สำนักข่าว SHANA รายงานว่า คาสรา นูรี ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำกระทรวงปิโตรเลียมอิหร่าน กล่าวว่า "เกาหลีใต้เป็นประเทศแรกที่หยุดนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านชั่วคราว หลังจากที่สหรัฐได้ขู่คว่ำบาตรเพิ่มเติม"

รายงานระบุว่า ก่อนที่สหรัฐได้ขู่คว่ำบาตร เกาหลีใต้มีการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านวันละ 180,000 บาร์เรล

ด้านสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา แม้ถูกคัดค้านอย่างรุนแรงจากทั่วโลก โดยก่อนหน้านั้นสหรัฐได้ยกเลิกคว่ำบาตรอิหร่านชั่วคราวอันสืบเนื่องมาจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

การที่รัฐบาลสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเมื่อเดือนที่ผ่านมานั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นรัฐบาลอิหร่านในการเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ การทำธุรกรรมในสกุลริอัลในบัญชีธนาคารระหว่างประเทศ หรือในการออกพันธบัตร การทำธุรกรรมซื้อขายทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงถ่านหิน อลูมินัม และเหล็กสำหรับการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และการผลิตรถยนต์

มาตรการที่สหรัฐใช้คว่ำบาตรอิหร่านดังกล่าว ถือเป็นมาตรการรอบแรก ก่อนที่สหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรอบ 2 ในวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งจะพุ่งเป้าไปยังการทำธุรกรรมของธนาคารกลาง การส่งออกน้ำมัน และการขนส่งสินค้าทางเรือของอิหร่าน ขณะที่สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร

ทั้งนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นข้อตกลงที่อิหร่านได้มีขึ้นกับมหาอำนาจทั้ง 6 ชาติในปี 2558 เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของบริษัทน้ำมันประจำชาติของอิหร่าน (National Iranian Oil Company) เปิดเผยว่า ขณะนี้คาดการณ์ว่าการส่งออกน้ำมันดิบจะลดลงไปแตะที่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นการชั่วคราวในเดือนกันยายน จากเดิมที่ระดับ 2.3 ล้าน บาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายน โดยนักวิชาการมีการคาดการณ์ว่าอัตราการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านจะลดลงถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวันก่อนสิ้นปีนี้

ในขณะที่บางส่วนกล่าวว่าอัตราส่งออกนั้นตกถึงระดับดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากทางอิหร่านยังไม่ได้ประกาศตัวเลขการส่งออกน้ำมันดิบในเดือนนี้ หรือการคาดคะเนสำหรับเดือนหน้า

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านมีแนวโน้มปรับตัวลงอย่างเนื่อง หลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่าน และเรียกร้องให้ทุกประเทศหยุดการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน
ส่วนความต้องการใช้น้ำมันโลกคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังสถานการณ์ความตึงระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงมีอย่างต่อเนื