Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

Create an account

Fields marked with an asterisk (*) are required.
Name *
Username *
Password *
Verify password *
Email *
Verify email *
Captcha *
Reload Captcha
Car

MG ชูยอดขายครึ่งปีแรกโต 32% พร้อมเปิดตัว ALL NEW MG5 รุกตลาดครึ่งปีหลัง

SAIC Motor-CP และ MG ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกยอดขายรวม 14,403 คัน เติบโต 32% พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจครึ่งปีหลังตามที่ตั้งเป้าไว้ ประเดิมเปิดตัว ALL NEW MG5 ผ่านทางออนไลน์ด้วยเทคโนโลยี XR สุดล้ำ

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมา MG มียอดขายรวมอยู่ที่ 14,403 คัน ซึ่งยังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และยังเป็นหนึ่งในผู้นำของกลุ่มรถยนต์ประเภท B-SUV และ C-SUV โดยแนวทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะมีการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เริ่มด้วยการแนะนำ ALL NEW MG5 เจาะตลาดรถยนต์ในกลุ่ม B-segment โดยการเปิดตัว ALL NEW MG5  จะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ด้วยการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงในรูปแบบผสมผสาน หรือ Extended Reality (XR)  ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีเสมือนจริงขั้นสูงสุดในปัจจุบัน ที่ผสานการทำงานของทั้งระบบ VR (Virtual Reality) AR (Augmented Reality) และ MR (Mixed Reality) เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดสภาพแวดล้อม มุมมองและมิติ ที่เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น

ความสำเร็จทางด้านยอดขายในครึ่งปีแรกนี้ สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์รถยนต์เอ็มจีเพิ่มมากขึ้น

“เรามุ่งหวังว่า แนวทางการดำเนินงานและแผนธุรกิจที่เน้นทั้งการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการต่อยอดแผนงานต่างๆ ให้มีความครอบคลุม จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้บริโภคและสังคมไทย จะเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้เอ็มจีบรรลุเป้าหมายและสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปพร้อมกัน”

ในส่วนของแผนงานขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ณ ปัจจุบัน เอ็มจีมีจำนวนโชว์รูม และศูนย์บริการอยู่ที่ 151 แห่ง และจะทยอยเปิดให้บริการครบ 170 แห่งภายในปีนี้ นอกจากนี้เอ็มจียังได้นำเสนอบริการรูปแบบใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้าได้กว้างและครอบคลุมมากขึ้น โดยได้เปิดบริการแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน กับ MG Online Booking ซึ่งเป็นช่องทางการขายออนไลน์ ภายใต้แนวคิด “Smart Showroom” โดยประเดิมด้วยการเปิดจอง MG HS รุ่น D ในราคาเพียง 990,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษอีกมากมาย

นอกจากนี้ในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการสร้าง และยกระดับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ในประเทศให้มีความแข็งแกร่งเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยในครึ่งปีที่ผ่านมา MG ได้เดินหน้าบูรณาการความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อกำหนดมาตรฐานของสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า และการสนับสนุนความร่วมมือระหว่าง PEA และ  "บางจาก" ในการเปิดบริการเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า PEA VOLTA และล่าสุดได้ร่วมมือกับ "บางจาก" เพิ่อเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า “MG Super Charge” ในปั้มน้ำมันบางจาก 50 แห่ง ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงการร่วมมือกับ ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป เพื่อให้บริการในเขตพื้นที่อุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

สำหรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในระลอกแรกที่ผ่านมา ซึ่งประเทศไทยต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนหน้ากากอนามัย ที่จะใช้ภายในประเทศนั้น MG ได้ประสานการสนับสนุนจาก บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ MG ในประเทศจีน ในการจัดหาหน้ากากอนามัยจำนวนกว่า 400,000 ชิ้น มาส่งมอบให้แก่ “กระทรวงมหาดไทย” จำนวน 300,000 ชิ้น เพื่อกระจายต่อไปให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ และมอบให้กับมูลนิธิร่วมกตัญญู จำนวน 100,000 ชิ้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ในระดับชุมชนครอบคลุมทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล สำหรับการระบาดในรอบล่าสุด MG ได้สนับสนุนการทำงานของ “กระทรวงสาธารณสุข” ด้วยการจัดหาอุปกรณ์ และของใช้จำเป็น อาทิ ชุด PPE อุปกรณ์ Face Shield เทอร์โมมิเตอร์ น้ำยาฆ่าเชื้อ หน้ากากผ้า เจลล้างมือ รวมทั้งน้ำดื่มเพื่อร่วมสนับสนุนภารกิจของโรงพยาบาล และบุคลากรทางแพทย์ ซึ่งเป็นด่านหน้าในการรับมือการแพร่ระบาดในครั้งนี้

โดยจัดกิจกรรมช่วยเหลือสังคมภายใต้โครงการ Together For Better Thailand เอ็มจีได้จับมือกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อให้ความช่วยเหลือและเป็นพลังใจให้คนไทยสามารถก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น การจัดหาอุปกรณ์และของใช้จำเป็นทั้งชุด PPE อุปกรณ์ Face shield เทอร์โมมิเตอร์ น้ำยาฆ่าเชื้อ หน้ากากผ้า เจลล้างมือ รวมทั้งน้ำดื่ม เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ โดยส่งมอบผ่านกระทรวงสาธารณสุข และสนับสนุนรถยนต์เอ็มจี เพื่อเป็นพาหนะในโครงการ ALL FOR HEROES ของกลุ่มเซ็นทรัล โดยทำหน้าที่รับและส่งสิ่งของจำเป็นต่างๆ กระจายไปยังโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม อีกทั้งยังได้ส่งมอบหน้ากากอนามัย ให้กับมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ในการลงพื้นที่ปฏิบัติงานอีกด้วย

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย มีโรงงานผลิต บนเนื้อที่ 437.5 ไร่ ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด 2 จังหวัดชลบุรี) มีกำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี โรงงานแห่งใหม่นี้ได้นำนวัตกรรมระบบอัตโนมัติ (Automations) และหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Intelligent Robotics) เข้ามาช่วยเสริมสมรรถนะการผลิต พร้อมมุ่งสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจีพวงมาลัยขวาระดับโลกสำหรับจำหน่ายทั้งในไทย และในภูมิภาค ตลอดจนส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถ (Solar Carpark) ขนาดกำลังผลิต 4.88 เมกกะวัตต์ บนหลังคาลานจอดรถ 31,000 ตารางเมตร เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามนโยบายลดโลกร้อนจากภาวะเรือนกระจก ในโรงงานผลิตรถยนต์ MG ซึ่งเป็นโครงการ Solar Carpark ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย



รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc
เพิ่มเพื่อน

Rate this item
(1 Vote)
Last modified on Thursday, 12 August 2021 07:20
พงษ์ธีระ เจียรสกุล

Author : เกาะติดข่าวสารความเคลื่อนไหวในแวดวงยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็น บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ อะไหล่ ยาง การประกันภัย มอเตอร์โชว์ นวัตกรรมยานยนต์ และทิศทางในอนาคตของวงการยานยนต์

Latest from พงษ์ธีระ เจียรสกุล

Related items

Leave a comment

Make sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.


  
X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM