IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
“เกาดี้” สถาปนิกผู้เลียนแบบธรรมชาติ
สถาปนิกผู้นั้นคือ อันโตนิโอ เกาดี้ (Antoino Gaudi) สถาปนิกชาวสเปน ผู้สร้างสรรค์ผลงานมากมายฝากไว้ให้กับตัวเมืองบาร์เซโลน่า
ลักษณะงานของเกาดี้นั้นเต็มไปด้วยเส้นสายอ่อนช้อยที่เลียนแบบ ลดทอน รูปแบบจากธรรมชาติรอบตัว เป็นศิลปะแบบนวศิลป์ (Art Nouveau) นั่นทำให้อาคารที่เขาออกแบบเต็มไปด้วยเส้นโค้งมน แทบไร้เหลี่ยมมุมใด ๆ อาคารเหล่านั้นจึงดูลื่นไหล มีชีวิตชีวา ซึ่งฉันจะไม่แปลกใจเลย หากขณะยืนมองอาคารเหล่านั้น แล้ว จู่ ๆ สิ่งก่อสร้างมหึมาเหล่านั้นจะยักย้าย เคลื่อนไหว เคลื่อนที่ขึ้นมาได้…(จริง ๆ นะ)
“Sagrada Familia” ผลงานขึ้นชื่อของเกาดี้
ผลงานที่ขึ้นชื่อที่สุดของเกาดี้ ต้องยกให้โบสถ์ Sagrada Familia ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี คศ. 1883 หากมองโบสถ์แห่งนี้จากภายนอกไม่ต้องแปลกใจว่าบริเวณส่วนยอดของตัวโบสถ์ถึงมีเสาเครนปรากฏให้เห็นประสมด้วย นั่นเป็นเพราะโบสถ์แห่งนี้ยังสร้างไม่เสร็จ!!
ถูกแล้ว โบสถ์แห่งนี้ยังสร้างไม่เสร็จ แม้นว่าสถาปนิกผู้ออกแบบจะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1926 ก็ตาม ซึ่งตามแผนการก่อสร้างแล้ว โบสถ์แห่งนี้จะสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2026 และเพื่อจะสร้างให้เสร็จตามแบบที่สถาปนิกออกแบบไว้ ในแต่ละปีต้องใช้เงินถึง 22 ล้านเหรียญยูโรในการก่อสร้างเลยทีเดียว
โบสถ์แห่งนี้มีคนเปรียบเปรยว่าเหมือนปราสาททรายที่สร้างขึ้นจากทรายเปียก ๆ ฉันเห็นพ้องด้วยทีเดียว เพราะโบสถ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าแม้นสูงเสียด สร้างจากหินที่เป็นวัสดุหนาหนัก แต่เส้นโค้งมน และลายละเอียดมากมายที่ปรากฏบนพื้นผิวอย่างอิสระ ให้รู้สึกเหมือนหินนั้นเป็นวัสดุอ่อนนุ่ม ที่ใคร่จะปั้นแต่งให้มีรูปร่างอย่างไร ทำได้อย่างใจนึก
ย่างก้าวเข้าไปด้านใน ลองยืนมองเสาที่ค้ำตัวโบสถ์ละเรื่อยไปถึวเพดานข้างบน จะเห็นลักษณะการนำธรรมชาติรอบตัวมารังสรรค์ผลงานอย่างเด่นชัด ด้วยตัวเสาและลวดลายบนผนังนั้นเลียบแบบลักษณะของต้นไม้ และกิ่งก้านอย่างชัดเจน….. นี่แหละ ลายเซนต์ที่เด่นชัดของเกาดี้ ก็ใครจะออกแบบเสาภายในอาคารเป็นกิ่งแฉกแบบนี้บ้าง
สีแสงที่ผ่านกระจกผ่านเข้ามาในตัวโบสถ์เป็นอีกหนึ่งความแปลกตา ถูกล่ะโบสถ์และวิหารสมัยก่อนต่างเล่นกับแสงสว่างที่ส่องผ่านกระจกสีเข้ามากันทั้งนั้น แต่แสงนั้นแค่อุ่น ๆ สบายตา แต่สำหรับผลงานของเกาดี้แล้ว แสงนั้นปรากฏสีสันเด่นชัด แถมเล่นเฉดสีอีกด้วย ราวกับมีการจัดแสงไฟเลยทีเดียว
เมื่อเข้าไปชมดูภายในตัวโบสถ์ซึมซับ ลักษณะการออกแบบของเกาดี้ที่แตกต่างจากคนอื่นแล้ว หากยังคงมีเวลาลองลงไปยังชั้นใต้ดินด้านล่างที่ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ บอกเล่าความเป็นมาของการสร้างโบสถ์แห่งนี้ ภาพในอดีต แบบจำลองที่ได้ออกแบบไว้ และยังได้เห็นห้องทำงานปัจจุบันของกลุ่มสถาปนิก และเหล่าคนงานที่ยังคงทำงานกันต่อไป (ก็แผนจะสร้างเสร็จในปี 2026 ไง)
“Sagarda Familia School” โรงเรียนของ “เกาดี้”
ใกล้ ๆ กับตัวโบสถ์ มีโรงเรียนขนาดเล็กชื่อว่า Sagarda Familia School ออกแบบและสร้างขึ้นโดยเกาดี้ เป็นโรงเรียนสำหรับเด็ก ๆ ลูก ๆ คนงานก่อสร้าง และเมื่อเป็นการออกแบบของเกาดี้ ย่อมไม่ธรรมดาอีกเช่นเคย ผนังของตัวอาคารนั้นเป็นลอนคลื่น รับกับตัวหลังคาที่มีลักษณะโค้งเว้า ทำให้อาคารที่สร้างจากอิฐที่ควรจะให้อารมณ์ความรู้สึกที่หนาหนักบึกบึน กลับพลิ้วไหวราวกับระลอกคลื่น
“Casa Batllo” อาคารของ “เกาดี้”
Casa Batllo เป็นอีกหนึ่งผลงานการออกแบบของเกาดี้ อาคารดังกล่าวตั้งอยู่เริมทางถนนใจกลางตัวเมือง ที่จู่ ๆ ก็โผล่ให้เห็นปะปนกับอาคารอื่นขณะหยุดยืนรอข้ามถนนตรงสัญญาณไฟจราจร และเช่นเคย ผลงานของเกาดี้ เด่นสะดุดตาไม่เหมือนใคร บริเวณหลังคายังคงออกแบบไร้ซึ่งเส้นตรงอีกตามเคย เป็นเส้นสายอิสระที่เลียนแบบส่วนหลังของมังกร โดยมีกระเบื้องที่ปูไล่เฉดสีเป็นเกร็ดบนลำตัว และหากมองละเรื่อยลงมายังตัวอาคารด้านล่าง จะสังเกตเห็นลวดลายสดใสบนผนังที่เกิดจากการนำเศษกระเบื้องมาประดับ
Casa Batllo หากแปลตรงตัวคือบ้านของตระกูลบัตโล่ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1904-1907 ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมด้านในได้
“Casa Mila” บ้านของ “เกาดี้”
บ้านของมิล่า ออกแบบโดยเกาดี้ และสร้างอพาร์ทเมนท์หลังนี้ระหว่างปี ค.ศ. 1906 – 1912 ลักษณะของอาคารมองจากด้านนอกคล้ายลอนคลื่นในท้องทะเล ขณะที่หน้าต่างเจาะเป็นช่องตามลอนคลื่นแลคล้ายรวงผึ้ง แถมปล่องไฟบนหลังคายังออกแบบเป็นหัวรูปปั้นประหลาด… มองยังไงอาคารหลังนี้ก็ไม่ธรรมดา เรียกได้ว่า ถ้าเป็นผลงานของเกาดี้แล้ว ไม่มีชิ้นไหนที่ธรรมดา สมกับที่ชาวสเปนขนานนามเรียกเขาว่า สถาปนิกของพระเจ้า
“Park Guell” สวนสาธารณะของ “เกาดี้”
และนี่คือผลงานชิ้นสุดท้ายของเกาดี้ที่จะนำไปเยี่ยมชม…สวนสาธารณะ กูเอล (Park Guell)
ผลงานชิ้นนี้เกิดขึ้นจากความบังเอิญประสมกับความตั้งใจ เนื่องจากมีผู้ว่าจ้างให้เกาดี้ออกแบบสร้างหมู่บ้านและสวนหย่อม เพื่อขายให้กับเหล่าเศรษฐีในตัวเมือง โดยวางแผนไว้ที่จะสร้างบ้านถึงจำนวน 60 หลัง แต่สุดท้ายโครงการนี้ล้มเหลว และยกเลิกไปในที่สุด หากกลายเป็นโชคดีของชาวบาร์เซโลน่าที่ผลงานที่ไม่เสร็จนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนกลายเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่
เมื่อก้าวเข้าไปในเขตสวน อาคารต่าง ๆ ยังคงออกแบบในลักษณะของเกาดี้ เต็มไปด้วยเส้นสายอ่อนช้อย มีการนำเศษกระเบื้องมาตกแต่งให้เห็นทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณที่นั่งบนดาดฟ้าที่นักท่องเที่ยวพากันฉวยโอกาสนั่งพักกันบริเวณนั้น ไม่รีบร้อนไปไหน ได้ใกล้ชิดกับผลงานของเกาดี้ พร้อมมองวิวสวย ๆ ภายในสวนได้ในเวลาเดียวกัน
ผลงานทั้งหมดของเกาดี้ที่เอ่ยอ้างมาข้างต้น
ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทั้งสิ้น…ที่มา : iurban