IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
ในปี 2565 ตลาดอีคอมเมิร์ซมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการระบาดของโควิด 19 ที่ยังไม่จบ และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงเลือกช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางในการกระจายสินค้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า สัดส่วนการซื้อสินค้าแต่ละกลุ่มผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของผู้บริโภคในปี 2565 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและการปรับตัวของผู้ประกอบการค้าปลีกผ่านการทำกลยุทธ์ Omni-channel (Offline to Online) ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น โดยมียอดขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในปีที่ผ่านมาโต 2-3 เท่าตัว สอดคล้องไปกับผลสำรวจของผู้บริโภคที่คาดว่าปีนี้ จะหันมาใช้จ่ายซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นกว่า 35% ส่งผลให้ในเบื้องต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ธุรกิจ B2C E-commerce กลุ่มสินค้าปี 2565 น่าจะมีมูลค่าตลาดราว 5.65 แสนล้านบาท
พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จึงต้องเตรียมรับมือกับยอดออเดอร์ที่จะหลั่งไหลเข้ามา ด้วยการใช้บริการ Fulfillment (บริการบริหารจัดการคลังสินค้า) ดังนั้น BEST Supply Chain จึงขอแนะนำบริการ Order Fulfillment Center (OFC) หรือ บริการศูนย์กลางระบบบริหารจัดการคลังสินค้า ที่ให้บริการ “Fulfillment” ตั้งแต่การช่วยคิดวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการล่วงหน้า (Data Analysis) การจัดการสินค้าคงคลัง (Warehouse management) โดยมีกระบวนการรับสินค้า (Inbound) เก็บสินค้า (Storage) แพ็คสินค้า (Packing) ไปจนถึง การจัดส่งสินค้า (Outbound) ช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการจัดการสินค้าหลังบ้าน เพราะมีระบบการจัดการคลังสินค้าที่เชื่อมต่ออัตโนมัติกับระบบอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไปจนถึงระบบเครือข่ายที่ให้บริการด้านขนส่งที่รวดเร็วภายในประเทศ ด้วยขนส่งจาก BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ผู้ให้บริการ รับ-ส่งพัสดุด่วนทั่วไทย ที่มีสาขาเปิดให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด และนอกจากการให้บริการจัดการคลังสินค้าแล้ว เรายังให้ความสำคัญในการเพิ่มมูลค่าการบริการให้กับผู้ใช้บริการ ตัวอย่างเช่น การติดฉลาก (Label) ให้กับสินค้า รวมถึงช่วยจัดทำใบแจ้งหนี้ (Invoice) ให้กับร้านค้าออนไลน์ ตลอดจนมีระบบ Self-Developed System อาทิ ERP GWMS T9 และ BI เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการหลังบ้านให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์แบบครบวงจร (One Stop Customer Service) ที่เข้ามาช่วยดูแลปัญหาหน้างานและหลังบ้านของลูกค้าโดยตรงและช่วยแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
ปัจจุบัน BEST Supply chain มีกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการ OFC คือ กลุ่มลูกค้าประเภท B2B B2C และ B2B2C ที่มีออเดอร์ตั้งแต่ 200 ออเดอร์ขึ้นไปต่อวัน ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด และนอกจากนี้ยังสามารถรองรับขนาดความสูงของสินค้าเพื่อจัดเก็บได้สูงถึง 200 เซนติเมตร หรือ 2 เมตร ต่อ 1 พาเลท แถมยังรองรับสินค้าขนาดใหญ่ต่อชิ้นได้น้ำหนักสูงสุดถึง 100 กิโลกรัม
สำหรับร้านค้าออนไลน์ท่านใดที่กำลังเผชิญปัญหาการบริหารจัดการหลังบ้าน สามารถติดต่อ BEST Supply Chain เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมบริการได้ที่ เฟซบุ๊กเพจ: BESTSupplyChainThailand หรือคลิกลิงก์ที่นี่ https://web.facebook.com/BESTSupplyChainThailand หรือติดต่อได้ที่ 02-108 -8008 ต่อ 66070 หรือ 66069