December 18, 2024

CPF วางเป้า 5 ปี มุ่งตลาดนอก สร้างธุรกิจอาหารครบวงจร

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)” (CPF) ปรับทัพ 5 ปี วางทีมผู้บริหารใหม่ ประกาศแผนการลงทุนครั่งใหญ่ เตรียมขยายกำลังการผลิต รองรับฐานตลาดเพิ่มทั้งในและต่างประเทศ  รับอานิสงค์โรค AFS ระบาดในเอเชีย ส่งผลราคาสุกรปรับขึ้น มั่นใจรายได้-กำไร ปี 2562 นี้โตต่อเนื่อง

นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า กลุ่มซีพีมั่นใจว่า ทิศทางการเติบโตของซีพีเอฟ ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า จะเติบโตจากกิจการต่างประเทศเป็นหลัก จากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 67% และในประเทศ 33% ส่วนในปี 2562 นี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินงานจะเติบโตกว่าปีก่อน หลังแนวโน้มราคาสุกรปรับตัวดีขึ้นจากอานิสงค์โรค AFS (AFRICAN SWINE FEVER:โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร) ระบาดในเอเชีย 

ส่งผลให้ธุรกิจอาหารจากสัตว์เพื่อบริโภคปรับตัวดีขึ้น บริษัทฯ จึงมั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินในปี 2562 นี้จะเติบโตดีขึ้นอย่างแน่นอน

โดยตลาดต่างประเทศหลักๆ เช่นจีน มีการบริโภคสุกรประมาณ 50% ของการบริโภคทั่วโลก การระบาดของ AFS ทำให้การผลิตสุกรจาก 500 ล้านตัวหายไปประมาณ 30% เหลือประมาณ 400 ล้านตัว จึงจำเป็นต้องมีการนำเข้าสุกรจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ใต้หวัน กัมพูชา และไทย ทำให้ราคาสุกรในประเทศดังกล่าวเริ่มปรับตัวดีขึ้นด้วย

 

“ซีพีเอฟยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อมีธุรกิจอาหารสัตว์และอาหารแปรรูปที่อยู่ในประเทศจีน เนื่องจากคู่ค้าของบริษัทเป็นฟาร์มที่มีมาตรฐานเป็นหลัก และมั่นใจว่าการระบาดของโรค ASF จะไม่กระทบกับฟาร์มสุกรของบริษัทในประเทศไทย ลาว ฟิลิปปินส์ กัมพูชา อย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทมีการเตรียมตัวมาตรการป้องกันอย่างดีเกือบปีแล้ว จึงมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมได้และสามารถผลิตอาหารได้ปลอดภัย”

ส่วนธุรกิจไก่ครบวงจร ปัจจุบันประเทศไทยมีโควต้าส่งออกไก่เข้าไปยังสหภาพยุโรปเพียง 1.6 แสนตันและโควต้าเต็มมานานแล้ว ดังนั้น บริษัทจึงได้เข้าไปดำเนินธุรกิจที่สหภาพยุโรป ในประเทศโปแลนด์ และสหภาพยุโรป ซึ่งจะช่วยเสริมในส่วนนี้ได้ และปัจจุบันผลการดำเนินงานของบริษัทในโปแลนด์ก็มีการปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ส่วนกระทบจากการที่อังกฤษขอถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องกฎเกณฑ์ใดๆ แต่เชื่อว่าอังกฤษยังมีความต้องการนำเข้าไก่อยู่ในตอนนี้

HyLife Investments Ltd. (HIL)

นอกจากนี้ ทาง CPF Canada Holdings Corp. บริษัทย่อยทำสัญญาซื้อหุ้นทั้งหมดของ HyLife Investments Ltd. (HIL) ซึ่งถือหุ้นใน HyLife Group Holding Ltd. (HyLife) สัดส่วน 50.1% ของหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 11,845 ล้านบาท คาดว่าดีลนี้จะสมบูรณ์ภายใน 8 เดือน จากนั้นจะมีชื่อใหม่เป็น CPF Canada Holdings Corp. โดย HyLife ดำเนินธุรกิจผลิตสุกรครบวงจร เพื่อส่งออกยังญี่ปุ่น จีน สหรัฐและแม็กซิโก มีโรงงานแปรรูป 3 โรงงาน ที่แคนาดา 1 โรงงาน ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะทการลงทุนนี้ทำให้สามารถเปิดตลาดญี่ปุ่น และขยายสู่ทวีปอเมริกาเหนือต่อไป

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติให้ C.P. Vietnam Corporation (CPV) บริษัทย่อยทางอ้อมของ CPF เข้าซื้อหุ้น AHM Lifestyles-Creative Hospitality Co., Ltd. (AHM) ในเวียดนาม ทำธุรกิจร้านอาหาร คิดเป็น 70% ของทุนจดทะเบียนของ AHM มูลค่า 33.3 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจร้านอาหารเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าเนื้อสัตว์

รวมถึงได้มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร โดยวันที่ 24 เมษายน 2562 นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่ามีภารกิจมากขึ้น ไม่มีเวลาปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ตามมาด้วยการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 นั้น ซึ่งมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลของรอบปีบัญชีที่ผ่านมา (รอบบัญชีปี 2561) หุ้นละ 0.65 บาท และการอนุมัติแต่งตั้งกรรมการ 5 ตำแหน่ง 

อนุมัติแต่งตั้งกรรมการ 5 ตำแหน่ง

การอนุมัติมีผลทันที ประกอบด้วย

  • นายชิงชัย โลหะวัฒนะกุล
  • นายอดิเรก ศรีประทักษ์
  • นายพงษ์ วิเศษไพฑูรย์ (หมดวาระไปให้กลับเข้าเป็นกรรมการอีกวาระหนึ่ง
  • นายวินัย วิทวัสการเวช เป็นกรรมการอิสระ
  • นายสุภกิต เจียรวนนท์ (บุตรชายคนโตของนายธนินท์) เป็นกรรมการ

ส่วนในประเทศไทย บริษัทฯ ได้เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์อาหาร โดย มี ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหาร (RD Center) ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อรองรับจำนวนประชากรเริ่มลดลง และตอบรับสังคมผู้สูงวัย บริษัทฯ เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์อาหาร นำเทคโนโลยีผลิตอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารเพื่อผู้ป่วยและผู้สูงอายุhttps://www.facebook.com/profile.php?id=100011731774210

“ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากต่างประเทศ 67% และในประเทศ 33% โดยในประเทศแบ่งเป็น การเติบโตจากภายในประเทศไทยเอง 28% และการส่งออก 5% ทิศทางการเติบโตของซีพีเอฟ ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า บริษัทจะเติบโตจากกิจการต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะ ประเทศฟิลิปปินส์ เวียดนาม รัสเซีย ตลาดเหล่านี้ยังเป็นตลาดต้นน้ำอยู่ โดยจะมุ่งเน้นในธุรกิจ Feed-Farm-Food ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ เราจึงมั่นใจว่าเราเป็นผู้นำด้านธุรกิจอาหารอย่างครบวงจร” นายสุขสันต์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ CPF เพิ่ง คว้า 4 รางวัลระดับสากล 9th Asian Excellence Awards 2019 โดย คุณอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร ซีพีเอฟ เป็นผู้แทนเครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้ารับรางวัล “ซีอีโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย” หรือ Asia’s Best CEO (Investor Relations) พร้อมทั้งรับรางวัล “บริษัทนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย” หรือ Best Investor Relations Company (Thailand)

 

นอกจากนี้ คุณไพศาล จิระกิจเจริญ ประธานผู้บริหารฝ่ายการเงิน ได้รับรางวัล “ซีเอฟโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย” หรือ Asia’s Best CFO และคุณกอบบุญ ศรีชัย เลขานุการบริษัท ได้รับรางวัล “นักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย” หรือ Best Investor Relations Professional (Thailand) จากเวที Asian Excellence Awards 2019 จัดโดยนิตยสาร Corporate Governance Asia สื่อชั้นนำด้านเศรษฐกิจและการกำกับดูแลกิจการที่ดีของฮ่องกงและเอเชีย ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน

อนึ่ง ซีพีเอฟ ได้รับรางวัลระดับเอเชียจากเวที Asian Excellence Awards ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง จากการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ยึดมั่นการบริหารจัดการธรรมาธิบาลในการกำกับดูแลกิจการอย่างโปร่งใส สร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร ชุมชน สิ่งแวดล้อม ตลอดจนได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ถือหุ้น และทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งระดับประเทศ และสากล

Rate this item
(2 votes)
Last modified on Wednesday, 25 May 2022 12:47
อนุทิพย์ ก่อเกิดทรัพย์ทวี

Author : เกาะติด รวบรวมข่าวและองค์ความรู้เกี่ยวกับเกษตร สาระน่ารู้เรื่องเกษตรทุกด้าน นับตั้งแต่ด้านพันธุ์ เทคโนโลยีการผลิต การอารักขา เครื่องจักรกลการเกษตร ตลอดถึงด้านการแปรรูป

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM