี ซึ่งเป็นโซลูชันด้านดิจิทัลแบบครบวงจร (Digital Solutions) เพื่อส่งเสริมให้ธนาคารขยะสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้เกิดกระบวนการรีไซเคิลตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และยังช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่งด้วย ปัจจุบันถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งในธุรกิจธนาคารขยะ หน่วยงานภายในชุมชน สถานศึกษา ห้างร้าน โครงการต่าง ๆ ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่มีการบันทึกข้อมูลทุกวันเป็นจำนวนมาก อย่างนิคมอุตสาหกรรมอมตะ

ผู้ที่สนใจเว็บแอปพลิเคชัน “คุ้มค่า” (KoomKah) โซลูชันด้านดิจิทัลแบบครบวงจรเพื่อการบริหารจัดการธนาคารขยะ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก: KoomKah และไลน์: @KoomKah หรือติดตามข่าวสารอื่นๆ ของเอสซีจีได้ที่ https://scgnewschannel.com / Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel

กลุ่มนวพลาสติก ปรับปรุงไลน์การผลิตและขยายการลงทุน ไตรมาส 3/63 SCG ยังแข็งแกร่ง มั่นใจมาถูกทาง

แม้อยู่ในช่วงโควิด-19 แต่กลุ่มนวพลาสติก ของ SCG ยังคงปรับปรุงระบบผลิตอย่างต่อเนื่อง มีการปรับเปลี่ยนเครื่องมือ เครื่องจักรให้ทันสมัย เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ๆ มากขึ้น ปรับปรุงโรงงานให้สะดวก สะอาด ปลอดภัย ปรับปรุงไลน์และกระบวนการผลิตให้ประหยัดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ทิศทางของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดยผลประกอบการ SCG ไตรมาส 3 ของปี 2563 มีกำไรมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 57 จากการฟื้นตัวของตลาดเคมีภัณฑ์โลก และการเพิ่มสัดส่วนสินค้า HVA โมเดลธุรกิจแพคเกจจิ้งที่แข็งแกร่ง และการทรานฟอร์มธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า มั่นใจมาถูกทาง แม้ต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด–19 เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมสินค้า HVA โซลูชัน และบริการครบวงจร รอโอกาสตลาดฟื้นตัว และสร้างการเติบโตระยะยาว 

ทั้งนี้กลุ่มนวพลาสติก ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ยังสามารถสร้างรายได้และเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยสินค้าและบริการ พร้อมโซลูชันครบวงจร (End-to-End Service Solution) ที่ยังคงเติบโต มีการนำเทคโนโลยีล้ำสมัย ผนวกกับสินค้าคุณภาพสูงและความเชี่ยวชาญของเอสซีจี มาให้บริการงานธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างอย่างครบวงจร ที่ตรงความต้องการลูกค้าในปัจจุบัน

โดยกลุ่มนวพลาสติก เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ไวนิลของอาเซียน เริ่มดำเนินธุรกิจในปีพ.ศ. 2513 ปัจจุบันถือหุ้นโดย บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPC ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่ง ในเครือซิเมนต์ไทย หรือ SCG กลุ่มบริษัทชั้นนำที่ใหญ่และทันสมัย เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากจุดเริ่มต้น นวพลาสติก มุ่งมั่น ทุ่มเทพัฒนาศักยภาพ จนก้าวสู่การเป็นองค์กรชั้นนำในการผลิตสินค้าและบริการในธุรกิจพลาสติกอย่างครบวงจร โดยมีจุดมุ่งหมายคือ “มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมของสินค้าและบริการที่มีคุณภาพอย่างมีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม” เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างไม่หยุดนิ่งและเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจไวนิลในอาเซียนและธุรกิจแม่พิมพ์ในประเทศไทย จากแนวทางดังกล่าวส่งผลให้ธุรกิจเกิดการเติบโต แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง จากในประเทศสู่การขยายการลงทุนกับคู่ค้าทั่วภูมิภาคอาเซียน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างทั่วถึง

กลุ่มนวพลาสติก ประกอบด้วย 3 บริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างสอดคล้องกัน ดังนี้

• บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม (สระบุรี) จำกัด ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าท่อและข้อต่อ PVC ภายใต้แบรนด์ ตราช้าง มีสินค้าและบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า อาทิ เช่น ท่อสำหรับงานประปาและระบายน้ำ ท่อส่งน้ำเกษตร ท่อร้อยสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ ท่อชนิดต่อด้วยแหวนยาง ข้อต่อ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งบริษัทได้มีการพัฒนาสินค้าและบริการอย่างสม่ำเสมอ ด้วยคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานและครบวงจรมากยิ่งขึ้น เช่น WATER SOLUTION การให้คำปรึกษาในการออกแบบระบบน้ำภายในงานบ้านและอาคาร บริการเรื่องช่างติดตั้ง และคำแนะนำเรื่องการเลือกปั๊มน้ำ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังมีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเพื่อบริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
• บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายประตูหน้าต่างไวนิลชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ภายใต้แบรนด์ “WINDSOR” มีโรงงานทั้งหมด 3 แห่ง ด้วยกัน คือ มีสำนักงานใหญ่ อยู่ที่บางซื่อ กรุงเทพมหานคร ,โรงงานที่จังหวัดสระบุรี และโรงงานที่จังหวัดระยอง รวมทั้งหมด 30 โรง โดยแต่ละปีมีกำลังการผลิตการแปรรูปพลาสติกอยู่ที่ 1 แสนตัน ปัจจุบันบริษัทได้มีการส่งออกและมีตัวแทนจำหน่ายทั้งใน รวมถึงต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม ,มาเลเซีย, กัมพูชา เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่างไวนิล สามารถทดแทนประตูหน้าต่างไม้และอลูมิเนียมได้เป็นอย่างดี เพราะมีความแข็งแรง คงทน สวยงาม และสามารถแก้ปัญหาเดิมๆ เช่น น้ำ ฝุ่น อากาศรั่วไหล, อุปกรณ์ใช้งานมีปัญหา, ความสวยงามที่ไม่คงทน ส่งผลให้ตลาดประตูหน้าต่างไวนิลเติบโตขึ้นมากจากอดีตที่ผ่านมา ซึ่ง Windsor ได้มีการพัฒนาสินค้า คิดค้นสูตรและนวัตกรรมใหม่ๆ ของประตูหน้าต่างเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมทั้งมีการขยาย Fabricator (ตัวแทนประกอบและจำหน่ายประตูหน้าต่าง) ที่มาช่วยผลักดันยอดขายและรองรับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
• บริษัท นวอินเตอร์เทค จำกัด ดำเนินธุรกิจแม่พิมพ์สำหรับฉีด งานรีดพลาสติก แม่พิมพ์ตีขึ้นรูปโลหะและชิ้นส่วนเครื่องจักรในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากผู้ผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการออกแบบแม่พิมพ์ด้วยซอฟท์แวร์และเครื่องจักรอันทันสมัย พร้อมทั้งมีการพัฒนาบุคลาการอย่างต่อเนื่องโดยการแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแม่พิมพ์จากญี่ปุ่น เพื่อสร้างมาตรฐานและคุณภาพที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าอย่างไม่หยุดนิ่ง

รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc