เคล็ด (ไม่) ลับวางแผนเลือกซื้อบ้านใหม่เป็นเรือนหออย่างไรให้รักมั่นคง

เมื่อความรักสุกงอมแล้วการวางแผนซื้อเรือนหอร่วมกันถือเป็นก้าวสำคัญของชีวิตคู่ เนื่องจากการมีบ้านเป็นของตัวเองนอกจากจะสร้างความมั่นคงแล้วยังเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นสร้างครอบครัวอีกด้วย สอดคล้องกับข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุดของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ 

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย พบว่าผู้บริโภคเกือบ 1 ใน 3 (31%) ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับพ่อแม่และบุตรหลานเมื่อขยายครอบครัว รวมถึงการวางแผนระยะยาวสำหรับผู้ที่มีแผนแต่งงานสร้างครอบครัว

ส่อง 4 ปัจจัยสำคัญที่คู่รักควรพิจารณาเมื่อซื้อเรือนหอ

การซื้อบ้านใหม่เป็นเรือนหอถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่คู่รักต้องพิจารณาร่วมกันหลายด้าน เนื่องจากเป็นการสร้างภาระผูกพันทางการเงินระยะยาวร่วมกัน ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) ชวนคู่รักมาสำรวจปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อบ้านใหม่เป็นเรือนหอ เพื่อให้สามารถเลือกที่อยู่อาศัยได้ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งสองฝ่ายมากที่สุด ดังนี้

  1. ตั้งงบประมาณให้เหมาะสมกับรายได้ สิ่งแรกที่คู่รักต้องทำคือการตั้งงบประมาณเรือนหอในฝันให้ชัดเจน โดยพิจารณาจากรายได้และค่าใช้จ่ายของทั้งสองคนรวมกัน เพื่อนำมาคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนหากต้องยื่นกู้สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากธนาคาร ขณะเดียวกันควรสร้างประวัติทางการเงินให้ดี หลีกเลี่ยงการมีประวัติค้างชำระซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ นอกจากนี้ยังต้องมีเงินเก็บเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าตกแต่งบ้าน เป็นต้น ทั้งนี้ การกำหนดงบประมาณซื้อที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับความสามารถทางการเงินจะช่วยให้คู่รักเลือกบ้านได้ตรงตามกำลังทรัพย์ และไม่สร้างภาระทางการเงินในอนาคต
  2. เลือกทำเลให้ตอบโจทย์ ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ คู่รักทั้งสองฝ่ายควรเลือกทำเลเรือนหอให้สามารถเดินทางสะดวกทั้งในการไปทำงานหรือใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ เช่น ใกล้สวนสาธารณะ ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง หากวางแผนมีบุตรในอนาคตก็ควรเลือกที่อยู่อาศัยที่ไม่ไกลจากสถานศึกษา หรือหากมีสัตว์เลี้ยงก็ควรพิจารณาโครงการบ้าน/คอนโดมิเนียมที่เลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-Friendly) มีสิทธิประโยชน์หรือมีส่วนกลางที่อำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ

ล่าสุดดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) ได้ออกฟิลเตอร์ใหม่เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของคนหาบ้าน ให้สามารถเลือกค้นหาบ้าน/คอนโดฯ หลังใหม่ที่ใช่ได้ง่ายขึ้น ประกอบด้วยฟิลเตอร์ค้นหาโครงการที่มีส่วนกลางเอาใจคนรักสัตว์, โครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, โครงการใกล้โรงเรียน และโครงการหรู นอกจากนี้ คู่รักควรเลือกทำเลที่มีระบบสาธารณูปโภคครบครัน อยู่ใกล้โรงพยาบาลหรือคลินิกเพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและดูแลสุขภาพในอนาคต 

  1. พิจารณารูปแบบที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม คู่รักควรตัดสินใจร่วมกันว่าจะเลือกซื้อที่อยู่อาศัยรูปแบบไหนเป็นเรือนหอ โดยพิจารณาจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว เช่น หากวางแผนมีลูกในอนาคตบ้านเดี่ยวอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ส่วนคู่รักที่ต้องการความคล่องตัวและไม่ต้องการพื้นที่มากนักควรเลือกคอนโดฯ แทน ทั้งนี้ หากคู่รักต้องทำงานที่บ้านหรือต้องการพื้นที่ทำธุรกิจเล็กน้อยอาจจะเลือกบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ที่ตอบโจทย์มากกว่า อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการไปดูโครงการจริงเพื่อพิจารณาสภาพแวดล้อมโดยรอบก่อนตัดสินใจซื้อ เช่น ความปลอดภัยในพื้นที่ ความเงียบสงบ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้การอยู่อาศัยเป็นไปอย่างราบรื่น
  2. วางแผนสร้างครอบครัวในอนาคตอย่างรอบคอบ การซื้อเรือนหอเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูง คู่รักจึงควรวางแผนอนาคตร่วมกันให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ ทั้งด้านการวางแผนครอบครัวว่าจะมีบุตรในอนาคต, จะอาศัยอยู่กันสองคน หรือจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแทนลูก (Pet Humanization) ซึ่งจะส่งผลต่อการเลือกขนาดและรูปแบบที่อยู่อาศัย รวมทั้งพิจารณาถึงความมั่นคงในอาชีพของทั้งสองฝ่าย โดยต้องไม่ลืมประเมินความเสี่ยงว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงทางอาชีพเกิดขึ้น จะยังคงมีเงินเก็บเพียงพอในการผ่อนชำระต่อได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้น คู่รักจึงควรปรึกษาและพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อเรือนหอที่ใช่ในเวลาที่พร้อม

กฎหมายควรรู้ การซื้อเรือนหอถือเป็นสินสมรสหรือไม่?

ตามกฎหมายแล้วคู่สมรสจะมีสิทธิในการบริหารจัดการสินสมรสร่วมกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1474 บัญญัติไว้ว่า สินสมรส ได้แก่ ทรัพย์สินที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส เช่น เงินเดือน โบนัส หรือทรัพย์สินที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือการให้เป็นหนังสือโดยระบุว่าเป็นสินสมรส รวมทั้งทรัพย์สินที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว สำหรับสิทธิในการครอบครองอสังหาฯ หรือเรือนหอนั้น

  • หากคู่รักจดทะเบียนสมรสกันก่อนซื้อบ้าน/คอนโดฯ เพื่อเป็นเรือนหอจะถือเป็นสินสมรส ซึ่งทั้งสองคนมีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน หากขายบ้านที่มีกรรมสิทธิ์ร่วมกันนี้ รายได้จากการขายจะต้องแบ่งครึ่งหรือแบ่งตามสัดส่วนกรรมสิทธิ์ ส่วนกรณีที่มีการหย่าร้างในภายหลัง สินสมรสจะต้องนำมาแบ่งกันระหว่างสามีภรรยา 
  • ในกรณีที่ผู้บริโภคซื้อบ้าน/คอนโดฯ ตั้งแต่ตอนยังโสดจะถือว่าที่อยู่อาศัยนั้นเป็นสินส่วนตัว หากผู้บริโภคมีการจดทะเบียนสมรสในภายหลังและต้องการเพิ่มชื่อคู่สมรสเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกัน จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น หรือหากต้องการเพิ่มชื่อคู่สมรสในกรณีที่เปลี่ยนจากการกู้เดี่ยวมาเป็นการกู้ร่วมเพื่อช่วยกันผ่อนชำระบ้านนั้น ธนาคารจะนำรายได้และภาระหนี้ของคู่สมรสที่กู้ร่วมมาพิจารณาอีกครั้ง  

ด้านกรรมสิทธิ์ในการครอบครองที่อยู่อาศัย เมื่อผู้กู้ผ่อนชำระสินเชื่อบ้านครบแล้วกรรมสิทธิ์จะเป็นของผู้กู้โดยตรง ในกรณีการกู้ร่วมของคู่รัก ผู้กู้ร่วมจะต้องตกลงกันว่าจะให้ใครถือกรรมสิทธิ์ หรือจะถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน หรือจะระบุไปในสัญญาว่าจะมอบกรรมสิทธิ์ให้ผู้ใด อย่างไรก็ดี หากผู้กู้เสียชีวิตโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตจะถือเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิรับมรดกของคู่สมรสที่เสียชีวิตได้ตามกฎหมาย ซึ่งรวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ 

เปิดสูตรผ่อนบ้านฉบับคู่รัก วางแผนอย่างไรให้ผ่อนหมดไวไปด้วยกัน

การซื้อเรือนหอถือเป็นก้าวแรกในการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ เมื่อคู่รักคิดจะสร้างครอบครัวร่วมกันแล้วจึงไม่ควรละเลยการวางแผนทางการเงินเพื่อผ่อนบ้านในอนาคต ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) ขอแนะนำเคล็ด (ไม่) ลับช่วยให้คู่รักวางแผนผ่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดภาระดอกเบี้ยให้หมดไว สานฝันให้คู่รักมีเรือนหอในฝันได้อย่างมั่นใจ 

  • ตกลงหน้าที่ผ่อนบ้านให้ชัดเจน คู่รักทั้งสองฝ่ายควรปรึกษาและตกลงกันให้ชัดเจนเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบในการผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน เช่น ใครจะเป็นผู้ยื่นกู้ซื้อบ้านหรือจะกู้ร่วมกัน ใครจะรับหน้าที่ผ่อนบ้านเป็นหลัก แบ่งสัดส่วนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนกลางหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกี่ยวกับบ้านอย่างไร หรือจะตั้งเงินกองกลางเพื่อดูแลรักษาบ้านเท่าไร ซึ่งควรพิจารณาโดยอ้างอิงจากรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนตัวของแต่ละฝ่ายว่าใครมีความสามารถในการผ่อนชำระได้มากกว่า เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันและแยกรายจ่ายเพื่อผ่อนบ้านอย่างเป็นระบบ ลดความขัดแย้งเรื่องนี้ในภายหลัง

 

  • เลือกอัตราดอกเบี้ยอย่างชาญฉลาด ผู้บริโภคควรศึกษาและทำความเข้าใจว่าอัตราดอกเบี้ยแบบไหนที่คุ้มค่าที่สุด โดยนำอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อแต่ละตัวมาเฉลี่ยเป็นอัตราดอกเบี้ยตลอดอายุของสินเชื่อและปรับให้เป็นอัตราดอกเบี้ยต่อปี ซึ่งจะทำให้สามารถเปรียบเทียบสินเชื่อของแต่ละธนาคารได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญคือผู้กู้ควรเลือกจากอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยใน 3 ปีแรกเป็นหลักว่าธนาคารใดให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด และเมื่อผ่อนชำระครบ 3 ปีแล้ว ให้พิจารณายื่นเรื่องขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม (Retention) หรือรีไฟแนนซ์ (Refinance) กับธนาคารใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ประหยัดค่าดอกเบี้ยในระยะยาวได้มากขึ้น 

เคล็ดลับในการเลือกสินเชื่อนั้นผู้กู้ควรเลือกอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีแนวโน้มที่จะปรับลดลง ซึ่งจะทำให้ยอดดอกเบี้ยที่ผู้กู้ต้องชำระลดลงตามไปด้วย แต่หากอยู่ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้น ผู้กู้ควรเลือกสินเชื่อที่อัตราดอกเบี้ยคงที่ทั้ง 3 ปี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่อาจปรับสูงขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจในช่วงนั้น โดยสามารถติดตามสถานการณ์ที่ส่งผลต่อการปรับอัตราดอกเบี้ยได้จากข่าวเศรษฐกิจและการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์

  • “ผ่อนแบบลดต้นลดดอก” ช่วยลดภาระดอกเบี้ย "การผ่อนบ้านแบบลดต้นลดดอก" (Effective Rate) เป็นวิธีการคำนวนของธนาคารที่ชี้แจงให้เห็นถึงความตรงต่อเวลาในการส่งเงินต้น อันเป็นผลทำให้ดอกเบี้ยในงวดต่อไปลดลง โดยคำว่า “ลดต้น” หมายถึงเงินต้นซึ่งจะนำมาคิดดอกเบี้ยในแต่ละงวด โดยเงินต้นจะลดลงไปเรื่อย ๆ จากการนำจำนวนเงินในงวดที่ชำระไปก่อนหน้าส่วนที่เหลือจากหักชำระดอกเบี้ยมาหักลบออกไป ส่วน “ลดดอก” หมายถึงดอกเบี้ยในงวดถัดมาที่จะลดลงเรื่อย ๆ แปรผันตามเงินต้นที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เงินต้นเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ เนื่องจากถูกหักออกไปจากการชำระในงวดก่อนหน้า แม้ว่าจำนวนเงินที่ชำระในแต่ละงวดจะกำหนดไว้คงที่ แต่การคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกนี้จะทำให้จำนวนเงินที่ผ่อนชำระในงวดหลัง ๆ จะถูกกันส่วนหนึ่งไปชำระดอกเบี้ยน้อยลง และเหลือส่วนที่ไปตัดยอดหนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ จึงถือเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว
  • วางแผนโปะบ้านให้ผ่อนหมดไวแบบติดสปีดการโปะบ้าน” เป็นการผ่อนชำระหนี้ให้มากกว่าที่กำหนดไว้หรือมากกว่าจำนวนเงินชำระต่องวดที่ระบุไว้ในสินเชื่อ เพื่อให้มีจำนวนเงินไปหักชำระเงินต้นมากขึ้นหรือไปหักยอดหนี้โดยตรง ถือเป็นวิธีที่ช่วยให้ผ่อนบ้านหมดเร็วและลดดอกเบี้ยอย่างเห็นผลได้ชัดเจน โดยสามารถทำได้ทั้งการกระจายเงินเพื่อชำระเงินเกินด้วยจำนวนเงินน้อย ๆ แต่เลือกชำระเกินทุกงวด หรือจะชำระเกินด้วยจำนวนเงินมาก ๆ เพียงก้อนเดียวและโปะบ้านเพิ่มปีละครั้งก็ได้เช่นกัน


ซึ่งการโปะบ้านด้วยการชำระเกินทุกงวดด้วยจำนวนเงินน้อย ๆ เหมาะกับผู้มีรายได้คงที่และรายจ่ายค่อนข้างคงที่ ซึ่งจะดีกว่าการรอนำเงินก้อนใหญ่เพียงก้อนเดียวอย่างเงินโบนัสมาโปะยอดหนี้ ส่วนการผ่อนบ้านแบบโปะเงินจำนวนมากนั้นเหมาะสมกับอาชีพที่รายได้ไม่คงที่และไม่สม่ำเสมอ เช่น พนักงานขาย หรืออาชีพอิสระ ที่จะได้รับค่าจ้างหรือค่าคอมมิชชันเป็นครั้งไป จึงอาจไม่สามารถผ่อนบ้านแบบชำระเกินได้ทุกงวด อย่างไรก็ดี การโปะบ้านทุกครั้งที่มีโอกาสไม่ว่าจะวิธีไหนก็ช่วยให้ผู้กู้สามารถผ่อนชำระหนี้บ้านได้ไวกว่าปกติอย่างแน่นอน

การวางแผนซื้อเรือนหอแม้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินจะทำความเข้าใจ เพียงคู่รักใช้ความรักและความเข้าใจในการวางแผนก็จะสามารถเลือกซื้อเรือนหอในฝันได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ได้พัฒนาฟิลเตอร์ช่วยค้นหาที่อยู่อาศัยให้ตรงโจทย์คนหาบ้านทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาด้วยสถานีรถไฟฟ้า BTS/MRT หรือหาโครงการใกล้โรงเรียนสำหรับผู้ที่เน้นความสะดวกในการเดินทาง หรือจะเลือกฟิลเตอร์ค้นหาตามไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่มาพร้อมส่วนกลางเอาใจคนรักสัตว์, โครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และโครงการหรู นอกจากนี้ ยังได้รวบรวมข้อมูลประกาศซื้อ/ขาย/ให้เช่าโครงการบ้าน/คอนโดฯ ใหม่ในหลากหลายทำเลทั่วประเทศ เพื่อช่วยให้ทุกคนเตรียมความพร้อมก่อนตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในฝันได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

รู้จักกับ DDproperty 

DDproperty (ดีดีพร็อพเพอร์ตี้) เป็นแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ในเครือ PropertyGuru Group (พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป) ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ DDproperty มีส่วนในการพลิกโฉมวิธีการค้นหาบ้านมาสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ และช่วยให้คนไทยตัดสินใจซื้อ-ขาย-เช่า-ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมั่นใจ

ปัจจุบัน DDproperty เป็นแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ค้นหาที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 62%* ในเมืองไทย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ www.DDproperty.com; www.PropertyGuruGroup.com รวมไปถึงช่องทางโซเชียล มีเดียของเรา ได้แก่ Facebook, Instagram, YouTube และ LinkedIn

*อ้างอิงข้อมูลจาก SimilarWeb ช่วงระหว่างเดือน ต.ค. 2566 - มี.ค. 2567

 

รู้จักกับ PropertyGuru Group 

พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ1ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ค้นหาบ้านกว่า 31 ล้านราย2 ในการเชื่อมต่อกับเอเจนต์กว่า 50,000 ราย3 เพื่อเข้าเยี่ยมชมและใช้บริการบนเว็บไซต์ในแต่ละเดือน พร็อพเพอร์ตี้กูรูและบริษัทในเครือช่วยให้ผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยทั่วภูมิภาคได้เข้าถึงรายการประกาศขาย-เช่าที่มีมากกว่า 2.1 ล้านรายการ4 อีกทั้งยังมีข้อมูลเชิงลึกและโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคในสิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย และเวียดนาม ใช้ประกอบการตัดสินใจครั้งสำคัญได้อย่างมั่นใจ

PropertyGuru.com.sg เริ่มให้บริการครั้งแรกในปี 2550 นับเป็นการปฏิวัติตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ ด้วยการนำระบบออนไลน์เข้ามาใช้และช่วยให้การหาบ้านมีความโปร่งใสมากขึ้น ในช่วงเวลากว่า 17 ปีที่ผ่านมา พร็อพเพอร์ตี้กูรูได้เติบโตมาเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาฯ ที่มีการเติบโตสูง มีเว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาฯ อันดับ 1 อยู่ภายใต้การบริหาร มีแอปพลิเคชั่นที่มีรางวัลเป็นเครื่องการันตีคุณภาพและบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ ที่สำคัญ ๆ อาทิ การจัดงานแจกรางวัลด้านอสังหาฯ กิจกรรมส่งเสริมการตลาด รวมไปถึงสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วภูมิภาคเอเชีย 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ PropertyGuruGroup.com; PropertyGuru Group on LinkedIn

 

1 อ้างอิงข้อมูลจาก SimilarWeb ช่วงระหว่างเดือน ม.ค. - มิ.ย. 2567

2 อ้างอิงข้อมูลจาก Google Analytics ช่วงระหว่างเดือน ม.ค. - มิ.ย. 2567

3 ข้อมูลระหว่างเดือน เม.ย. - มิ.ย. 2567

4 ข้อมูลระหว่างเดือน ม.ค. - มิ.ย. 2567

 

เว็บไซต์ในเครือพร็อพเพอร์ตี้กูรู:

ไทย                                         : DDproperty.com | Thinkofliving.com

สิงคโปร์                                  : PropertyGuru.com.sg | CommercialGuru.com.sg

มาเลเซีย                                 : PropertyGuru.com.my | iProperty.com.my

เวียดนาม                               : Batdongsan.com.vn | Dothi.net

เอเชีย                                      : PropertyGuruGroup.com | AsiaPropertyAwards.com | AsiaRealEstateSummit.com | PropertyGuruForBusiness.com 

Rate this item
(0 votes)
Last modified on Tuesday, 25 February 2025 01:06
ปนิตา ปุญญเดช

Author : เกาะติดข่าวในเวดวงอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน, คอนโดมิเนียม, ทาวโฮม, ออฟฟิค, การสร้างโรงงาน, ที่ดิน, การจัดสวน, สนามกอล์ฟ, ทั้งด้านการก่อสร้าง, การซื้อขายแลกเปลี่ยน ฯลฯ

Latest from ปนิตา ปุญญเดช

Tweet Feed

Post Gallery

Taiwan Excellence โชว์โซลูชั่นระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ปลดล็อคศักยภาพอุตสาหกรรมไทย ในงาน Manufacturing Expo 2025

Zoomlion ฉลองครบ 10 ปีในไทย พร้อมเปิดศูนย์ครบ 10 สาขา เดินหน้าขยายบริการภาคอีสาน ด้วยการเปิดสาขาใหม่ที่อุบล

มันส์ติดขอบสนาม กับศึกโมโตครอส C "Thailand Motocross 2025" สนาม 6-7จะมีขึ้นที่ ซิลเวอร์ ร็อค จ.เลย ลุ้นแย่งแชมป์ มันส์ระเบิดแน่!!!

"เทระวัตต์ เอนเนอร์จี" ผนึก 4 พันธมิตรชูบริการ "ONE STOP SERVICE" จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เปิดตัว ‘SigenStor’ All-in-One โซลูชันระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมแบตเตอรี่ และ AI อัจฉริยะ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก SIGENERGY ครั้งแรกในประเทศไทย

อร่อยกับ “มาม่า” แล้วไปสนุกจัดเต็มกับคอนเสิร์ตออร์เคสตราสุดยิ่งใหญ่  “Bodyslam Power of The B-Side Concert ความฝันกับจักรวาล”

แกร็บ ผนึก กทม. หนุนนโยบายสร้างเมืองปลอดภัย  ดึง บุ๋ม ปนัดดา ปลุกพลังคนขับป้องกันภัยคุกคามทางเพศ

กลุ่มธุรกิจ TCP ผสานพลัง บีไอจี นำไนโตรเจนคาร์บอนต่ำใช้ในกระบวนการผลิตมุ่งสู่ Net Zero

finbiz by ttb แนะธุรกิจ SME นำ AI เทคโนโลยีอัจฉริยะ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

เผยความต้องการซื้อรถยนต์มือสองตลาดภูมิภาคมีแนวโน้มเติบโต AUCT จับมือไฟแนนซ์เปิดประมูลขายทั่วประเทศไม่มีวันหยุด

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM