IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
รถครอสโอเวอร์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสมจะไม่เพียงมอบอรรถประโยชน์เหมือนรถยนต์นั่งทั่วไป แต่ยังตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากกว่า ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงกิจวัตรประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ปัจจุบันมีรถครอสโอเวอร์หลายรุ่นจัดจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด แต่คำถามคือรุ่นใดที่เหมาะสมกับผู้ซื้อมากที่สุด บทความนี้ขอแนะนำ 8 ข้อที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อรถครอสโอเวอร์
1. การออกแบบ
ดีไซน์เป็นคุณสมบัติที่ขึ้นอยู่กับรสนิยมเฉพาะของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม มีหลักเกณฑ์บางข้อที่ผู้ซื้อรถควรพิจารณา รถครอสโอเวอร์ที่ดีต้องไม่เพียงแค่มีมิติตัวถังที่ใหญ่ แข็งแกร่งและบึกบึน อันเป็นจุดเด่นของรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี ทั้งนี้ รถครอสโอเวอร์ที่ดีไม่ใช่เพียงการนำรถซีดานมายกสูง หากต้องเป็นรถที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดที่ผนวกความอเนกประสงค์ ความกว้างขวาง การรองรับใช้งาน สมรรถนะและความพิถีพิถันไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบจนเกิดเป็นเซ็กเมนต์ใหม่ของรถครอสโอเวอร์
แนวทางการออกแบบในปัจจุบันมุ่งเน้น "ดีไซน์ที่สอดคล้องกับการใช้งาน" (Form follows function) ผสานความปลอดภัย สมรรถนะและสุนทรียภาพในการขับขี่ ตัวอย่างเช่นการติดตั้งไฟหรี่และไฟเลี้ยวไว้ตำแหน่งเดียวกับฝากระโปรงหน้า เพื่อให้คนเดินถนนและผู้ร่วมใช้เส้นทางสังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันไฟหน้าก็อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าไฟหน้าในรถยนต์โดยทั่วไป เพื่อไม่ให้แสงไฟที่สว่างไปรบกวนสายตาผู้ขับขี่และคนเดินถนน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มทัศนวิสัยที่ดียิ่งขึ้นในยามค่ำคืน เอกลักษณ์การออกแบบดังกล่าวนี้ไม่เพียงแต่สร้างความโดดเด่นล้ำสมัย แต่ยังมอบการปกป้องให้ทั้งผู้ที่อยู่ในตัวรถและผู้ร่วมใช้เส้นทางอีกด้วย
2. พื้นที่ใช้สอย
รถครอสโอเวอร์ที่ดีต้องให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสาร ผู้ซื้อควรมองหารถครอสโอเวอร์ที่มีความแข็งแกร่งและได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาด เพื่อมอบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเหนือระดับ ทั้งมิติความกว้างและความสูงเพิ่มความโอ่โถงปลอดโปร่ง โดยการออกแบบภายในที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาและหัวไหล่ให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน โดยมิติภายในของรถครอสโอเวอร์ที่ดีจะต้องกว้างขวางและพร้อมสำหรับทุกการใช้งาน
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาคือพื้นที่เหนือศีรษะที่ต้องกว้างเพียงพอเพื่อสะดวกต่อการเข้าและออกจากเบาะที่นั่งแถวที่สาม
3. ความสะดวกสบายในห้องโดยสาร
ความสะดวกสบายในห้องโดยสารเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่รถครอสโอเวอร์ที่ดีควรมี ถึงแม้รถครอสโอเวอร์จะเป็นที่ชื่นชอบด้วยตำแหน่งเบาะที่นั่งของรถครอสโอเวอร์ที่สูงกว่าและตัวถังมีระยะความสูงจากพื้นสูงกว่ารถยนต์ประเภทอื่นแล้ว แต่ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่พร้อมตอบสนองทุกการใช้งานรอบด้านก็เป็นอีกข้อสำคัญที่ควรพิจารณา
มองหาห้องโดยสารที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดหรือ 'โอโมเตะนาชิ (Omotenashi)' ซึ่งหมายถึงการมอบสัมผัสอันประณีต พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ภายในห้องโดยสารมีความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมรองรับทุกความต้องการของทุกคนในรถ เพราะความรื่มรมย์และเพลิดเพลินระหว่างการเดินทางมีความสำคัญ ห้องโดยสารควรรองรับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ ครบครันด้วยช่องเก็บสัมภาระต่างๆ ได้อย่างหลากหลายและช่องชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้า ควรเลือกรถครอสโอเวอร์ที่ติดตั้งจุดจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างทั่วถึงทุกแถวที่นั่งขณะที่ความเงียบภายในห้องโดยสารและการเก็บเสียงที่ดีก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน
4. ทัศนวิสัยที่ดี
ห้องโดยสารรถครอสโอเวอร์ที่ดีต้องมอบทัศนวิสัยที่ชัดเจนและมีมุมอับสายตาน้อยที่สุด นอกจากนี้ผู้ขับขี่ควรพิจารณาห้องโดยสารที่ได้รับออกแบบในลักษณะ 'Horizontal Axis' ที่จัดเรียงแผงควบคุมในรูปแบบเส้นตรงแนวราบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงอารมณ์ขับเคลื่อนของตัวรถ พร้อมช่วยเพิ่มทัศนวิสัยด้านหน้า ช่วยลดการรบกวนผู้ขับขี่ ทั้งนี้เบาะที่นั่งของผู้ขับขี่ที่ปรับได้ในทุกองศา (การเลื่อนที่นั่งเข้าออก ระดับการปรับเอนพนักพิง และความสูง) และพวงมาลัยที่ปรับได้หลายทิศทาง (ดึงเข้าออกและสูงต่ำ) จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะทางไกล ห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบให้กว้างขวางและโปร่งโล่งจะช่วยลดความเครียดและอาการเมื่อยล้าของผู้ขับขี่อีกด้วย
5. การใช้งานที่หลากหลาย
รถครอสโอเวอร์ต้องสามารถตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมผ่านทุกอุปสรรคไปบนเส้นทางต่างๆ ได้แบบรถอเนกประสงค์เอสยูวีผสานความสะดวกสบายและความหรูหราแบบรถยนต์นั่ง รถครอสโอเวอร์กลุ่มใหม่นี้โดดเด่นด้วยพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่กว้างขวางจึงสามารถรองรับการบรรทุกเคลื่อนย้ายสิ่งของสัมภาระที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากสมรรถนะที่แข็งแกร่งและความหรูหรา
พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ครบครันด้วยช่องจัดเก็บสิ่งของสัมภาระต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย ตลอดจนการติดตั้งจุดจ่ายกระแสไฟฟ้าอย่างทั่วถึงทุกแถวที่นั่งภายในห้องโดยสารก็มีความสำคัญเช่นกัน นอกจากพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ (ที่สามารถบรรทุกถังน้ำได้ 4 แกลลอน) เพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ เบาะที่นั่งแถวที่สองควรพับได้แบบแยกส่วน 40:20:40 และแบบ 50:50 สำหรับแถวที่สาม ทั้งนี้เมื่อพับเบาะแถวที่สองและสามลงแล้ว พื้นที่ภายในควรราบไร้ช่องว่างหรือสะดุดเป็นขอบนูน
6. สมรรถนะการควบคุม
ถึงแม้รถครอสโอเวอร์จะไม่ได้ถูกพัฒนามาเพื่อแข่งความเร็วสูง แต่การพิจารณาถึงสมรรถนะการขับขี่และการควบคุมที่เป็นเลิศก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ดีและปลอดภัย การควบคุมรถควรทำได้อย่างแม่นยำในทุกสภาพถนน ทั้งเส้นทางขรุขระ ถนนคดเคี้ยว ถนนหลวงทางไกล และการจราจรในเมือง รัศมีวงเลี้ยวที่แคบจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและการจราจรที่หนาแน่น ทั้งนี้ รถครอสโอเวอร์ที่มีฟีเจอร์ดีๆ อย่างครูสคอนโทรลจะสามารถช่วยลดอาการเหนื่อยล้าในการขับรถระยะทางไกลบริษัทรถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานด้านการพัฒนารถอเนกประสงค์ประเภทเอสยูวีและรถแข่งแรลลี่จะมีข้อได้เปรียบในการปรับแต่งสมรรถนะและการควบคุมของรถครอสโอเวอร์ให้มีความเหนือชั้นและปราดเปรียวมากกว่า เพื่อสร้างการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจ
7. ความอเนกประสงค์
คุณสมบัติข้อนี้มีความสำคัญมาก รถครอสโอเวอร์ที่ดีควรมีระยะความสูงจากพื้นถนนอย่างน้อย 200 มม. ขึ้นไป เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่าจะขับฝ่าเส้นทางน้ำท่วมขังได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งความสูงจากพื้นถนนที่เหมาะสมจะช่วยให้รถครอสโอเวอร์โลดแล่นผ่านพื้นผิวถนนที่ขรุขระได้โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อใต้ท้องรถ ลองสังเกตตำแหน่งของท่อไอดีซึ่งควรติดตั้งในระดับสูงกว่ารถทั่วไปเพื่อให้สามารถการขับผ่านน้ำท่วมขังได้อย่างมั่นใจ สำหรับการออกแบบภายใน นอกจากจะสามารถปรับพับที่นั่งให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารเป็นพื้นราบได้แล้ว เบาะที่นั่งควรปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย
ทั้งนี้รถครอสโอเวอร์ที่ดีต้องตอบสนองการใช้งานได้ทั้งการเดินทางไกล การใช้งานในเมือง รวมถึงสามารถพาผู้ขับขี่ฝ่าอุปสรรคไปบนเส้นทางใหม่ๆ เพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมมอบความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเพียงพอต่อการบรรทุกสัมภาระหรือสำหรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง
8. ความปลอดภัย
รถครอสโอเวอร์ยุคใหม่เหมาะทั้งสำหรับการใช้งานแบบครอบครัวหรือเพื่อนฝูง ความปลอดภัยมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยทั้งในเชิงป้องกันและปกป้อง ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL-Traction Control System) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA-Hill Start Assist System) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS-Anti Lock Braking System) และระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD-Electronic Brake Force Distribution) พร้อมระบบเสริมแรงเบรก (BA-Brake Assist) ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS-Emergency Stop Signal System) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและระบบผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และเข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุด 3 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง กล้องมองภาพด้านหลังยังช่วยอำนวยความสะดวกขณะถอยหลัง รวมถึงจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX ที่จะช่วยปกป้องผู้โดยสารตัวน้อยในทุกการเดินทาง
อีกปัจจัยสำคัญสำหรับการปกป้องความปลอดภัยคือโครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อกที่ประสานตัวถังและแชสซีส์เข้าไว้ด้วยกันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการปกป้องผู้โดยสารและยังสามารถดูดซับแรงกระแทก (Reinforced Impact Safety Evolution หรือ RISE) เพื่อช่วยรักษาสภาพห้องโดยสารและปกป้องทุกชีวิตเมื่อเกิดการปะทะ
รถครอสโอเวอร์ที่ดีต้องมอบความปลอดภัยให้กับคนที่เรารักและทรัพย์สินที่มีค่าเมื่อเดินทางไปกับรถคันดังกล่าว
เมื่อทราบคุณสมบัติของรถครอสโอเวอร์ที่ดีทั้ง 8 ข้อนี้แล้ว ผู้ซื้อสามารถนำไปประกอบการพิจารณาและตัดสินใจเลือกซื้อรถครอสโอเวอร์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของตนเอง ลองพิจารณา มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยได้ถ่ายทอดความแข็งแกร่งและแรงบันดาลใจอันสร้างสรรค์ ผสานสมรรถนะอันแข็งแกร่งแบบรถครอสโอเวอร์เข้าไว้กับความอเนกประสงค์ในการใช้งานที่หลากหลายเพื่อสร้างโอกาสที่มากขึ้นให้คุณได้ค้นพบทุกความต้องการในชีวิต สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากที่ปรึกษาการขายของผู้จำหน่ายใกล้บ้านท่าน
เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคัน และได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี ผลิตภัณฑ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด
สำหรับลูกค้าที่สนใจชม หรือทดลองขับรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นต่างๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 วันจันทร์ – วันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 8:30-17:00 น.
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่
Website: www.mitsubishi-motors.co.th
Facebook: www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
Instagram: @MitsubishiMotorsTh
Youtube Channel: Mitsubishi Motors Thailand
Line Official Account/ ID: Mitsubishi Motors Th / @MitsubishiMotorsTh