IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
ลิกเตนสไตน์, LGT กลุ่มบริษัทที่ดำเนินงานด้านไพรเวทแบงค์กิ้งและการจัดการสินทรัพย์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าของโดย ราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ (Princely House of Liechtenstein) ได้ประกาศเปิดตัวธุรกิจไพรเวทแบงค์ในประเทศไทยหลังจากได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบเป็นที่เรียบร้อย สำนักงานของ LGT ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร และพร้อมให้บริการด้านการลงทุนและการจัดการความมั่งคั่งที่หลากหลายแก่กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (high net worth individuals) และลูกค้าระดับองค์กรในประเทศ
เจ้าชายแมกซ์แห่งลิกเตนสไตน์ (H.S.H. Prince Max von und zu Liechtenstein)
สำหรับการประกาศเปิดตัวการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนี้ เจ้าชายแมกซ์แห่งลิกเตนสไตน์ (H.S.H. Prince Max von und zu Liechtenstein) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LGT ทรงตรัสว่า "เรามีความยินดีที่จะเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและมุ่งหวังที่จะให้บริการด้านไพรเวทแบงค์อย่างเต็มรูปแบบแก่นักลงทุนรายใหญ่ ครอบครัวของพวกเขา และลูกค้าระดับองค์กร
เราเล็งเห็นว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่สำคัญ ทั้งนี้ การเปิดสำนักงานที่นี่ถือเป็นการสะท้อนความตั้งใจของเราในการขยายการเติบโตในเอเชีย
LGT เป็นกลุ่มบริษัทด้านการบริการไพรเวทแบงค์และการจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองวาดุซ ประเทศลิกเตนสไตน์ โดยมีราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ (Princely House of Liechtenstein) เป็นเจ้าของและบริหารงาน โดยในช่วงกลางปี พ.ศ. 2561 LGT ได้บริหารสินทรัพย์รวมมูลค่าถึง 2.075 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท) สำหรับในเอเชีย LGT เป็นไพรเวทแบงค์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 12 ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์ที่บริหารมากกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (หรือ 1.9 ล้านล้านบาท)
เจ้าชายแมกซ์ ตรัสเพิ่มเติมว่า "โครงสร้างผู้ถือหุ้นที่มั่นคงของเรา เครือข่ายระหว่างประเทศที่คลอบคลุม แนวทางการดำเนินงานที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล รวมถึงประสบการณ์ที่ครอบคลุมของที่ปรึกษาด้านการดูแลสินทรัพย์ของเรา คือสิ่งที่ทำให้ LGT แตกต่าง ลูกค้าของเราสามารถลงทุนได้ดั่งสมาชิกราชวงศ์ และได้รับผลประโยชน์ผ่านความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนของเรา ทั้งหมดนี้มีผลให้เกิดความต้องการระหว่างเราและลูกค้าดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน"
บริษัทย่อยของ LGT ในประเทศไทยจะเป็นที่รู้จักภายใต้ชื่อบริษัทหลักทรัพย์แอลจีที (ประเทศไทย) จำกัด หรือ LGT Securities (Thailand) Limited โดยมีทีมที่ปรึกษาด้านการลงทุนและนักวางแผนการลงทุนและการจัดการความมั่งคั่งพร้อมให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าชาวไทยผ่านสำนักงานที่กรุงเทพฯ และยังจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานด้านไพรเวทแบงค์ของ LGT ในฮ่องกงและสิงคโปร์อีกด้วย
"การเปิดสำนักงานของเราในกรุงเทพฯ นับเป็นก้าวสำคัญทางกลยุทธ์ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเราในทวีปเอเชีย" นายเฮนรี ไลเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LGT Private Banking Asia กล่าว "เราเติบโตอย่างน่าพอใจในช่วงปีที่ผ่านมาในภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังมีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัดของสินทรัพย์ที่เราบริหารจัดการ ประเทศไทยเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีโอกาสที่น่าสนใจมากมาย การมีสำนักงานประจำในกรุงเทพฯ จะเปิดโอกาสให้เราสามารถให้คำปรึกษาและสนับสนุนลูกค้าชาวไทยของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"
การขับเคลื่อนและขยายตัวทางการตลาดของ LGT ในประเทศไทยจะอยู่ภายใต้การดูแลโดยนายกานต์ คฤหเดช บุคลากรผู้คร่ำหวอดในวงการมาอย่างยาวนาน และเปี่ยมด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ในด้านไพรเวทแบงค์กิ้ง และมีนายเอกภพ เมฆกัลจาย ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นักธนาคารมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 16 ปี ในด้านธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน และธนบดีธนกิจ นอกจากนี้ ยังประกอบด้วยทีมงานผู้ดูแลลูกค้าสัมพันธ์ที่มีประสบการณ์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
เกี่ยวกับ LGT
LGT เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำที่ดำเนินงานด้านไพรเวทแบงค์และการจัดการสินทรัพย์ในระดับนานาชาติ ซึ่งบริหารงานโดยราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein Princely Family) มาเป็นเวลานานกว่า 80 ปี ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ระบุว่า LGT จัดการสินทรัพย์มูลค่ารวมทั้งสิ้น 2.060 แสนล้านฟรังก์สวิส (2.075 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับลูกค้ารายบุคคลระดับมหาเศรษฐีและลูกค้าระดับองค์กร LGT มีพนักงานมากกว่า 3,000 คน ในสำนักงานมากกว่า 20 แห่งในยุโรป เอเชีย อเมริกา และตะวันออกกลาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.lgt.com