IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
"หลังคา" มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่งรองจากโครงสร้างพื้นฐาน เพราะเป็นส่วนที่รองรับน้ำหนักของวัสดุมุงหลังคาและอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ โครงหลังคาที่ใช้กันมากในปัจจุบันคงหนีไม่พ้น โครงหลังคาไม้ และ โครงหลังคาเหล็ก ซึ่งความแตกต่างด้านคุณสมบัติ มาตรฐาน และการใช้งานในลักษณะต่าง ๆ ก็มีอยู่พอสมควร การเลือกใช้ควรใช้ตามความเหมาะสมของรูปแบบหลังคา แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ โครงหลังคาไม้ และ โครงหลังคาเหล็ก
โครงหลังคาไม้
โครงหลังคาไม้ มักใช้กับบ้านที่ต้องการงานสวยงามด้วยการโชว์ลายไม้ โชว์โครงหลังคา โครงไม้มีราคาสูงกว่าหลังคาเหล็ก ส่วนอายุการใช้งานนั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้และกระบวนการเคลือบน้ำยาป้องกันปลวก รวมถึงการแช่น้ำยาป้องกันเชื้อรา การเลือกไม้มาทำโครงสร้างต้องเป็นไม้เนื้อแข็งเป็นปัจจัยหลัก เช่น ไม้สัก, ไม้เต็ง, ไม้รัง, ไม้ตะเคียน เป็นต้น ปัจจัยรองลงมานอกจากราคาที่แตกต่างต่างกันของชนิดไม้แล้ว ก็เป็นเรื่องความสวยงามของลายไม้ เรื่องยางไม้ เรื่องกลิ่นหอมของเนื้อไม้ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ไม้ต้องแห้งสนิทจริงๆ เพื่อไม่ให้เกิดการ หด บิด หรือ ขยายตัวในอนาคตจากสภาพอากาศ เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อการแตกหัก ร้าวของหลังคาในอนาคตได้ ในส่วนของการติดตั้งต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ และ ความรู้ในงานถึงจะออกมาได้อย่างสวยงาม ทั้งนี้การใช้โครงหลังคาที่ทำจากไม้จะต้องใช้ระยะเวลาการทำงานที่นานกว่าโครงเหล็ก
โครงหลังคาเหล็ก
โครงหลังคาเหล็ก เป็นโครงหลังคาที่นิยมที่สุดเนื่องจากราคาที่ไม่แพงมาก อายุการใช้งานยาวนาน ติดตั้งได้ง่ายกว่า ไม่ต้องดูแลรักษามาก และยังหาช่างและอุปกรณ์ในการติดตั้งได้สะดวกจึงใช้เวลาน้อยกว่า ไม่เปลืองแรงงาน นอกจากนี้เหล็กยังเป็นวัสดุที่หาง่าย คุณภาพแต่ละชิ้นสม่ำเสมอไกล้เคียงกันมากกว่าไม้มาก โครงหลังคาเหล็กมักจะใช้เหล็กกล่อง และเหล็กรูปตัวซี ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้าเหล็กรูปพรรณต่าง ๆ จึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้รับเหมา โครงหลังคาเหล็ก สามาถนำมาใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งโครงหลังคาเหล็กที่นิยมใช้ในปัจจุบันสามารถแบ่งได้เป็น 4 รูปแบบ คือ โครงหลังคาเหล็กรูปพรรณ , โครงหลังคาเหล็กเคลือบกัลวาไนซ์ , โครงหลังคาเหล็กสำเร็จรูป และ โครงหลังคาเหล็กโครงถัก
หลังคาเป็นจุดแรกที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฝน พายุ ลม หลังคาบ้านเป็นที่แรกที่สึกหลอง่ายกว่าจุดอื่น ดังนั้น ต้องเลือกวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน เพื่อทนต่อสภาพอากาศ หากต้องการเลือกอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า แนะนำให้เลือก “เหล็ก” ทำหลังคา เหล็กเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตอบโจทย์ด้านความคงทนมากที่สุด
ประเภทเหล็กที่ใช้ในการทำหลังคา
- โครงหลังคาเหล็กรูปพรรณทั่วๆไป เป็นเหล็กสีดำทั่วๆไป เหล็กประเภทนี้ต้องนำมาทาสีกันสนิมก่อน เพื่อให้โครงสร้างหลังคาคงทนถาวรมากยิ่งขึ้น ไม่ผุกร่อน ซึ่งการใช้เหล็กรูปพรรณทั่วๆไปนั้น ผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านควรคำนึงจึงการทาสีกันสนิม ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างเข้มงวดเช่นกัน ตั้งแต่ก่อนติดตั้งที่ต้องทาสีให้ทั่วทุกด้านของผิวเหล็ก เพราะการที่ทาสีกันสนิมไม่ทั่วเหล็กเป็นสาดหตุที่ทำให้เหล็กเกิดสนิมได้
- โครงหลังคาเหล็กเคลือบกัลวาไนซ์ เหล็กชนิดนี้เราสามารถนำมาก่อสร้างได้โดยที่ไม่ต้องทาสีกันสนิมทึบ เนื่องจากเหล็กเคลือบกัลป์วาไนซ์เป็นเหล็กที่มี่คุณสมบัติการกันสนิมอยู่แล้ว ตัวเหล็กสามารถทาสีทับได้และราคาเหล็กกัลวาไนซ์ราคาสูงกว่าเหล็กธรรมดานิดหน่อย แต่สิ่งที่มั่นใจได้ว่ามาตรฐานในการกันสนิมมีมากกว่าการทาสีกันสนิมด้วยมือช่างแน่นอน
- โครงหลังคาเหล็กสำเร็จรูป ผลิตจากเหล็กกล้ากำลังดึงสูงกว่าเหล็กรูปพรรณ ผิวของเหล็กจะเคลือบสารป้องกันสนิมด้วยการเคลือบกัลวาไนซ์ ใช้วิธีการออกแบบโครงสร้างหลังคาด้วยโปรแกรมออกแบบโครงสร้างหลังคาโดยเฉพาะ โดยจะทำการคำนวณหน้าตัด ขนาด และระยะ จากข้อมูลรูปแบบรูปทรงหลังคาที่ได้มาจากลูกค้าเฉพาะราย เพื่อให้ได้รูปแบบและขนาดของชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของโครงหลังคาอย่างเหมาะสมโดยไม่เหลือทิ้งเศษ ประหยัด คุ้มค่า ใช้พื้นที่หน้างานได้อย่างเหมาะสม
- โครงหลังคาเหล็กโครงถัก หรือ โครงข้อหมุน คือการนำชิ้นส่วนมาพาดระหว่างจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง โครงถักเป็นโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบา แต่สามารถรับน้ำหนักได้มากและมีช่วงวางพาดได้กว้าง จึงช่วยประหยัดโครงสร้างได้มากพอสมควร รวมถึงสามารถออกแบบรูปทรงให้สวยงามได้หลากหลายตามต้องการ วัสดุที่ใช้เป็นโครงถักได้แก่ ไม้ เหล็กรูปพรรณ เหล็กชุบกัลวาไนซ์ ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงสร้างที่ต้องการนำไปใช้งาน
สุดท้ายแล้วในการเลือกใช้โครงหลังคา ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็กรูปพรรณ หรืออื่นๆ สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นหลักก็คือ อายุการใช้งาน กับ วัสดุที่ใช้มุงหลังคา เท่านี้เราก็จะได้มีโครงหลังคาที่เหมาะและมีความแข็งแรงปลอดภัยให้กับอาคารของเรา อย่างไรก็ตามหากต้องการได้งานที่ดี นอกจากการเลือกวัสดุที่เหมาะสมแล้ว การเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างก็สำคัญเช่นกัน
บริษัท ธรรมโชติ (ประเทศไทย) จำกัด มีความเชี่ยวชาญด้างานก่อสร้างอาคารทุกประเภท ทั้งงานโครงสร้างต่างๆ งานลงเสาเข็ม งานฐานราก งานวางพื้น งานเทพื้นคอนกรีต งานโครงสร้างเหล็ก งานวางท่อ งานบ่อบำบัด ระบบน้ำเสีย งานทำถนน งานโรงจอดรถต่างๆ รวมถึงงานต่อเติมทุกประเภท เราผ่านงานมามากมาย ด้วยประสบการณ์ของทีมช่างที่ก่อเกิดเป็นความเชี่ยวชาญ จะสามารถรังสรรอาคารของท่านได้ตรงใจ ตามแบบ ตามฝันที่วาดเอาใว้ได้อย่างดี เพราะ "ธรรมโชติ ตอบโจทย์ทุกงานก่อสร้าง" "เราสร้างทุกฝันด้วยใจและความเชี่ยวชาญ"
สนใจติดต่อสอบถาม ได้ฟรีที่
บริษัท ธรรมโชติ (ประเทศไทย) จำกัด
THAMMACHOT(THAILAND) COMPANY LIMITED
355 หมู่ที่ 8 ถนนโสมพะมิตร ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ 46000
โทร : 095-658-8827