IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า mai ยินดีต้อนรับ บมจ. สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "STI" ในวันที่ 19 ธันวาคม 2561
STI ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง โดยมุ่งเน้นธุรกิจการบริหารโครงการก่อสร้างทุกประเภท เช่น โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม
โดยมีผลงานในช่วงที่ผ่านมา อาทิ ห้างสรรพสินค้าดิเอ็มควอเทียร์ ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินัล 21 (โคราช) อาคารสำนักงาน Pearl Bangkok โครงการปรับปรุงอาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ศูนย์การค้า Bluport Resort Mall หัวหิน เป็นต้น นอกจากนี้ STI ยังมีบริษัทย่อย คือ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมของโครงการก่อสร้าง งานตกแต่งภายใน และงานอนุรักษ์โบราณสถาน ถือเป็นผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจดังกล่าว มีผลงานที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป อาทิอาคารร้อยปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร วังกรมพระนเรศรวรฤทธิ์ (วังมะลิวัลย์) สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินวังบูรพา (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน)เป็นต้น
STI มีทุนชำระแล้ว 134 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 200 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 68 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO)โดยแบ่งเป็นเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 51 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 10.20 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานไม่เกิน 6.80 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 6-7, 11 ธันวาคม 2561 ในราคาหุ้นละ 6.30 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 428 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,688 ล้านบาท มีบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ด้าน นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) เปิดเผยว่าบริษัทให้ความสำคัญด้านควบคุมคุณภาพและมาตรฐานงานบริการเพื่อบริหารและควบคุมงานก่อสร้างของโครงการให้สำเร็จตามเป้าหมายตามที่เจ้าของโครงการกำหนดไว้ ทั้งด้านระยะเวลา ต้นทุน และคุณภาพ มีการนำระบบสารสนเทศ และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมงานก่อสร้างมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน นอกจากนั้น บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร โดยจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมพนักงานและพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของตนเองเพื่อสนับสนุนธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนา อบรมทักษะความรู้สำหรับพนักงาน ลงทุนอุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรมด้านการออกแบบควบคุมงาน และการเงิน-การบัญชี ลงทุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
STI มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด ถือหุ้น 26.12% กลุ่มตระกูลศิลวัฒนาวงศ์ ถือหุ้น 15.07% และกลุ่มตระกูลเปี่ยมเปรมสุข ถือหุ้น 11.19% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 6.30 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 29.76 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 ตุลาคม 2560-30 กันยายน 2561) ซึ่งเท่ากับ 56.73 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.21 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษี และทุนสำรองตามกฎหมาย
รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.sti.co.th และ www.set.or.th