IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธาและธรณีเทคนิค เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานไตรมาส 4/2565 บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยมุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย การบริหารเครื่องจักรและบุคลากรให้เพียงพอต่อการดำเนินงานในโครงการก่อสร้าง พร้อมทั้งควบคุมปริมาณวัสดุก่อสร้างด้วยการประเมินแผนการใช้วัสดุก่อสร้างเป็นระยะเพื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อการใช้งาน รวมถึงการเจรจากับ Supplier เพื่อวางแผนจัดซื้อวัสดุก่อสร้างล่วงหน้า
งานอุโมงค์รถไฟทางคู่มาบกระเบา-จิระ สัญญา 3 แล้วเสร็จกว่า 96.73% เหลือรับรู้รายได้ 84.94 ล้านบาท และงานอุโมงค์ส่งน้ำแม่แตง-แม่งัด จ.เชียงใหม่ แล้วเสร็จกว่า 99.33% เหลือรับรู้รายได้ 19 ล้านบาท
อีกทั้งบริษัทยังคงเดินหน้าประมูลและเข้ารับงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้บริษัทได้เข้ารับงานเพิ่ม จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ งานก่อสร้างงานโยธาสำหรับโครงสร้างถาวร โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) งานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำตามแนวคลองมหาสวัสดิ์ จากโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ถึงถนนราชพฤกษ์ และหอปรับแรงดันที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ พร้อมงานโครงสร้างที่เกี่ยวข้องของการประปานครหลวง งานจ้างเหมาทำการฟื้นฟูทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 หมายเลข 2196 ตอนนางั่ว-ทุ่งสมอ และงานฟื้นฟูทางหลวงหมายเลข 1322 ตอนแม่จา-รินหลวง ของกรมทางหลวง รวมมูลค่า 2,192.40 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 10,943.29 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ โดยเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2565 เป็นต้นไป
งานอุโมงค์ผันน้ำเขื่อนเดือนตรี ที่กัมพูชา แล้วเสร็จกว่า 95.74% เหลือรับรู้รายได้ 11.06 ล้านบาท
บริษัทเรามีความมุ่งมั่นและมีความตั้งใจ ที่จะพัฒนาธุรกิจทางด้าน Geotechnical engineering โดยธุรกิจหลักทั้ง 5 อย่างของเรานั้น เรามีงานต่อเนื่องมาตลอด เราทำงานด้านนี้ได้ครบวงจร สามารซัพพอร์ตตัวเองได้เมื่อมีงานใหญ่ๆ เข้ามา
สำหรับสัดส่วนงานก่อสร้างของบริษัท แบ่งเป็น งานก่อสร้างอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน 30.23% งานเขื่อนและระบบชลประทาน 36.98% งานก่อสร้างท่อลอดใต้ดินด้วยวิธีดันท่อและวิธีเจาะดึงท่อ 11.36% และงานก่อสร้างอื่นๆ เช่น งานก่อสร้างถนน และงาน Slope Protection 21.43%
“บริษัทยังคงมุ่งมั่นเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานก่อสร้าง พร้อมดำเนินการตามแผนกลยุทธ์บริหารต้นทุนก่อสร้างที่วางไว้เพื่อรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่ดี อีกทั้งมีการเร่งก่อสร้างและส่งมอบงานที่สะท้อนราคาต้นทุนเดิม และมีความพร้อมในการรับงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่สะท้อนราคาต้นทุนก่อสร้างตามจริงเพื่อเพิ่มปริมาณงานในมือให้บริษัท ประกอบกับสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากปัจจัยต่างๆ นี้ทำให้มั่นใจว่าบริษัทได้ผ่านช่วงต่ำสุดมาแล้ว และต่อจากนี้จะสามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายชวลิต กล่าว
ด้านนายพัฒนพงศ์ สุวรรณชาต รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชีและการเงิน บมจ. ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง กล่าวแถลงตัวเลข Q3 ว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 1,696 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,935 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 70 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 56 ล้านบาท และผลประกอบการไตรมาส 3/2565 บริษัทมีรายได้รวม 605 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 600 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 45 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 11 ล้านบาท
งานก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำตามแนวคลองมหาสวัสดิ์ บ่อหมายเลข 9A-1,บ่อหมายเลข 9A-2, บ่อหมายเลข 9A-3, บ่อหมายเลข 9A-4 และ บ่อหมายเลข 9A-5 สัญญา G-TN-9A โดยบริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด(มหาชน) ดำเนินงานรับเหมาช่วงจาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามประสิทธิ์
"ช่วง Q3 ที่ผ่านมา เรามีปัญหาจากวิกฤติ ที่ทำให้ราคาวัสดุมาการเพิ่มขึ้นสูง แต่ตอนนี้ราคาวัสดุมีแนวโน้มจะลดลง เราเน้นการควบคุม 2 จุด หนึ่งคือปริมาณการใช้วัสดุตาม BOQ สองคือการปรับตัวขึ้นลงของราคาวัสดุตามทิศทางของวิกฤติ ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากโควิด ทำให้เราไม่สามารถส่งมอบงานได้ อีกเรื่องคืองานลด-งานเพิ่ม เหล่านี้ทำให้เกิดตัวเลขติดลบ"
"อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าปีหน้ากำไรจะดีดกลับมาแน่ เพราะว่าโปรเจคที่กำลังจะเริ่มต้นใหม่จะส่งผลให้เห็นภาพชัดเจนในปีหน้าครับ ซึ่งในปีหน้า รายได้รวมๆ จะอยู่ที่ประมาณ 4 พันล้าน กำไรน่าจะเห็นภาพในปีหน้าแน่นอน" นายพัฒนพงศ์ กล่าว
ด้านนายสุรศักดิ์ สีเขียว กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง กล่าวว่า "ตัวเลขอย่างเป็นทางการ หลังจบ Q3 ข้อมูลแบ็คล็อกในมือของเรา 8,750,89 บาท เป็นยอดแบ็คล็อกสูงที่สุดที่บริษัทเคยมีมา โดยมีรายละเอียดดังนี้"
- งานอุโมงค์และโครงสร้างไต้ดิน มีแบ็คล็อกรวม 6,713.23 ล้านบาท
- งานอุโมงค์ผันน้ำเขื่อนเดือนตรี ที่กัมพูชา แล้วเสร็จกว่า 95.74% เหลือรับรู้รายได้ 11.06 ล้านบาท
- งานอุโมงค์รถไฟทางคู่มาบกระเบา-จิระ สัญญา 3 แล้วเสร็จกว่า 96.73% เหลือรับรู้รายได้ 84.94 ล้านบาท
- งานอุโมงค์รถไฟทางคู่มาบกระเบา-จิระ สัญญา 3 อุโมงค์ 1 แล้วเสร็จกว่า 95.58% เหลือรับรู้รายได้ 23.95 ล้านบาท
- งานอุโมงค์ส่งน้ำแม่แตง-แม่งัด จ.เชียงใหม่ แล้วเสร็จกว่า 99.33% เหลือรับรู้รายได้ 19 ล้านบาท
- งานอุโมงค์ส่งน้ำแม่แตง-แม่งัด จ.เชียงใหม่ สัญญา 2 แล้วเสร็จกว่า 93.89% เหลือรับรู้รายได้ 7.95 ล้านบาท
- งานอุโมงค์เพื่อสายไฟฟ้าลอดแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเสร็จ10.42% เหลือรับรู้รายได้ 80.89 ล้านบาท
- งานอุโมงค์ระบายน้ำ คลองทวีวัฒนา ของ กทม. แล้วเสร็จ 6.93% เหลือรับรู้รายได้ 1,614.81 ล้านบาท
- งานอุโมงค์ส่งน้ำ คลองมหาสวัสดิ์ ของ การประปานครหลวง แล้วเสร็จ 19.97% เหลือรับรู้รายได้ 616.05 ล้านบาท
- งานโครงการรถไฟทางคู่เชียงราย-เชียงของ C1 (อยู่ในช่วง จ.แพร่) งานเพิ่งเริ่ม แล้วเสร็จเพียง 1.84% เหลือรับรู้รายได้ 2,103.72 ล้านบาท
- งานโครงการรถไฟทางคู่เชียงราย-เชียงของ C2 (อยู่ในช่วง จ.พระเยาว์) งานเพิ่งเริ่ม แล้วเสร็จเพียง 0.28% เหลือรับรู้รายได้ 2,150.86 ล้านบาท
- งานเขื่อนและระบบชลประทาน มีแบ็คล็อกรวม 672.34 ล้านบาท
- งานเขื่อนศรีสองรักษ์ แล้วเสร็จกว่า 75.99% เหลือรับรู้รายได้ 352.93 ล้านบาท
- งานคลองระบายน้ำแม่แตง-แม่ขาน จ.เชียงใหม่ แล้วเสร็จกว่า 69.74% เหลือรับรู้รายได้ 79.27 ล้านบาท
- งานอ่างเก็บน้ำ จ.ฉะเชิงเทรา ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (ต้องทำซีเมนต์คอลั่มรอบบ่อ) งานเพิ่งเริ่ม แล้วเสร็จเพียง 1.90% เหลือรับรู้รายได้ 240.14 ล้านบาท
- งานท่อลอดไต้ดินด้วยวิธีดันท่อและวิธีเจาะดึงท่อ มีแบ็คล็อกรวม 861.10 ล้านบาท
- งานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง แล้วเสร็จกว่า 90.00% เหลือรับรู้รายได้ 114 ล้านบาท
- งานบางซื่อ Smart City งานเพิ่งเริ่ม แล้วเสร็จเพียง 2.09% เหลือรับรู้รายได้ 127 ล้านบาท
- งาน High-Speed Rail 3 Airprt ที่พระราม 6 แล้วเสร็จกว่า 87.82% เหลือรับรู้รายได้ 1.10 ล้านบาท
- งานตามแนวถนนวิภาวดี เชื่อมต่อกับถนนพหลโยธิน แล้วเสร็จกว่า 29.54% เหลือรับรู้รายได้ 66.60 ล้านบาท
- งาน Suply Power ที่คลองกระเทียม แล้วเสร็จกว่า 34.31% เหลือรับรู้รายได้ 31.75 ล้านบาท
- งาน Pipe Jacking รถไฟฟ้าสายสีส้ม กำลังจะเข้าดำเนินการ แล้วเสร็จ 0.00% เหลือรับรู้รายได้ 520.09 ล้านบาท
- งานอื่นๆ มีแบ็คล็อกรวม 504.23 ล้านบาท
- งานถนน Highway No.42 แล้วเสร็จกว่า 27.68% เหลือรับรู้รายได้ 404.64 ล้านบาท
- งานปรับปรุงเขื่อนที่ จ.ประจวบฯ แล้วเสร็จกว่า 28.00% เหลือรับรู้รายได้ 69.07 ล้านบาท
- งาน Slope Protection จ.ชลบุรี แล้วเสร็จกว่า 35.46% เหลือรับรู้รายได้ 12.26 ล้านบาท
- งาน Slope Protection จ.เพชรบุรี แล้วเสร็จกว่า 91.67% เหลือรับรู้รายได้ 1.16 ล้านบาท
- งาน Slope Protection จ.ตรัง แล้วเสร็จกว่า 75.70% เหลือรับรู้รายได้ 6.05 ล้านบาท
- งาน Slope Protection จ.เชียงใหม่ แล้วเสร็จกว่า 59.56% เหลือรับรู้รายได้ 11.06 ล้านบาท
ทั้งนี้หลังจาก Q3 บริษัทได้ดำเนินงานประมูลเพิ่ม และได้งานมาเพิ่ม 4 โครงการ รวม 2191.40 ดังนี้ (ตัวเลขอย่างเป็นทางการ ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2565)
1. งานอุโมงค์ตามแนวคลองมหาสวัสดิ์ สัญญา 9A ในส่วนเพิ่มเติม มูลค่างาน 519.63 ล้านบาท
2. งานซีวิลเขื่อนไฟฟ้าที่หลวงพระบาง รับงานจาก ช.การช่าง ที่ สปป.ลาว งานจะเริ่มปีหน้า มูลค่างาน 1,615 ล้านบาท
3. งาน Slope Protection ถนนหมายเลข 2196 นางั่ว-ทุ่งสมอ จ.เพชรบุรี มูลค่างาน 43.94 ล้านบาท
4. งาน Slope Protection ถนนหมายเลข 1322 แม่จา - รินหลวง จ. เชียงใหม่ มูลค่างาน 43.94 ล้านบาท
"ซึ่งถ้านับ ณ ปัจจุบัน บริษัทก็จะมีแบ็คล็อกอยู่ในมือที่ 10,943.29 ล้านบาท ( 8,750,89+2191.40 ) เป็นยอดแบ็คล็อกสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท" นายสุรศักดิ์ กล่าว
"บริษัทเรามีความมุ่งมั่นและมีความตั้งใจ ที่จะพัฒนาธุรกิจทางด้าน Geotechnical engineering โดยธุรกิจหลักทั้ง 5 อย่างของเรานั้น เรามีงานต่อเนื่องมาตลอด เราทำงานด้านนี้ได้ครบวงจร สามารซัพพอร์ตตัวเองได้เมื่อมีงานใหญ่ๆ เข้ามา เรื่องของงานในต่างประเทศ หลังจากโควิดจบก็น่าจะทะยอยเข้ามาอีก นอกจากนี้งานใหญ่ๆ ในประเทศ ที่เป็นเมกกะโปรเจค เราก็น่าจะได้งานในหลายโครงการ เราคาดว่างานอุโมงค์และงานในไลน์ของเรายังมีความยั่งยืนต่อไปได้อีกนาน" นายชวลิต กล่าวทิ้งท้าย