นางสาวพัทธมล เลาหพูนรังษี  ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า การดำเนินงานของบริษัทฯนับจากนี้จะมุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยแตกย่อยกลุ่มลูกค้าแบบ Market Fragmentation  วางดีไซน์บ้านให้สอดคล้องกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่พิถีพิถันในการเลือกที่อยู่อาศัยให้ตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิตมากขึ้น ตอบโจทย์เป้าหมายการเป็น “Lifestyle Property Developer” เนื่องจากแนวคิดเรื่องประชากรศาสตร์และพฤติกรรมของคนไทยที่เปลี่ยนไป โดยเจนเนอเรชั่นที่ครองตลาด Premium-Mass วันนี้มีสัดส่วน Gen Y มากที่สุด และไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไปมีความหลากหลายมากขึ้น โปรดักส์ที่มีอยู่ในตลาดอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเพียงพอ กลยุทธ์การตลาดของอารียา จะให้ความสำคัญกับ “ดีไซน์” และ “ฟังก์ชัน” ที่นอกจากจะต้องสวย แตกต่าง และโดดเด่นแล้ว ยังต้องมีพื้นที่ใช้สอย ฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยมากที่สุด ด้วยการ Customization

“ในปี 2565 นี้ เรามุ่งสร้างแบรนด์ให้มีเสน่ห์ที่แตกต่างอย่างโดดเด่น ทำให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำ และกระจายโปรดักส์ไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพมากขึ้น โดยจะเน้นพัฒนาโครงการแนวราบอีกหลายแห่ง พร้อมสร้างประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์หรือโปรดักส์นั้นๆ ตามไลฟ์สไตล์กลุ่มเป้าหมาย ที่สำคัญเน้นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่หลากหลายตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าและเหมาะสมกับแต่ละโครงการอีกด้วย”

โดยช่วง 2 ปีที่ผ่าน อารียา รุกตลาดแนวราบเจาะ “GEN Y” มากขึ้น ด้วยการพัฒนา 2 โครงการนำร่องที่มีดีไซน์ที่แตกต่างไปจากเดิมเริ่มจาก “โคโม่ เบียงกา” โซนบางนาระดับราคา 5 ล้านบาทเป็นโครงการบ้านสีขาวโครงการแรกที่พัฒนาออกมาเพื่อให้มีความโฮมมี่! พบว่ามีการตอบรับที่ดีมากช่วงพรีเซลสร้างยอดขาย 250 ล้านบาท และขายหมดภายใน 18 เดือน ถือเป็นโครงการแรกในรอบ10 ปี!! ที่ปิดโครงการเร็วมาก ต่อมาโครงการ “โคโม่ โบทานิก้า” ระดับราคา 5.49 ล้านบาท กระแสตอบรับดีมากเช่นกัน สะท้อนจากยอดลูกค้าเยี่ยมชมโครงการแล้วตัดสินใจซื้อ 3:1 จากค่าเฉลี่ยในตลาดอยู่ที่ 6:1 และปิดโครงการได้เร็วกว่า 18 เดือน แม้จะเป็นช่วงสถานการณ์โควิด19 ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีเกินเป้าหมายที่วางไว้

โดยที่ผ่านมาลูกค้าอารียาจะเป็นผู้ใหญ่ สไตล์ ทรอปิคอล คอนเทมโพรารี่ แต่เมื่อขยับมาเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่จึงต้องสร้างความต่าง และเป็นที่มาของ “AREN” โครงการล่าสุดที่ใช้ดีไซน์สุดโต่งแบบโมเดิร์นมินิมอล สีขาวไปให้สุด!  ที่จะมาช่วยสร้างภาพลักษณ์ หรือ Image driven แบรนด์อารียาในเชิง Corporate Brand มีความทันสมัยขึ้นอย่างเห็นได้ชัดต่อการมุ่งจับคนรุ่นใหม่อายุ 27-35 ปี ให้รู้จักแบรนด์และจดจำแบรนด์ได้มากขึ้น รวมถึงส่วนหนึ่งได้ Insight จากทีมงานคนรุ่นใหม่ มีการทำการบ้านเจาะลึกไลฟ์สไตล์ ซึ่งคนรุ่นใหม่อยู่บ้านไม่ใช่แค่นอน ตื่นมารับประทานอาหาร แล้วออกนอกบ้าน แต่ยุคโควิดนี้ “อยู่บ้าน” มากขึ้น จะมีจุดขายอย่างไรที่ทำให้คนอยากอยู่บ้าน หรืออยู่แล้วไม่อึดอัดเวลาที่ต้องทำงานที่บ้าน จึงลงตัวที่ “คอร์ทยาร์ด” ใส่เข้าไปกลางบ้านทาวน์โฮมอยู่มุมไหนของห้องก็รู้สึกโปร่ง เป็นจุดที่แตกต่างจากสินค้าในท้องตลาดอสังหาริมทรัพย์เจ้าอื่นๆ

AREN มีกิมมิกและฟังก์ชั่น ตอบโจทย์เจนวายในทุกส่วน ตั้งแต่โปรดักท์ การทำแคมเปญ ที่สื่อสารภาพแบรนด์ออกไปได้ชัดเจน มี Unique point ทำให้สำเร็จทั้งแคมเปญ โปรดักท์และยอดขาย

 “ในระดับราคา 4.39 กับพื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. ตอบโจทยกลุ่ม DINK (Double income no kids) ซึ่งอาจมีทั้งแต่งงาน หรือไม่แต่งงาน สามารถเรียกว่าครอบครัวได้ถึงแม้จะไม่มีลูก แต่เลี้ยงแมวหรือสุนัขแทน เหล่านี้คือตัวอย่างของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น”

นอกจากนี้ อารียา ยังได้สร้างแบรนด์ผ่าน 5 Senses Experience เน้นการ Collaboration กับพันธมิตร มีการทำ CRM program และพัฒนา CRM tools เพื่อให้ลูกบ้านรักในแบรนด์และมีความสุขที่ตัดสินใจมาเป็นลูกบ้านอารียา ไม่ว่าจะเป็นพริวิเลจ การดูแลหลังการขาย สิ่งแวดล้อม ซึ่ง อารียา มุ่งสู่ “หมู่บ้านปลอดขยะ”  โดยสร้าง Zero waste system เช่น มีถังแยกขยะ แอพ recycle time เปลี่ยนขยะให้เป็นเงินได้ และ Food Waste Converter เปลี่ยนเศษอาหารเป็นดินหรืออาหารต้นไม้อีกด้วย

โครงการ  “หมู่บ้านปลอดขยะ” ประสบความสำเร็จด้านการสร้างสรรค์สังคมสิ่งแวดล้อม หลังจาก "อารียา" เดินหน้าทุ่มเทลงมือมาเกือบ 5 ปี

ล่าสุดได้เดินหน้าสานต่อความร่วมมือกันอีกครั้ง กับร้านกาแฟสไตล์มินิมอล Hario Café มอบเซอร์ไพรซ์สุดพิเศษสำหรับลูกบ้าน Areeya Family ผ่านกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “Brew It Yourself by Areeya x Hario Café” เพื่อเป็นตอกย้ำความสำเร็จ โดยภายในงานได้เชิญลูกบ้าน Areeya Family ร่วมกิจกรรม Workshop เรียนรู้เทคนิคการ Brew กาแฟตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการดริปกาแฟให้ได้รสชาติตามความชอบของแต่ละคน โดยบาริสต้ามากประสบการณ์จากร้าน Hario Café แบรนด์อุปกรณ์กาแฟชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เข้าถึง Lifestyle ของลูกบ้าน Areeya Family ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งความเป็นอยู่ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต

นอกจากลูกบ้าน Areeya Family จะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศและเรียนรู้การดริปกาแฟแล้ว ภายในงานยังมีการมอบชุดอุปกรณ์ดริปกาแฟ Hario Dipper & Pot มูลค่า 1,750 บาท และคูปองส่วนลดให้กับทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อสามารถต่อยอดความรู้และสร้างสรรค์เมนูกาแฟดื่มเองง่ายๆ ได้ที่บ้าน โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณ และตอบแทนทุกท่านที่มอบความไว้วางใจเลือกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอารียาฯ โดยบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความประทับใจ ณ Hario Café สาขา โชคชัย 4 สำหรับลูกบ้านอารียาฯ ที่ไม่อยากพลาดกิจกรรมดีๆ สุดเอ็กซ์คลูซีฟแบบนี้ สามารถติดตามได้ที่ www.areeya.co.th, Facebook : Areeya Home, LINE @areeyahome

รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc