รายงานผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Nida Investor Sentiment Index) ประจำเดือนมกราคม 2560 ของสภาธุรกิจตลาดทุนไทยระบุว่า ในระยะเวลาช่วง 3 เดือนข้างหน้า ตลาดทุนมีแนวโน้มทรงตัว แต่อาจจะซบเซาลงมาอยู่ที่ 88.27% ปรับลดลงถึง 35.06% เทียบกับดัชนีความเชื่อมั่้นของนักลงทุนในเดือนธันวาคม 2559

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นส่วนใหญ่ยังคงมาจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจจากต่างประเทศ และสถานการณ์ความไม่แน่นอนทั้งเศรษฐกิจในยูโรโซน ทั้งการเลือกตั้งของกรีซ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย และยูเครน ตลอดจนถึงวิกฤติเงินรูเบิลของรัสเซีย และสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากโครงการส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ขณะที่กลุ่มทรัพยากร และสินค้าเกษตร อาจเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่น่าลงทุน จากความเสี่ยงในเรื่องการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี นายบัณฑิต นิจถาวร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (ไอโอดี) อดีตรองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กลับมีทัศนะในทางตรงกันข้ามว่า การเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ลดลงกว่าครึ่งภายในระยะเวลาที่ไม่นานนัก ทำให้ราคาน้ำมันดิบปัจจุบันลดต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ครั้งแรกในรอบ 5 ปี ถือว่าส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก โดยเฉพาะการบริโภคของคนชั้นกลาง

นายบัณฑิตมองว่า ผลของน้ำมันจะเป็นปัจจัยบวก ทำให้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้น เพราะประเทศผู้นำเข้าน้ำมันมีจำนวนมากกว่าผู้ส่งออกน้ำมัน ราคาน้ำมันที่ลดลงจึงเป็นแรงกระตุ้นที่ดีของเศรษฐกิจโลก อีกทั้งราคาน้ำมันที่ถูกลง ก็ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินถูกลง การท่องเที่ยวก็น่าจะได้ประโยชน์ด้วย

ในส่วนที่เกี่ยวกับความเสี่ยงสำคัญของเศรษฐกิจไทยนั้น นายบัณฑิตมองว่า ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความมั่นใจของทั้งผู้บริโภคและผู้ลงทุน ในส่วนของผู้บริโภคเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น สะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นล่าสุดที่เริ่มดีขึ้น เพียงแต่ในส่วนของความเชื่อมั่นต่อการลงทุนยังไม่สู้ดีนัก สิ่งสำคัญที่จะฟื้นความเชื่อมั่นเหล่านี้ได้ ต้องขึ้นอยู่กับภาครัฐว่า จะสามารถผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ออกมาได้มากน้อยเพียงใด

โดยสรุปแล้วนายบัณฑิตมีความเห็นว่า เวลานี้ปัจจัยทุกอย่างเอื้อให้เอกชนลงทุนได้ ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำ ราคาน้ำมันที่ถูกลงทำให้ต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศลดลง อีกทั้งสภาพคล่องในระบบการเงินมีเหลือเฟือ และบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ก็มีกำไรสุทธิค่อนข้างมาก แต่สาเหตุที่ภาคเอกชนเหล่านี้ยังไม่ลงทุน เพราะต้องการรอดูความชัดเจนจากภาครัฐว่า โครงการลงทุนของรัฐจะออกมาในรูปแบบไหน และอย่างไรเท่านั้นเอง

ครบรอบ 1 เดือนของการทดลองเผยแพร่ข่าวสารของสื่ออุตสาหกรรม ไอเอ็ม
"กระชับ ฉับใว ให้ประโยชน์ ตอบโจทย์ทุกกลุ่มอุตสากรรม"

ทีมบรรณาธิการ
สื่ออุตสาหกรรม พันธมิตรของผู้ประกอบการ