IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) หรือ TEKA เปิดเผยว่า บริษัทฯยังเดินหน้ารับงานต่อเนื่องหลังได้ระดมทุนนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร และอุปกรณ์การก่อสร้างต่างๆ เพื่อรองรับงานก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการเติบโต 3-5 ปีนับจากนี้ อีก 10-15% ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานที่กำลังรอเปิดประมูลจำนวน 20 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับงานประมาณ 15-20% ของมูลค่างานทั้งหมด และแผนการเจาะฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มขึ้น เช่น ลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาล และกลุ่มลูกค้าโรงงาน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) อีกด้วย
TEKA กำลังเดินหน้าก่อสร้างโครงการ “เดอะไลน์ไวบ์” (THE LINE VIBE) โดยสัญญาใช้เวลาก่อสร้าง 25 เดือน โดยมีกำหนดเริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคม 2565 คาดแล้วเสร็จ มิถุนายน 2567 รวมมูลค่างานก่อสร้าง 515 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นในฐานะผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ มุ่งมั่นตอบโจทย์ทุกพื้นที่งานก่อสร้างด้วยคุณภาพผลงานและการส่งมอบในเวลาที่กำหนด
โดยแผนธุรกิจระยะยาว 3-5 ปีข้างหน้า (2565-2569) บริษัทมีแผนศึกษาลงทุนใน “ธุรกิจใหม่” ที่สามารถต่อยอด และสร้างการเติบโตให้บริษัทได้ในอนาคต ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทรดของโลกยุคใหม่ ปัจจุบันบริษัทฯมีมูลค่างานในมือ (Backlog) 1,775.09 ล้านบาท หรือคิดเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงานจำนวน 8 โครงการ และงานบริการหลังการขายอีกจำนวนหนึ่ง และเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้รับงานเพิ่มอีก 1 โครงการ นั่นคือ โครงการ The Line Vibe ซึ่งมีลักษณะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม โดยมีเจ้าของโครงการ คือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) SIRI มูลค่าโครงการตามสัญญาจำนวน 478.95 ล้านบาท
โดยแผนธุรกิจระยะยาว 3-5 ปีข้างหน้า (2565-2569) บริษัทมีแผนศึกษาลงทุนใน “ธุรกิจใหม่” ที่สามารถต่อยอด และสร้างการเติบโตให้บริษัทได้ในอนาคต ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทรดของโลกยุคใหม่
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2,400-2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และเติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ราว 1,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่จะส่งมอบในปีนี้ประมาณ 1,770 ล้านบาท ประกอบกับบริษัทยังมีงานใหม่ที่ได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 อีกราว 481 ล้านบาท รวมถึงงานโครงการใหม่ๆ ที่เตรียมเข้ายื่นประมูลเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีอีกจำนวนมาก
“ส่วนของปัญหาด้านราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นนั้น ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 3-4% ซึ่งบริษัทก็มีนโยบายที่จะลดความเสี่ยงโดยการเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างให้รวดเร็วขึ้นหรือกำหนดภายในช่วง 4 เดือนแรก หลังตกลงทำสัญญากับลูกค้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงควบคุมคุณภาพและบริหารต้นทุนงานก่อสร้างให้ลดลงเพื่อสามารถสร้างผลกำไรให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง”
นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEKA และ นาย ลี ยือ ทัก ประธานกรรมการ BCONS ได้ร่วมลงนาม MOU ความร่วมมือในการศึกษาและแลกเปลี่ยนข้อมูลและโอกาสทางการตลาด
อนึ่ง ในไตรมาสสอง TEKA และ บริษัท Bcons Construction Investment Joint Stock Company หรือ BCONS ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงเพื่อความร่วมมือทางธุรกิจ (“MOU”) โดยทั้งสองฝ่ายจะให้ความร่วมมือในการศึกษาและแลกเปลี่ยนข้อมูลและโอกาสทางการตลาดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้การร่วมมือกันทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบพันธมิตร หรือการลงทุนร่วมกันในอนาคตตามความเหมาะสม เพื่อสร้าง Synergy ทางธุรกิจ โดยอาศัยศักยภาพและจุดแข็งของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้ TEKA เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างแถวหน้าของเมืองไทยที่มีประสบการณ์ยาวนานถึง 38 ปี มีความเชี่ยวชาญในงานอาคารขนาดใหญ่ ขณะที่ BCONS เป็นบริษัทในประเทศเวียดนาม ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ครบวงจรในประเทศเวียดนาม มีความเชี่ยวชาญทั้งในธุรกิจโรงแรม อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้พัฒนาโครงการด้าน “Sustainability” สร้างธุรกิจที่ยั่งยืน โดยล่าสุดได้จัดโครงการ “Build for Kids : พลังฑีฆา สร้างฝัน ปันรัก” ขยายโอกาสการเรียนรู้ให้เยาวชนจากรากฐานทางการศึกษา ถือเป็นเครื่องมือในการยกระดับคุณภาพชีวิต ชุมชน และสังคม ทั้งนี้มุ่งหวังให้ภารกิจนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่สะท้อน DNA ของ TEKA ผ่านกิจกรรม สนับสนุนเยาวชน และบรรลุเป้าหมายการดำเนินธุรกิจควบคู่การใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม ที่สำคัญคือ “การศึกษา” เป็นรากฐานการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ
อย่างไรก็ดี โครงการนำวัสดุเหลือใช้จากการก่อสร้างที่มีสภาพดีมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ นอกจากจะช่วยสร้างพลังในการเรียนรู้แล้ว ยังสะท้อนวิสัยทัศน์ของ TEKA ในฐานะบริษัทก่อสร้างชั้นนำอันดับต้นๆ ที่ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพงานมาเป็นอันดับหนึ่ง ควบคู่กับการนำร่องเป็นบริษัทก่อสร้างที่มีการจัดตั้งหน่วยงานชุมชนสัมพันธ์ เพื่อดูแลชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม โดยรอบโครงการก่อสร้างอย่างจริงจัง เพื่อใส่ใจคุณภาพชีวิตที่ดี และทั้งหมดนี้เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG
“จากภาพรวมอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณของเศษวัสดุที่เหลือใช้สูงตามไปด้วย TEKA จึงวางแนวทางในการบริหารจัดการ และความมุ่งมั่นในการสานต่อโครงการเพื่อสังคม ช่วยลดปัญหาการจัดการขยะจากเศษวัสดุก่อสร้างภายในหน่วยงาน โดยใช้ความเชี่ยวชาญในฐานะนักสร้าง นำทีมวิศวกร และทีมงานคุณภาพของบริษัท เดินหน้ากิจกรรม “Build for Kids” โดยนำวัสดุเหลือใช้จากการก่อสร้างที่มีสภาพดี ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีในมือ มาสร้างเป็นห้องสมุดตู้คอนเทนเนอร์ เติมจินตนาการให้เด็กเป็นนักอ่าน และนักสร้างสรรค์ ส่งมอบให้กับโรงเรียนวัดชัฏใหญ่ จ.ราชบุรี พร้อมมอบชุดหนังสือ และบล็อกตัวต่อ ให้กับโรงเรียนระดับประถมศึกษา ตลอดจน ร่วมกิจกรรมกับน้องๆ ในการแข่งขันบล็อกตัวต่อ เพื่อเติมพลังให้แก่นักสร้างตัวน้อยให้มีความคิดสร้างสรรค์ และเติบโตอย่างมีคุณภาพสู่สังคมต่อไป” นายวีระศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากนี้ TEKA ยังได้มอบความห่วงใยและความปลอดภัยแก่ชุมชน โดยได้ร่วมมือกับ ไอคอนสยาม และ บริษัท เอ็น.แอด จำกัด และคุณสาโรจน์ เลิศสิทธิชัย ตัวแทนประกันกลุ่ม บริษัท เอไอเอ จำกัด จัดโครงการ แชร์กันปันสุข มอบถังดับเพลิงแก่ชุมชน โดยส่งมอบให้กับ 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนซอยเทพา ชุมชนมัสยิดสุวรรณภูมิ ชุมชนซอยเจริญนคร 5/1 ชุมชนซอยเจริญนคร 4 ชุมชนหน้าตลาดศิรินทร์ เพื่อป้องกันและระงับเหตุอัคคีภัยในเบื้องต้น เสริมสร้างความปลอดภัย ป้องกันการสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ชุมชน