IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
โดยมีบริษัทชั้นนำมากกว่า 300 บริษัทจาก 29 ประเทศ พร้อม 7 พาวิลเลียนนานาชาติร่วมจัดแสดงสินค้า ตั้งแต่ รถแทรกเตอร์ขนาดมหึมาจนกระทั่งเมล็ดพันธุ์สำหรับเพาะปลูก ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ นับว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและมั่นใจว่างาน AGRITECHNICA ASIA และ Horti ASIA 2018 ได้ก้าวขึ้นสู่งานแสดงสินค้านานาชาติแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผู้ซื้อจากทั่วโลกต่างจับตามอง ซึ่งงานในครั้งนี้ได้จัดเสร็จสิ้นไปแล้ว โดยได้รับความร่วมมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นพันธมิตรหลักของปีนี้
AGRITECHNICA ASIA และ Horti ASIA จะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในปี 2020
การจัดแสดงสุดยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร AGRITECHNICA ASIA และ Horti ASIA ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเวทีการเจรจาธุรกิจและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างประเทศ ที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางในการผลิตพืชในอนาคตสำหรับการเพาะปลูกพืชไร่และการทำโรงเรือนเกษตรโดยมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของเกษตรกรและผู้ปลูกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก “กลุ่มเกษตรกรที่มาชมงานในครั้งนี้ได้เรียนรู้ถึงแนวทางการแก้ปัญหาการเพาะปลูกผลผลิตทางการเกษตรด้วยเทคโนโลยีซึ่งเหมาะสมกับขนาดแปลงเพาะปลูก ซึ่งหลายนวัตกรรมได้ถูกนำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อ 9 เดือนที่แล้ว ภายในงาน AGRITECHNICA 2017 ที่ประเทศเยอรมนี” นายปีเตอร์ กรูเทิร์น กรรมการผู้จัดการ องค์กรการเกษตรแห่งเยอรมัน (DLG) กล่าว พร้อมเสริมอีกว่า
การเติบโตของจำนวนผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ เป็นข้อบ่งชี้ที่สำคัญที่แสดงให้เห็นว่างาน AGRITECHNICA ASIA กลายเป็นศูนย์กลางการค้าเทคโนโลยีทางการเกษตรที่สำคัญในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
งาน AGRITECHNICA ASIA และ Horti ASIA จะกลับมาจัดที่กรุงเทพฯ อีกครั้งในระหว่างวันที่ 7-9 พ. ค. 2563 โดยงาน Horti ASIA มุ่งเน้นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีการปลูกพืชอัจฉริยะสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกทุกประเภท ในขณะที่งาน AGRITECHNICA ASIA จะมุ่งเน้นที่การนำเสนอเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งจะตอบโจทย์กับสังคมเกษตรรุ่นใหม่ที่มีการปรับใช้เครื่องจักรกลในการเกษตรอย่างเต็มรูปแบบในภูมิภาค
เทคนิคการทำฟาร์มสมัยใหม่ถือเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขการขาดแคลนแรงงานภาคเกษตร การใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรกลการเกษตรเข้ามาจัดการฟาร์มถือเป็นบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างความยั่งยืนในห่วงโซ่อาหารในอนาคต นอกจากนั้น ภายในงานครั้งนี้ยังมีการเปิดตัวโซน Systems & Components Asia ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานและประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง โดยมีการจัดแสดงสาธิตการใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อสร้างองค์ความรู้ที่ถูกต้องให้กับเกษตกรยุคใหม่
ผลตอบรับจากผู้เข้าชมงาน ผู้ซื้อ และบริษัทชั้นนำภายในงาน
ในปีนี้ AGRITECHNICA ASIA และ Horti ASIA ได้ดึงดูดผู้ซื้อชั้นนำกว่า 300 รายจาก 30 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านโครงการ Hosted Buyer Program โดยได้เชิญผู้ซื้อมาจากประเทศกัมพูชา, จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, ลาว, มาเลเซีย, มองโกเลีย, พม่า, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ศรีลังกา, ไต้หวัน, ไทย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเวียดนาม ซึ่งผู้ซื้อรายสำคัญที่ถูกเชิญมาต่างมีวัตถุประสงค์เพื่อมองหาทางเลือกใหม่ๆ ที่จะนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เหมาะกับการธุรกิจในประเทศนั้นๆ บริษัทผู้ซื้อชั้นนำที่มาเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ต่างชื่นชมและได้รับประสบการณ์ที่พึงพอใจกลับไป อาทิ TH Milk Food, Lam Son Sugar (Lasuco), Sugar Mitr Phol และ PT Sinar Mas ซึ่งล้วนเป็นธุรกิจการเกษตรและการผลิตอาหาร โดยมีการนัดหมายเจรจาธุรกิจที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีกว่า 1,500 การนัดประชุม
“ผมตั้งใจที่จะมางานนี้เพราะประเทศไทยเป็นจุดหมายที่สำคัญในการทำธุรกิจด้านการเกษตรแห่งเอเชีย การเดินทางมาครั้งนี้ทำให้เราได้พบปะกับพันธมิตรในประเทศไทย ตลอดจนลูกค้าจาก เวียดนาม กัมพูชา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่ต่างมาร่วมชมงานที่นี่เช่นเดียวกัน ประเทศไทยเปรียบเสมือนศูนย์กลางทางการค้าระดับภูมิภาคที่ทุกประเทศในเอเชียให้ความสำคัญ และนี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ผมไม่สามารถพลาดการร่วมจัดแสดงงานและนำเสนอเทคโนโลยีทางการเกษตรใหม่ๆ ของบริษัทผ่านงานนิทรรศการนี้ได้เลย” คุณ Sebastian Smija ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท Fliegl Agrartechnik GmbH กล่าว
“ที่นี่คือสถานที่ที่รวมผู้เชี่ยวชาญ ผู้ผลิต และบริษัทชั้นนำเข้าด้วยกัน คุณสามารถเดินทางมาที่เดียวเพื่อสร้างเครือข่ายทางการค้าร่วมกับคนในอุตสากรรมได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนั้นผมยังได้อัพเดทความรู้ เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจภาคเกษตรกรรม เพราะบริษัทชั้นนำมากมายมาร่วมนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ภายในงานนี้ ซึ่งครอบคลุมทั้งเครื่องจักรกลและอุปกรณ์เสริมสำหรับทำเกษตรทั้งพืชไร่พืชสวน ผมยืนยันว่าการมาเยี่ยมชมงานในครั้งนี้เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ทำธุรกิจเกษตรทุกประเภท” ดร. Myo Aung Kyaw รองประธาน สหพันธ์ข้าวแห่งประเทศเมียนมา กล่าว
Mr. Willem Schoustra อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเกษตร สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า “ผมคิดว่า งาน Horti ASIA เป็นงานแสดงนวัตกรรมเกษตรที่ดีมาก เพราะเป็นการรวมสุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตรจากทั่วโลกมาจัดแสดงในที่เดียวและเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้กับการทำธุรกิจเกษตรในภูมิภาคเอเชียได้อย่างแท้จริง ภูมิภาคนี้เปรียบเสมือนครัวของโลกที่สำคัญอย่างยิ่งกับการผลิตอาหารไปยังตลาดโลก ดังนั้นผมคิดว่าคนในอุตสาหกรรมไม่ควรพลาดมาเยี่ยมชมงานในครั้งนี้”
พาเกษตรกรมากกว่า 1,000 คนเที่ยวชมงานนิทรรศการ
การนำเกษตรกรกลุ่ม Smart Farmer และ Young Smart Farmer จาก 77 จังหวัด จำนวนกว่า 1,000 คน เยี่ยมชมงาน รวมทั้งคณะของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ นำโดยกรมส่งเสริมการเกษตร (DOAE) เป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้เกษตรกรได้พบปะกับบริษัทผู้ผลิตชั้นนำ ตลอดจนได้เข้าร่วมงานสัมมนาเชิงปฏิบัติต่างๆ ภายในงาน ซึ่งการจัดโปรแกรมทัวร์นี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและได้ผลตอบรับดีอย่างล้นหลามจากผู้เข้าร่วม เกษตรกรได้รับประโยชน์แท้จริงจากการเยี่ยมชมศึกษาดูงาน มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศโดยตรง ในการเรียนรู้เทคนิค และแนวทางการแก้ปัญหาในไร่และสวนที่ประสบอยู่ของไทยและภูมิภาคเอเชีย ทางกรมส่งเสริมการเกษตรมีความยินดี ที่จะประสานและร่วมการจัดกลุ่มเกษตกรเพื่อศึกษาดูงานกับทาง DLG และ VNU สำหรับโครงการต่อไปในอนาคต” นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว
โปรแกรมการประชุมที่โดดเด่นในงาน
ตลอด 3 วันของการจัดงาน ผู้เชี่ยวชาญทั้งจากไทยและต่างประเทศต่างร่วมแบ่งปันความรู้ใหม่ๆ ผ่านหลากหลายหัวข้อการสัมมนาซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมการประชุมอย่างล้นหลาม ซึ่งภายในแต่ละการประชุมได้มีการอภิปรายกันอย่างเข้มข้น เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ชมการสาธิตและลงมือปฏิบัติเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ตลอดจนการสร้างเครือข่ายทางการค้าร่วมกับคนในอุตสาหกรรม จึงเรียกได้ว่า AGRITECHNICA ASIA และ Horti ASIA เป็นูศนย์รวมความรู้ด้านนวัตกรรมซึ่งนำมาบูรณาการข้อมูลเพื่อการพัฒนาธุรกิจภาคการเกษตรต่อไป การสัมมนาครอบคลุมความชำนาญในด้านต่างๆ ทั้งด้านความรู้ในการเพาะปลูกพืชสวน พืชไร่ เครื่องจักรกลทางการเกษตร อุปกรณ์การเกษตร ความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง เทคโนโลยี นวัตกรรม และเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับธุรกิจเกษตรเพื่อการเพิ่มผลผลิต นำมาสู่การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ “จากความรู้และความชำนาญเฉพาะทาง DLG เป็นเสมือนศูนย์กลางองค์ความรู้และเครือข่ายทางการเกษตร คลอบคลุมทั้งด้าน เทคโนโลยีทางการเกษตร และการผลิตอาหาร DLG จึงเป็นพันธมิตรสำคัญที่สามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรและผู้ปลูกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างสมบูรณ์” นายปีเตอร์ กรูเทิร์น กรรมการผู้จัดการ องค์กรการเกษตรแห่งเยอรมัน (DLG) กล่าว พร้อมทั้งอธิบายบทบาทของ DLG ในฐานะหุ้นส่วนสำคัญที่ร่วมจัดโปรมแกรมงานประชุมและสัมมนาที่สำคัญภายในงานที่ร่วมกับองค์กรนานาชาติมากมาย อาทิ สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) และ สมาพันธ์สมาคมเครื่องจักรกลการเกษตรแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ReCAMA) เป็นต้น
งานสัมมนา Agrifuture ถูกจัดเป็นครั้งแรกภายในงาน AGRITECHNICA ASIA ซึ่งเป็นการเปิดงานสัมมนาเกษตรแห่งอนาคต เน้นในเรื่องของ เทคโนโลยีเกี่ยวกับการใช้โดรนเพื่อการเกษตร และการใช้เครื่องตรวจวัดเพื่อความแม่นยำสูงมาประยุกษ์ใช้การเพาะปลูก ภายในงานมีการอภิปรายกันในเรื่องของ “การทำเกษตรแบบดิจิตัล” “การใช้เครื่องวัดความแม่นยำสูงในการผลิตข้าว” และ “ความสำเร็จของการนำเครื่องจักรกลมาใช้ในการทำเกษตร” เป็นต้น โดยเนื้อหาอภิปรายจะเหมาะสมกับการทำเกษตรในภูมิภาคเอเชียทั้งสิ้น นอกจากนั้น ยังมีการสัมมนานานาชาติที่จัดโดย สมาคมพืชสวนนานาชาติ (ISHS) ในหัวข้อ “ผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความท้าทายใหม่ๆ เกี่ยวกับผลผลิตอาหารสดและความต้องการของห่วงโซ่อุปทานหลังการเก็บเกี่ยว นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พูดถึงภายในงานสัมมนานี้
เจ้าภาพร่วมและพันธมิตรนานาชาติ
งาน AGRITECHNICA ASIA และ Horti ASIA จัดโดย บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด และองค์กรการเกษตรแห่งเยอรมัน (DLG) ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร (DOAE) และ กรมวิชาการเกษตร (DOA) เป็นเจ้าภาพร่วมอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้สนับสนุนจาก กระทรวงอาหารและการเกษตรแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กระทรวงเกษตร ธรรมชาติ และคุณภาพอาหาร ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) สมาคมพืชสวนนานาชาติ (ISHS) และสมาพันธ์สมาคมเครื่องจักรกลการเกษตรแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ReCAMA) จึงทำให้การจัดงานประสบความสำเร็จอย่างงดงามในครั้งนี้
งาน AGRITECHNICA ASIA และ Horti ASIA ครั้งต่อไป จะถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 (ค.ศ.2020) ณ ไบเทค กรุงเทพ ประเทศไทย
- การประชุม Agrifuture Conference ซึ่งจัดโดยองค์กรการเกษตรแห่งเยอรมัน (DLG) และ วีเอ็นยูฯ จะจัดเป็นครั้งแรก ในประเทศเวียดนาม ปี 2019 (พ.ศ. 2562)
- พันธมิตรองค์กรต่างๆ ของงาน AGRITECHNICA ASIA จะเข้าร่วมงาน AGITECHNICA 2019 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ณ เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านเครื่องจักรกลทางการเกษตรอันดับ 1 ของโลก ซึ่งจะมีงานสัมมนาในหัวข้อเกี่ยวกับเทคโนโลยีการเกษตรและตลาดเกษตรกรรมในเอเชียตะวันนออกเฉียงใต้ด้วย
- ในปี พ.ศ. 2563 มีกำหนดจัดงานประชุมวิชาการพืชสวนแห่งภูมิภาคเอเชีย (Asia Horticulture Congress:AHC) ซึ่งจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี โดยครั้งหน้าจะจัดร่วมกันกับงาน Horti ASIA 2020 ทางสมาคมได้เตรียมการที่จะเชิญผู้เชี่ยวชาญกว่า 700 คนจากทั่วโลก จัดโดย DLG และ วีเอ็นยูฯ ร่วมกับสมาคมพืชสวนนานาชาติ (ISHS) และสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย (HSST)
- การประชุมที่จัดโดยสถาบัยวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) จะยังคงเป็นพันธมิตรที่เข็มแข็งของงาน AGRITECHNICA ASIA 2020 พร้อมนำเสนอการสัมมนาในหัวข้อที่น่าสนใจต่อไป