IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 0.98 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 60.13 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันเบนซินออกเทน 95 เพิ่มขึ้น 1.19 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 62.28 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันดีเซล ลดลง 0.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 73.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- ผลการประชุมของกลุ่ม OPEC และ Non OPEC ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ได้ข้อสรุปว่าจะลดปริมาณการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (สมาชิก OPEC ลด 800,000 บาร์เรลต่อวัน และ Non OPEC ลด 400,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน ม.ค. 62) และกำหนดประชุมครั้งต่อไปเดือน เม.ย. 62 เพื่อประเมินสภาวะตลาด
- Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่น (Rig) ขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ธ.ค. 61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 10 แท่น มาอยู่ที่ 877 แท่น ลดลงมากที่สุดตั้งแต่เดือน พ.ค. 59
- Reuters รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของ OPEC ในเดือน พ.ย. 61 อยู่ที่ 33.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากปริมาณการผลิตเดือนก่อน 150,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ธ.ค. 59 ทั้งนี้ OPEC กลับมาลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบตั้งแต่เดือน ม.ค. 60
- กระทรวงพลังงานรัสเซียรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน พ.ย. 61 อยู่ที่ 11.37 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากเดือนก่อน 50,000 บาร์เรลต่อวัน
- Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. 61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 7.3 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 443.2 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- EIA รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. 61 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 129,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 11.48 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่
- กาตาร์ประกาศถอนตัวจากกลุ่ม OPEC ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 62 แม้กำลังการผลิตของกาตาร์อยู่ที่ระดับ 600,000 บาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ 2% เมื่อเทียบกับปริมาณการผลิตของ OPEC ที่ระดับ 32-33 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ส่งผลทางจิตวิทยาถึงอิทธิพลของกลุ่มที่มาจากความร่วมมือตามภารกิจคือการรักษาเสถียรภาพตลาดน้ำมัน
- ICE รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ในตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ธ.ค. 61 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะถือครองสุทธิ (Net Long Position) ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 32,046 สัญญา มาอยู่ที่ 136,466 สัญญา
- CFTC รายงานสถานะการลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดนิวยอร์กและตลาดลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ธ.ค. 61 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับสถานะถือครองสุทธิลดลง จากสัปดาห์ก่อน 25,619 สัญญา มาอยู่ที่ 144,775 สัญญา ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.ย. 59
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันปิดตลาดวานนี้ปรับตัวลดลงกว่า 3% ตามแรงเทขายในตลาดหุ้น Wall Street ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมัน แม้เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 61 OPEC และ Non-OPEC ตกลงร่วมลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปริมาณ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปริมาณการผลิตเดือน ต.ค. 61 เพื่อลดภาวะอุปทานล้นตลาด อย่างไรก็ดีนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันประกอบไปด้วยหลากหลายความเสี่ยง โดยเฉพาะประเด็น Brexit ซึ่งนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร นาง Theresa May ประกาศเลื่อนการลงมติในรัฐสภาอังกฤษต่อร่างข้อตกลงแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากความวิตกว่าการลงมติในตอนนี้อาจไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภากอปรกับประเด็นสงครามการค้าที่แม้จีนกับสหรัฐฯ จะมีแนวโน้มประนีประนอมกันได้ แต่ล่าสุดสถานการณ์ความขัดแย้งมีแนวโน้มลุกลามจากกรณีการควบคุมตัวประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย ที่ทางการแคนาดาทำตามคำขอของสหรัฐฯ นอกจากนั้นให้จับตาปัญหาความไม่สงบภายในประเทศลิเบีย ล่าสุด (10 ธ.ค. 61) National Oil Corp. (NOC) ของลิเบีย ประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) ยกเลิกการส่งน้ำมันจากแหล่งผลิต El Sharara (กำลังการผลิต 315,000 บาร์เรลต่อวัน) เนื่องจากกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่บุกยึดแหล่งผลิตน้ำมัน ทั้งนี้ส่งผลให้แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Feel (กำลังการผลิต 73,000 บาร์เรลต่อวัน) ได้รับผลกระทบต้องหยุดการผลิตด้วย โดย NOC เผยว่าจะไม่มีการเจรจา และไม่มีการจ่ายเงินให้ผู้บุกรุกและยึดแหล่งผลิตน้ำมันดิบ หากข้อเสนอสุดท้ายในการเจรจาต่อรองโบนัสถูกปฏิเสธ ด้านเทคนิคสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 58.0-63.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ NYMEX WTI อยู่ในกรอบ 50.0-55.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 58.5-63.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นจากกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซิน เดือน ต.ค.61 ลดลงจากเดือนก่อน 10.7% และลดลงจากปีก่อน 7.5% อยู่ที่ 800,000 บาร์เรลต่อวัน และ International Enterprise Singapore (IES)รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. 61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 500,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 13.88 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม JBC Energy รายงานอัตราการกลั่นของโรงกลั่นจีน เดือน ธ.ค.61 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 700,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 12.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพราะทางการเพิ่มโควตาส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป ขณะที่ EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันเบนซิน เชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. 61 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1.7 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 226.3 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ทางด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 60.5-65.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยรายสัปดาห์ลดลงจาก Platts รายงานอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคมีปริมาณมาก และมีแรงขายจาก อาทิ บริษัท Formosa ของไต้หวัน ส่งออกน้ำมันดีเซล 0.001% S ปริมาณ 750,000 บาร์เรล ส่งมอบวันที่ 20-24 ม.ค. 62 ด้านปริมาณสำรอง EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซล เชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. 61 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 3.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 125.6 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 1 เดือน อย่างไรก็ตาม METI ของญี่ปุ่นรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซล เดือน ต.ค.61 ลดลงจากเดือนก่อน 20.7% และลดลงจากปีก่อน 8.5% อยู่ที่ 595,000 บาร์เรลต่อวัน ประกอบกับ Reuters คาดการณ์ Arbitrage Diesel จากภูมิภาคตะวันออกกลาง และเอเชีย ไปยังยุโรป ในเดือน ธ.ค. 61 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 15 ล้านบาร์เรล อีกทั้ง IES รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ธ.ค. 61 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 150,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 10.62 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 71.5-76.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล