นายสุธี เกตุศิริ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า โรงพยาบาลได้ลงทุนด้านไอทีกว่า 30 ล้านบาท หลังจากที่ปีที่แล้วในทุกด้านได้ลงทุนเพิ่มไปแล้ว 200- 300 ล้านบาท แผนจากนี้ไปอีก 2-5 ปีข้างหน้าจะยกระดับโรงพยาบาลหัวเฉียวให้เป็นโรงพยาบาลที่รักษาโรคได้หลากหลายสาขา โดยเฉพาะโรคซับซ้อน โรครักษายาก (ระดับตติยภูมิ)

โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2561-2562 จะเปิดศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง และในปี 2563-2564 จะเปิดศูนย์โรคกระดูกสันหลัง คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท จากปัจจุบันที่เปิดศูนย์ไปแล้ว 3 ศูนย์ ได้แก่

• ศูนย์หัวใจ
• ศูนย์หลอดเลือด
• ศูนย์เบาหวาน

12 ปีที่ผ่านมารพ.หัวเฉียวมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ต้องบอกว่ารพ.เอกชนมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เราจึงต้องปรับตัวให้ทันกับรพ.เอกชนที่ปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูง

โดยเฉพาะวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าไปมาก หากไม่มีการปรับตัวเราก็จะเสียโอกาสและเสียบุคลากรทางการแพทย์ไป และทางโรงพยาบาลมั่นใจที่จะเข้าแข่งขันในตลาดโรงพยาบาลที่ขณะนี้แข่งขันสูงมาก

ทั้งนี้รพ.หัวเฉียวได้เริ่มปรับปรุงและพัฒนาในด้านต่างๆตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบันด้วยงบลงทุนทั้งสิ้น 1500 ล้านบาท ทั้งการปรับปรุงพัฒนาอาคาร การสร้างหอพักใหม่สำหรับพยาบาล ปรับปรุงห้องไอซียู ปรับปรุงห้องผ่าตัด และสั่งซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ ล่าสุดได้มีการปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ใหม่สำหรับผู้สูงอายุที่ปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้น โดยจะเปิดคลินิกผู้ป่วยผู้สูงอายุ คาดว่าจะเปิดได้อย่างเต็มรูปแบบอีก 6 เดือนจากนี้ไป

นายสุธี กล่าวอีกว่า นอกจากการปรับปรุงและพัฒนาโรงพยาบาลแล้ว ที่ผ่านมารพ.หัวเฉียวยังได้จัดทำโครงการเออร์ลีรีไทม์ เพื่อลดจำนวนบุคลากรลงจาก 1400 คน เหลือ 850 คนในปัจจุบัน ขณะที่จำนวนของคนไข้ที่เข้ารับการรักษาที่รพ.หัวเฉียวมีประมาณ 5 แสนคนต่อปี จากเดิมที่มีเพียง 4 แสนคนต่อปี โดยแบ่งสัดส่วนกลุ่มลูกค้าเป็นระดับกลางถึงล่าง 30% ระดับกลางถึงบน 30% ระดับบน 30% และที่เหลือเป็นระดับล่าง 25% 

ในส่วนของจำนวนเตียงผู้ป่วยปัจจุบันมีจำนวน 338 เตียง มีอัตราส่วนของจำนวนผู้ป่วยคิดเป็น 60% ซึ่งในอนาคตจะมีการเพิ่มเตียงอีกหรือไม่นั้นรพ.จะคำนึงถึงคุณภาพและความพร้อมเป็นหลัก หากมีบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลพร้อมก็จะมีการเพิ่มจำนวนเตียง จากปัจจุบันรพ.มีแพทย์ประจำ 67 คน และแพทย์ไม่ประจำ 245 คน พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล 369 คน

สำหรับผลประกอบการของรพ.หัวเฉียวในปี 2559 ที่ผ่านมารับรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวมกันทั้งปี 1100 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณปีละ 5-10% โดยรายได้ดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนเงินสด 45% และประกันสังคม 55% 
อย่างไรก็ตามรพ.หัวเฉียวยังได้จัดโครงการเพื่อการรักษา 4 โครงการหลัก ได้แก่ 1.โครงการให้การสงเคราะห์ค่ารักษาพยาบาล และค่าฟอกไต สำหรับผู้ป่วยที่ยากไร้ โดยคณะกรรมการมูลนิธิปอเต็กตึ๊งให้การสนับสนุนงบประมาณปีละ 20 ล้านบาท 2.โครงการให้การช่วยเหลือค่าพยาบาลกรณีผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องนอนพักรักษาตัวในรพ.หัวเฉียว และมีฐานะปานกลางโดยคณะกรรมการมูลนิธิปอเต็กตึ๊งให้การสนับสนุนงบปรมาณปีละ 20 ล้านบาท 3.โครงการธรรมรักษา รักษาใจยามเจ็บป่วย ดูแลด้านจิตใจสำหรับผู้ป่วยระยะสุดท้าย ซึ่งเป็นโครงการที่มาจากดำริของนายกอบชัย ซอโสตถิกุล ประธานกรรมการบริหารรพ.หัวเฉียว ที่ก่อตั้งโครงการนี้ด้วยทุนทรัพท์ส่วนตัว และ4.โครงการให้ทุนการศึกษาพยาบาล ด้วยความร่วมมือจาก 3 สถาบัน คือมูลนิธิปอเต็กตึ๊งมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และรพ.หัวเฉียวิดจึงเกิด โครงการปลูกต้นกล้าพยาบาล 3 สถาบัน ให้ทุนจำนวน 150 ทุน มูลค่า 60 ล้านบาท