IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของโลกยานยนต์ด้วย ไทคานน์ (Taycan) ยนตกรรมสปอร์ตไฟฟ้าคันแรก ผู้กำหนด บรรทัดฐานใหม่ให้แก่งานออกแบบภายในห้องโดยสาร รูปแบบสุดคลาสสิกที่ได้รับการนิยามขึ้นใหม่และถูกนำมาประยุกต์ ใช้ร่วมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลแห่งอนาคต " น้อยแต่มาก (Less is more) คือสิ่งที่เรานำมาใช้กับรถคันนี้" ข้างต้นคือคำอธิบายจาก Ivo van Hulten ผู้อำนวยการแผนก Interior Design Style Porsche ของ Porsche AG "ภายในห้องโดยสารของปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) คือผลงานการออกแบบที่ผสมผสานหลักปรัชญาดั้งเดิมของแบรนด์ เข้ากับทิศทางการออกแบบยุคใหม่ที่คำนึงถึงประสบการณ์การใช้งานของผู้ขับขี่ พร้อมกับสร้างความประทับใจ เพียงแรกสัมผัสด้วยความเรียบหรูงามสง่า" ปอร์เช่มีกำหนดการเปิดตัว ไทคานน์ (Taycan) สาธารณชนทั่วทุก มุมโลกอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในช่วงเดือน กันยายน 2019
รถสปอร์ตปอร์เช่พันธุ์แท้: แผงหน้าปัทม์และตำแหน่งที่นั่ง ออกแบบเพื่อผู้ขับขี่โดยเฉพาะ
สไตล์การออกแบบเรียบหรู ปลอดโปร่งของชุดแผงหน้าปัทม์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตระดับตำนานอย่างปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ตั้งแต่รุ่นปี 1963 เป้าหมายอันชัดเจนคือการนำแนวทางดังกล่าวมาใช้ในโลกยุคปัจจุบัน พื้นที่บริเวณตำแหน่งผู้ขับขี่ คือสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่ ด้วยการวางโครงสร้างที่ปลอดโปร่ง ให้บรรยากาศรายล้อมที่ล้ำสมัย และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกให้มากที่สุด คำนึงถึงการใช้งานของผู้ขับขี่ที่สามารถ เข้าถึงการบังคับควบคุมฟังก์ชันต่างๆ อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ปราศจากสิ่งรบกวนอื่นๆ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ แผงหน้าปัทม์รูปทรงโค้งมนลอยตัว อิสระ วางตัวในตำแหน่งสูงสุดของคอนโซลหน้า ถ่ายทอดข้อมูลไปยังผู้ขับขี่อย่างชัดเจน มั่นใจได้ว่าทุกสิ่งที่จำเป็น และต้องใช้ในระหว่างการขับขี่จะพร้อมรองรับและเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วตลอดเวลาในระยะสายตา
สไตล์การออกแบบเรียบหรู ปลอดโปร่งของชุดแผงหน้าปัทม์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตระดับตำนานอย่างปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ตั้งแต่รุ่นปี 1963 เป้าหมายอันชัดเจนคือการนำแนวทางดังกล่าวมาใช้ในโลกยุคปัจจุบัน พื้นที่บริเวณตำแหน่งผู้ขับขี่ คือสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นเข้าสู่ยุคใหม่ ด้วยการวางโครงสร้างที่ปลอดโปร่ง ให้บรรยากาศรายล้อมที่ล้ำสมัย และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกให้มากที่สุด คำนึงถึงการใช้งานของผู้ขับขี่ที่สามารถ เข้าถึงการบังคับควบคุมฟังก์ชันต่างๆ อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ปราศจากสิ่งรบกวนอื่นๆ ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ แผงหน้าปัทม์รูปทรงโค้งมนลอยตัว อิสระ วางตัวในตำแหน่งสูงสุดของคอนโซลหน้า ถ่ายทอดข้อมูลไปยังผู้ขับขี่อย่างชัดเจน มั่นใจได้ว่าทุกสิ่งที่จำเป็น และต้องใช้ในระหว่างการขับขี่จะพร้อมรองรับและเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วตลอดเวลาในระยะสายตา
แผงหน้าปัทม์ที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมล้ำยุคประกอบด้วย หน้าจอแสดงผลแนวโค้งขนาดใหญ่ 16.8 นิ้ว พร้อมฉายภาพ กรอบทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ของยนตรกรรมสปอร์ตปอร์เช่ ชิ้นส่วนที่ครอบบนแผงหน้าปัทม์ถูกนำออกไปเพื่อให้มั่นใจ ว่า แผงหน้าปัทม์จะมีความเรียวบางและให้มุมมองที่ทันสมัยเฉกเช่นเดียวกันกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตคุณภาพสูง ตกแต่งด้วยวัสดุกระจกโพลาไรซ์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดแสงสะท้อนที่ดีเยี่ยม
ผู้ขับขี่สามารถเลือกลักษณะการแสดงผลบนแผงหน้าปัทม์ได้ถึง 4 รูปแบบ::
- Classic mode (อุปกรณ์แสดงค่าพารามิเตอร์และปริมาณพลังงานไฟฟ้า) เน้นการแสดงผลข้อมูลในกรอบทรงกลมสไตล์คลาสสิกของปอร์เช่รูปแบบหน้า จอลักษณะนี้สามารถถ่ายทอดข้อมูลการขับขี่ได้อย่าง ชัดเจนและเป็นระเบียบ อ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็วโดย หน้าจอ แสดงค่าพารามิเตอร์ และปริมาณ พลังงานไฟฟ้า จะแสดงแทนที่มาตรวัดรอบดั้งเดิมในตำแหน่งศูนย์กลางของแผงหน้าปัทม์
- Map mode แสดงข้อมูลแผนที่การเดินทางแทนมาตรวัด แสดงค่าพารามิเตอร์และปริมาณพลังงานไฟฟ้า
- Full Map mode แสดงข้อมูลระบบนำทางผ่านดาวเทียมอย่างเต็มรูปแบบบนแผงหน้าปัทม์ โดยตัดการฉาย ภาพกรอบทรงกลมออกทั้งหมด.
- Pure mode แสดงผลเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต่อการขับขี่ อาทิ ความเร็ว สัญญาณจราจร และแผนที่นำทาง ระบบผ่านดาวเทียมที่ลดขนาดการแสดงผลเหลือเพียงลูกศรชี้ทิศทาง
สำหรับชุดปุ่มควบคุมระบบสัมผัสขนาดกะทัดรัด ติดตั้งบริเวณมุมด้านข้างของหน้าจอ มีหน้าที่สั่งการทำงานของฟังก์ชัน ระบบแสงสว่าง และระบบช่วงล่าง นอกจากนี้ในส่วนของรูปทรงแผงหน้าปัทม์จะมีความกว้างที่มากกว่าขอบวงพวงมาลัย ซึ่งเป็นไปในรูปแบบเดียวกันกับยนตรกรรมสปอร์ตสุดคลาสสิกปอร์เช่ 911 (Porsche 911)
พวงมาลัยให้ภาพลักษณ์และสัมผัสที่เรียวบาง สามารถเลือกติดตั้งได้ถึง 2 รูปแบบ นอกเหนือจากเวอร์ชันมาตรฐาน ยังสามารถเลือกเฉดสีตกแต่งบนวงพวงมาลัยได้ตามต้องการ โดยรวมอยู่ในชุดตกแต่งเฉพาะรุ่น ปอร์เช่ยังคงเพิ่ม ทางเลือกสุดพิเศษด้วยพวงมาลัย GT sports เป็นอุปกรณ์ติดตั้งเพิ่มเติม มีรูปแบบแตกต่างด้วยการโชว์จุดยึดคอพวงมาลัย พร้อมชุดสวิทช์ทรงกลมสำหรับเลือกรูปแบบการขับขี่ในโหมดต่างๆ
แผงคอนโซลด้านบนและด้านล่างวางตัวตามแนวยาวตลอดความกว้างตัวถัง โดยมีรูปทรงคล้ายปีกที่โอบล้อมผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร หน้าจอระบบเครื่องเสียงและความบันเทิง infotainment ขนาด 10.9 นิ้ว และหน้าจอแสดงผล สำหรับผู้โดยสารตอนหน้าอันเป็นอุปกรณ์พิเศษ ติดตั้งต่อเนื่องครอบคลุมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันด้วยแผ่น กระจกที่ให้สัมผัสสไตล์ black-panel สร้างความกลมกลืนลงตัวกับงานตกแต่งภายในห้องโดยสาร
ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้งาน ทั้งหมดได้รับการออกแบบใหม่ สำหรับปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) โดยเฉพาะ ระบบควบคุมการทำงานแบบ กลไกดั้งเดิม อาทิ สวิทช์ และปุ่มกดต่างๆ ได้รับการลดจำนวนลงอย่างมาก โดยถูกแทนที่ด้วย ระบบควบคุมอัจฉริยะ ผ่านการสัมผัส หรือการสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งพร้อมตอบสนองต่อคำสั่งเริ่มต้น "Hey Porsche"
วิธีการตั้งค่าฟังก์ชันต่างๆ ของปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) อาทิ ระบบ Porsche Active Stability Management (PASM) ผู้ขับขี่สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านเมนูหลักที่เข้าถึงได้โดยตรงบนหน้าจอคอนโซลกลาง ใช้งานแอปพลิเคชันทั้งหมดได้ อย่างรวดเร็วด้วยการวางผังโครงสร้างระบบที่ชัดเจน และสามารถปรับแต่งหน้าจอหลักหรือ home screen ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน ระบบนำทางผ่านดาวเทียม navigation ระบบโทรศัพท์ ระบบความบันเทิง ความสะดวกสบาย ภายในห้องโดยสาร รวมทั้งระบบติดต่อสื่อสาร Porsche Connect พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียง ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึง ฟังก์ชันที่ต้องการได้รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น และนับเป็นครั้งแรกของปอร์เช่ด้วยอุปกรณ์พิเศษ หน้าจอสัมผัสสำหรับ ผู้โดยสารตำแหน่งข้างคนขับใน ไทคานน์ (Taycan) ที่สามารถปรับแต่ง ฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่รบกวนผู้ขับขี่ แต่อย่างใด
คอนโซลกลางที่วางตำแหน่งสูงขึ้นช่วยเสริมให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถในขณะนั่งอยู่บนเบาะที่วางตำแหน่ง ใกล้พื้นตัวถังมากขึ้น นี่คือสิ่งที่ผู้ขับขี่จะได้รับเมื่อประจำการอยู่หลังพวงมาลัยยนตรกรรมปอร์เช่ เสริมความสะดวกสบาย ด้วยหน้าจอสั่งการระบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 8.4 นิ้ว ที่มีอัตราการตอบสนองฉับไว ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถตั้งค่า การทำงานของระบบปรับอากาศได้โดยตรง รวมทั้งระบบจดจำลายมือ ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เริ่มต้นใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
รายละเอียดทุกองค์ประกอบล้วนผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพื่อปรับลดความซ้ำซ้อนและสิ่งที่เกินจำ เป็นออกไปให้มากที่สุด เช่นเดียวกันกับรถแข่งปอร์เช่ 918 (Porsche 918) ไทคานน์ (Taycan) ได้รับการติดตั้งสวิทช์ไฟ เลี้ยวที่รวมไว้ ภายในชุดแผงหน้าปัทม์ แทนที่สวิทช์แบบก้านกลไกในรูปแบบดั้งเดิม ผลลัพธ์ที่ได้คือแผงคอนโซลกลาง ที่ดูปลอดโปร่งสะอาดตา และเพิ่มพื้นที่ใช้ประโยชน์ภายในห้องโดยสาร แนวคิดการปรับลดอุปกรณ์ดังกล่าวยังครอบคลุม ไปถึงการออกแบบ ช่องลมระบบปรับอากาศ ซึ่งมีรูปทรงที่สวยงามล้ำสมัย และทำหน้าที่กระจายแรงลมได้อย่างไร้ที่ติ ทิ้งช่องลมแบบกลไก เอาไว้ในอดีต พร้อมสัมผัสการทำงานที่ควบคุมได้ทั้งในรูปแบบดิจิทัล และการทำงานอัตโนมัติ สมบูรณ์แบบ ("Virtual Airflow Control") เพียงเรียกใช้งาน Climate menu จะสามารถสลับการทำงานระหว่าง "Focused" เพื่อเน้นประสิทธิ ภาพในการเพิ่มความเย็นสูงสุด หรือ "Diffused" สำหรับการปล่อยให้ระบบปรับอากาศจัดการทำงาน ด้วยตัวเอง ในกรณีที่ติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ระบบปรับอากาศ 4 จุดแบบอัตโนมัติ ("Advanced Climate Control") หน้าจอควบคุมระบบสัมผัสขนาด 5.9 นิ้ว จะได้รับการติดตั้งเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้โดยสารตอนหลังควบคุมอุณหภูมิ ได้ตามต้องการ
อุปกรณ์พิเศษพร้อมรองรับทุกความต้องการ คัดสรรวัสดุตกแต่งระดับนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัย
สำหรับปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ไม่ว่าจะเป็นเฉดสี หรือแม้แต่งานดีไซน์วัสดุตกแต่ง ได้รับการคัดเลือกเพื่อสนองตอบ ทุกความต้องการเฉพาะตัวโดยไร้ขีดจำกัด เข้าถึงทุกสไตล์การตกแต่งตั้งแต่ เรียบหรู อนุรักษ์นิยม ร่วมสมัย จนถึงโมเดิร์น อุปกรณ์พิเศษที่ครอบคลุมทุกระดับ ทั้งวัสดุหนังแท้สุดคลาสสิก หรือวัสดุหนังสีแทน "OLEA" ซึ่งใช้ใบมะกอกเพิ่มเติมเข้ามา เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟอกหนัง คุณภาพระดับสูงของหนังแท้ ถูกขับเน้นให้โดดเด่นสวยงามยิ่งขึ้นไปอีกขั้น จากขั้นตอนการตัดเย็บและย้อมสีที่พิเศษสุด ตื่นตาตื่นใจไปกับสัมผัสแห่ง ความแตกต่างจากงานตกแต่งภายใน ห้องโดยสารระดับศาสตร์แห่งศิลป์ ด้วยพื้นผิวของวัสดุที่มีชื่อว่า "Race-Tex" ซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากเส้นใย microfibre คุณภาพสูงผสมผสานกับเส้นใย polyester fibres ที่ให้ความแข็งแรงคงทน นอกจากนี้ยังสามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการผลิตลงได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ พรมปูพื้นผลิตด้วยวัสดุ recycled fibre "Econyl(R)" ซึ่งได้จากการรีไซเคิลตาข่ายดักปลาที่ใช้ในอุตสาหกรรมการประมง
ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) มาพร้อมความเหนือระดับในการตกแต่งทั้งภายในห้องโดยสารและตัวถังภายนอก ที่มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะสไตล์คลาสสิกหรือล้ำยุค ชิ้นงานตกแต่งภายในที่ได้รับการคัดสรรอย่างใส่ใจ ทุกรายละเอียด ถึงพร้อมด้วยคุณภาพของวัสดุอันดับหนึ่ง รักษาเอกลักษณ์ในเชิงบรรทัดฐานด้านการเลือกใช้วัสดุ ทรงคุณค่า ผสานกับช่างฝีมือฝีมือระดับปรมาจารย์ ซึ่งเป็นหลักปรัชญาที่สืบทอดกันมายาวนานของปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) เฉดสีภายในห้องโดยสารทั้ง Black-Lime Beige, Blackberry, Atacama Beige และ Meranti Brown เป็นเฉดสีเฉพาะที่สามารถพบเห็นได้ในปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) เท่านั้น ชุดตกแต่งภายใน interior accent package ยังเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ เลือกโทนสีภายในที่แตกต่างเพิ่มเติมได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น black matt, dark silver, neodyme หรือ โทนสี elegant champagne แผงประตูและคอนโซลกลางสามารถเลือกประดับชิ้นงานลายไม้แท้ wood trim, matt carbon, embossed aluminium หรือ fabric ได้ตามความต้องการ
นอกเหนือจากนวัตกรรมทันสมัยมากมายข้างต้น ปอร์เช่ไม่เคยละเลยรายละเอียดอื่นใดที่ต้องรักษา เอาไว้ในฐานะยนตรกรรมสปอร์ตสมรรถนะสูง ความยอดเยี่ยมเหนือระดับทุกสิ่งทุกอย่างจะยังคงเดิมเฉกเช่นรถสปอร์ต จากปอร์เช่ทุกคัน ทั้งหมดนี้กำลังรอคอยให้คุณได้สัมผัส เพียงกดสวิทช์ปลดปล่อยพลังที่ติดตั้งอยู่ด้านขวาของพวงมาลัย
เกี่ยวกับ AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR" เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า "AAS The Name you can Trust" ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี