IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
ซีหนิง, จีน : เมื่อเร็วๆนี้ การประชุม Qaidam Se-enriched and Organic goji Forum ครั้งที่ 2 ได้เปิดฉากขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ เมืองเต๋อหลิงฮา เขตปกครองตนเองทิเบตและมองโกเลียไห่ซี มณฑลชิงไห่ ประเทศจีน
ในการประชุมว่าด้วยโกจิเบอร์รี หรือ เก๋ากี้ ผลไม้ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุซีลีเนียม บรรดาผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมโกจิเบอร์รีบริเวณที่ราบแอ่งกระทะไฉต๋ามู่ ในมณฑลชิงไห่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน กำลังมีแนวโน้มฟื้นตัว เนื่องจากราคาโกจิเบอร์รีดีดตัวขึ้น
ที่ราบแอ่งกระทะไฉต๋ามู่เป็นแหล่งปลูกโกจิเบอร์รีที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ และเป็นพื้นที่ปลูกโกจิเบอร์รีที่สูงที่สุดในโลก โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของที่ราบอยู่ในเขตปกครองตนเองทิเบตและมองโกเลียไห่ซี ในมณฑลชิงไห่ ซึ่งได้รับแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่ มีอุณหภูมิกลางวันและกลางคืนแตกต่างกันมาก และมีผืนดินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุซีลีเนียม ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งในการปลูกโกจิเบอร์รีคุณภาพสูง
รายงานประจำปีของดัชนีราคาโกจิเบอร์รีซินหัว-ไฉต๋ามู่ ระบุว่า ราคาโกจิเบอร์รีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนปี 2558 ส่งผลให้ผลผลิตโกจิเบอร์รีบริเวณที่ราบแอ่งกระทะไฉต๋ามู่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้นตลาด และทำให้ราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง
เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลท้องถิ่นได้ประกาศนโยบายมากมายเพื่อพยุงอุตสาหกรรมโกจิเบอร์รี ซึ่งรวมถึงการจับมือกับ China Economic Information Service (CEIS) ของสำนักข่าวซินหัว เพื่อเปิดตัวดัชนีราคาโกจิเบอร์รีซินหัว-ไฉต๋ามู่ พร้อมกับจัดตั้งเขตสาธิตที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก การสร้างแบรนด์ รวมถึงการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของโกจิเบอร์รี เป็นต้น
หลังใช้เวลา 3-5 ปีในการปรับตัว ราคาโกจิเบอร์รีบริเวณที่ราบแอ่งกระทะไฉต๋ามู่ก็เริ่มปรับตัวสูงขึ้นในปี 2562 และอาจมีแนวโน้มดีขึ้นอีกในฤดูเก็บเกี่ยวปีนี้
ข้อมูลสถิติระบุว่า เขตปกครองตนเองทิเบตและมองโกเลียไห่ซีมีพื้นที่ปลูกโกจิเบอร์รีเกือบ 500,000 หมู่ (ราว 33,333.33 เฮกตาร์) มีผลผลิตโกจิเบอร์รีแห้งทะลุ 80,000 ตัน และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 2.416 พันล้านหยวน หรือพุ่งขึ้น 55 เท่า, 171 เท่า และ 73 เท่าตามลำดับเมื่อเทียบกับปี 2551
ที่มา: สำนักประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเขตปกครองตนเองทิเบตและมองโกเลียไห่ซี