“บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)” ผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ประกาศความพร้อมแผนการลงทุนปี 2562 เดินหน้ารับโครงการรับเมกะโปรเจคภาครัฐและเอกชน ชูงานในมือ (backlog) กว่า 3.4 หมื่นล้านบาท ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจไทยยุค 4.0
บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ไต่ระดับจากรับเหมางานถนนมาถึงรถไฟฟ้าสารพัดสีจนขึ้นแท่นบิ๊กโฟร์ของวงการ จากการที่ได้งานใหญ่หลายโปรเจ็กต์ ที่ผ่านมาได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเองที่สระบุรี 2,000 ไร่ โรงประกอบเหล็กที่กบินทร์บุรี 120 ไร่ และศูนย์เครื่องจักร 200 ไร่ที่นวลฉวี และลงทุนซื้อหัวรถจักรเพื่อใช้ขนส่งเซ็กเมนต์ทางรถไฟจากสระบุรีมาที่บางซื่อ
ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย
ข้อมูลล่าสุดจากบอสใหญ่ “ประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย” ระบุว่า ตัวเลขปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ราว 12,000-13,000 ล้านบาท กำไร 6-7% ยังมีงานในมือกว่า 30,000 ล้านบาท เช่น งานสถานีกลางบางซื่อ สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สายสีเขียว สายสีส้ม อุโมงค์ส่งน้ำแม่งัด-แม่กวง สามารถรับรู้รายได้อีก 2 ปี
ปลายปีที่ผ่านมา ได้สร้างถนนต่อเชื่อมราชพฤกษ์-วงแหวนกาญจนาภิเษกแนวเหนือ-ใต้เสร็จแล้ว ภายในปี”62 สถานีกลางบางซื่อจะเสร็จ ซึ่งเป็นงานของรถไฟที่ใหญ่ที่สุด ยังมีสายสีน้ำเงินช่วงเตาปูน-ท่าพระจะเสร็จ จะโยกคนมาที่ไซต์รถไฟทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ สีเขียว สีส้ม
บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ มีงานในมือ โดยเน้นโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐเป็นส่วนหลัก ซึ่งมูลค่างานในมือของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากการได้รับผลประโยชน์ความพยายามของภาครัฐสำหรับการผลักดันพัฒนาโครงการขนส่งมวลชน จึงมีความเสี่ยงน้อยในเรื่องของรายได้ เนื่องจากมูลค่างานในมือมีมูลค่าสูงโดยแบ๊กล็อกปีนี้ประมาณ 34,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยประกันรายได้และเสริมสร้างเกราะป้องกันให้แก่บริษัทในช่วงขาลงของอุตสาหกรรมภาคเอกชน
ที่ผ่านมาบริษัทมีผลงานที่ได้รับการยอมรับในการประมูลงานและส่งมอบโครงการต่างๆ หลายโครงการ และมีการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงรายได้และปริมาณงานในมือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทยังได้ร่วมมือกับผู้รับเหมาชั้นนำจากประเทศจีนในการประมูลงานก่อสร้างโครงการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวช่วยเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทในการรับงานก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และยังช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการประมูลงานแต่ละโครงการ นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวยังช่วยก่อให้เกิดการถ่ายทอดทางเทคโนโลยีการก่อสร้างของบริษัทอีกด้วย
โดยโครงการที่สำคัญของบริษัท คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) ถือเป็นโครงการรถไฟฟ้าขนาดใหญ่โครงการแรกของบริษัท ส่งผลให้บริษัทประสบความสำเร็จในการประมูลงานก่อสร้างโครงการขนส่งระบบรางมาโดยตลอด รวมถึงโครงการล่าสุดคือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่าราว 13,700 ล้านบาท ถือเป็นโครงการรถไฟฟ้าโครงการแรกที่บริษัทยื่นประมูลเองโดยไม่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรใด ๆ รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าทางคู่ (ลพบุรี-ปากน้ำโพ) จำนวน 2 สัญญาโดยมีมูลค่าสัญญารวมกันทั้งสิ้นประมาณ 18,700 ล้านบาท ที่บริษัทชนะการประมูลอีกด้วย
โดย บล.เคจีไอ วิเคราะห์ว่า UNIQ จะรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังจากการเร่งงานก่อสร้างของโครงการรถไฟฟ้า MRT สายส้มสัญญาที่ 4 และ 6 และจากโครงการรถไฟทางคู่ ลพบุรี-ปากน้ำโพ โดย Backlog ในมือกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท ของบริษัทฯที่มีอยู่ตอนนี้ เพียงพอที่จะรับรู้รายได้ไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า รวมถึงยังมี Upside จากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเปิดประมูล เนื่องจากบริษัทฯ เป็นซัพคอนแทรคเตอร์ที่มีโอกาสสูงที่จะได้รับเหมาช่วงงานต่อ
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับงานหลักคือก่อสร้างโครงสร้าง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อาทิ ทางวิ่งยกระดับ สัญญาที่ 4 ช่วงคลองบ้านม้า-สุวินทวงศ์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) รวมถึงงานอื่นๆ ดังนี้
สำหรับงานใหม่ในปี 2562 นายประสงค์กล่าวว่า สนใจจะเข้าร่วมประมูลงานขนาดใหญ่หลายโครงการ เช่น สายสีม่วงใต้ สีส้มตะวันตก ทางคู่เฟส 2 ทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนตะวันตก ระบบเก็บเงินมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราชและบางใหญ่-กาญจนบุรี ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ท่าเรือมาบตาพุด สนามบินอู่ตะเภา มีทั้งยื่นประมูลเองและร่วมกับพันธมิตรไทยและต่างชาติ ทั้งจีน ญี่ปุ่น ยุโรป โดยตั้งเป้าจะได้งาน 25%
งานนี้ต้องลุ้นงานใหญ่ส่งท้ายรัฐบาล คสช.ไปตุนไว้ในมือมากที่สุด
IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM
