December 22, 2024

TTA ขยายธุรกิจ รองรับลูกค้าแถบอ่าวไทย

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) TTA เดินหน้าลงทุนทุกกลุ่มธุรกิจ สวนกระแสโควิด-19  พร้อมให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของพนักงานและผู้ใช้บริการ ย้ำกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือยังคงรักษารายได้โตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวธุรกิจใหม่ของ “เมอร์เมดฯ” รองรับบริการลูกค้าแถบอ่าวไทย 

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA กล่าวว่า การระบาดรุนแรงของเชื้อโควิด-19 ทำให้หลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักลง ส่งผลให้การค้าโลกชะลอตัว ซึ่งบริษัทฯให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นอันดับแรก เพื่อความปลอดภัยและเพื่อสุขภาพที่ดีของพนักงานทุกคน ทั้งกลุ่มที่ทำงานในสำนักงานใหญ่ กลุ่มทำงานบนเรือ และที่สาขาร้านอาหาร ในขณะที่ยังมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้

ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือยังคงรักษาตำแหน่งที่ดีในอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราค่าระวางเรือเทียบท่า (TCE) สูงกว่าอัตราตลาดสุทธิถึงร้อยละ 25 ด้านกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร ยังคงสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง มีมูลค่าสัญญาให้บริการรอส่งมาอง (Order Book) ที่ยืนยันแล้ว ถึงปัจจุบันไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนพิซซ่า ฮัท ยังคงทำกำไรได้ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สาม

โดยแนวโน้มในอุตสาหกรรมขนส่งทางเรือนั้น มีความเป็นไปได้ที่สถานการณ์กาค้าสินค้าเทกองจะกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 และในปี 2564 โดยเบื้องต้นคาดว่าอาจจะฟื้นตัวกลับมาเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 5 ในปีหน้า เทียบกับอัตราการเติบโตของกองเรือที่ร้อยละ 2

ซึ่งภาพรวมอุตสาหกรรมในอนาคตยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ส่วนอุตสาหกรรมบริการนอกชายฝั่ง Rystad Energy ประมาณการภาพรวมอุตสาหกรรมขุดเจาะและสำรวจ (Drilling and exploration) อาจลดลงเล็กน้อย และคาดว่าการปรับลดงบประมาณในการสำรวจภาคสนาม (Field development) จะส่งผลกระทบแก่ผู้ให้บริการภาคสนาม (Field service provider) ต่อไป

ผลการดำเนินงานของแต่ธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2563 ดังนี้

  • กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ มีรายได้ค่าระวางเรือของกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรืออยู่ที่ 1,261.50 ล้านบาท ลดลง 26% จากปีก่อน สาเหตุหลักจากอัตราค่าระวางเรือที่ลดลงและจำนวนวันให้บริการของเรือที่เช่ามาเสริมกองเรือลดลง แต่ยังคงรักษาค่าใช้จ่ายในการเดินเรือ และมีอัตราการใช้ประโยชน์เรือที่กลุ่มธุรกิจฯ เป็นเจ้าของยังคงอยู่ในระดับสูงถึง 100% จึงมีกำไรขั้นต้นจำนวน 197.7 ล้านบาท
  • กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง ที่ผ่านมาธุรกิจด้านนี้มีผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของหลายๆ ประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโดวิด-19 ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง รายได้ของกลุ่มนี้จึงตกลงประมาณ 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอัตราค่าข้างเฉลี่ยต่อวันลดลง เป็นผลจากการที่เรือลำหนึ่งได้รับค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อรอเริ่มงาน ของโครงการหนึ่งซึ่งถูกเลื่อนออกไปตามกำหนดการใหม่ของลูกค้ารายหนึ่ง และการที่เรือที่เช่ามาเพื่อทำงานแทนเรือที่ถูกนำไปเข้าอู่แห้งในอีกโครงการหนึ่งได้รับค่าจ้างต่อวันต่ำกว่าสัญญาปกติ ซึ่งเป็นไปตามสัญญาจ้างกรณีการเช่าเรือมาทำงานแทน
  • กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร มีรายได้เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากการขายปุ๋ยที่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสที่ผ่านมาเกิดภาวะความแห้งแล้งและค่าความเค็มของน้ำเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ของจังหวัดบริเวณสามเหลี่ยมปากน้ำแม่โขงในประเทศเวียดนาม และความต้องการภายในประเทศลดลง แต่ถูกเกินดุลด้วยปริมาณการส่งออกปุ๋ยที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการมุ่งเน้นการส่งเสริมการตลาดและเครือข่ายความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง จึงส่งผลให้ปริมาณขายปุ๋ยทั้งหมดปรับตัวเพิ่มขึ้น 60% 

ส่วนธุรกิจการลงทุนอื่นๆ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นด้านอาหารและธุรกิจเครื่องดื่ม รวมถึงการบริหารทรัพยากรน้ำและโลจิสติกส์ โดยล่าสุดได้เข้าสู่ธุรกิจฟู้ดส์ดิลิเวอรี่ เปิดตัว “D.I.Y. Taco Kit” ในนามของ บริษัท สยาม ทาโก้ จำกัด ส่งผลให้ยอดขาย Taco Bell เติบโตอย่างก้าวกระโดดอีกด้วย

เมอร์เมด มาริไทม์ บริษัทย่อยของ TTA เปิดตัวธุรกิจใหม่ รองรับบริการลูกค้าแถบอ่าวไทย

บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 58.2 รุกกลยุทธ์สร้างการเติบโตด้วยธุรกิจใหม่ โดยให้บริษัท เมอร์เมด ซับซี เซอร์วิสเซส หรือ MSST ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเมอร์เมด จัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ที่เน้นให้บริการด้านงานติดตั้งและรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมและท่อขนส่งปิโตรเลียมในบริเวณนอกชายฝั่งอย่างครบวงจร พร้อมรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแถบอ่าวไทย โดยชูจุดแข็งเรื่องการให้บริการที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม ด้วยทีมงานที่เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ

โดยบุคลากรในหน่วยธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จะประกอบด้วย วิศวกรคนไทยที่มีประสบการณ์ในการให้บริการงานวิศวกรรมด้านการก่อสร้างและงานปฏิบัติการนอกชายฝั่งให้แก่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในแถบอ่าวไทยมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10-20 ปี โดยขอบเขตการให้บริการของหน่วยธุรกิจใหม่นี้จะครอบคลุมงานติดตั้งและรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมและท่อขนส่งปิโตรเลียมของบริษัทน้ำมันชั้นนำในประเทศไทยและในภูมิภาคใกล้เคียง

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ เมอร์เมด เปิดเผยว่า งานติดตั้งและรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมและท่อขนส่งปิโตรเลียม คาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในปี 2564 และต่อเนื่องไปอีก 10-20 ปี โดยเฉพาะในแถบอ่าวไทยที่มีแท่นผลิตปิโตรเลียมอยู่แล้วมากกว่า 400 แท่น และคาดว่ารัฐบาลไทยจะอนุมัติการรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมประมาณ 100 แท่นภายในช่วงเวลา 10 ปีข้างหน้า

สำหรับการจัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ของเมอร์เมดในครั้งนี้จะส่งผลให้เมอร์เมดเป็นบริษัทแรกที่คนไทยเป็นเจ้าของและเป็นบริษัทแรกที่มีทีมวิศวกรคนไทยให้บริการด้านงานติดตั้งและรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมและท่อขนส่งปิโตรเลียมแบบบูรณาการณ์ในประเทศไทยที่ได้มาตรฐานระดับสากล ในประเทศไทย พบว่าบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติชั้นนำมีโครงการรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมจำนวน 49 แท่น ในช่วงปี 2563-2566 และบริษัท เมอร์เมด ซับซี เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ MSST ได้รับการรับรองแล้วว่าเป็นผู้เข้าประมูลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเข้าร่วมประมูลงานโครงการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมดังกล่าว

อนึ่ง บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ เมอร์เมด ซึ่ง TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 58.2  เป็นบริษัทไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการนอกชายฝั่ง  โดยเมอร์เมด เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำระดับโลกในด้านการให้บริการวิศวกรรมใต้ทะเล (Subsea Engineering)และบริการเรือขุดเจาะแก่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทั่วโลก โดยพื้นที่ในการให้บริการของเมอร์เมดอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแถบตะวันออกกลางเป็นหลัก ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.mermaid-group.com

เกี่ยวกับเมอร์เมด
บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือ เมอร์เมด ซึ่ง TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 58.2 เป็นบริษัทไทยที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการนอกชายฝั่ง โดยเมอร์เมด เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำระดับโลกในด้านการให้บริการวิศวกรรมใต้ทะเล (Subsea Engineering)และบริการเรือขุดเจาะแก่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทั่วโลก โดยพื้นที่ในการให้บริการของเมอร์เมดอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแถบตะวันออกกลางเป็นหลัก ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.mermaid-group.com

MERMAID LAUNCHES NEW OFFSHORE TRANSPORTATION, INSTALLATION AND DECOMMISSIONING BUSINESS UNIT

New business unit’s immediate target is potential work opportunities in the Gulf of Thailand with emphasis on delivering international service excellence using qualified local content.

Mermaid Maritime Public Company Limited (the “Company”) is pleased to announce that its wholly owned subsidiary Mermaid Subsea Services (Thailand) Ltd. (“MSST”) has established an Offshore Transportation, Installation (T&I) and Decommissioning services business unit as part of its diversification for growth strategy. This new business unit comprise seasoned Thai personnel with a minimum of 10-20 years of working experience in oil and gas operations and offshore facilities construction in the Gulf of Thailand. The scope of services shall include new platform and pipeline installation and decommissioning to meet demand from major oil operators in Thailand and the surrounding region.

“The potential for future decommissioning work is expected to increase in 2021 and continue over the next 10-20 years. In particular, the Gulf of Thailand has over 400 offshore platforms

with an estimated 100 platforms to be approved by the Thai government for decommissioning over the next 10 years.

With this initiative by Mermaid, we have become the first Thai-owned and Thai-operated services company in the Offshore Transportation, Installation and Decommissioning sector having the capability to deliver services of an international standard using qualified local content for the Thailand market”, said Mr. Chalermchai Mahagitsiri, Mermaid’s Chief Executive Officer.

A major oil and gas operator in Thailand has already initiated a decommissioning program for 49 platforms during the period from 2020-2023 and MSST has been approved as a qualified bidder to participate in the provision of services for these potential projects.



รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc
เพิ่มเพื่อน

Rate this item
(2 votes)
Last modified on Thursday, 08 April 2021 09:35
อดิพันธ์ อภิชาติทนงกุล

Author : เกาะติดข่าวในอุตสาหกรรมยานยนต์ Automotive อากาศยาน อิเล็กทรอนิกส์ แม่พิมพ์ เครื่องจักร การแปรรูปโลหะ วิศวกรรม เครื่องมือแพทย์ และหุ่นยนต์

รวมถึงเทคโนโลยีในด้านนั้นๆ

Latest from อดิพันธ์ อภิชาติทนงกุล

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM