IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายบุณยกฤต เสาวรรณ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ “บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน)” หรือ TTCL เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจว่า รายได้ปี 2562 นี้จะแตะที่ 12,000 บาท ตามเป้าหมายที่วางไว้และกำไรสุทธิที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) กว่า 15,300 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 6,000 ล้านบาท และยังมีงานที่รอผลการประมูลมูลค่ากว่า 58,000 ล้านบาท คาดว่าจะชนะการประมูลที่ 19,000 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ปีนี้ที่สามารถรับรู้ได้ทันที 2,800 ล้านบาท และภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 2562 นี้ บริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตราว 50 เปอร์เซ็นต์
โดยงานที่รอประมูลทั้งหมด 20 โครงการ เป็นงานในประเทศ 14 โครงการ มูลค่า 41,600 ล้านบาท และต่างประเทศ 6 โครงการ มูลค่า 16,400 บาท แบ่งเป็นงานปิโตรเคมี 8 โครงการ มูลค่า 30,300 ล้านบาท,งานเคมีภัณฑ์ 7 โครงการ มูลค่า 19,300 ล้านบาท ,งานด้านพลังงาน 3 โครงการ มูลค่า 4,400 ล้านบาท และงานโรงกลั่น 2 โครงการ มูล่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งงานประมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเริ่มทราบผลในช่วงปลายไตรมาสที่ 3-4 /2562 นี้
“งานที่เราได้ประมูลตั้งแต่ปี 2561 ประมาณ เกือบ 1.6 ล้านบาท จำนวน 13 โครงการจะทยอยรับรู้ในปี 2562 นี้เป็นบางส่วน โดยมีโครงการขนาดใหญ่ อาทิ งานปิโตรคอมเพล็กซ์ ที่ Long Son ในเวียดนาม และงานของ บจก. ปูนซิมเนต์ไทย(SCG) มูลค่าโครงการ 6.8 พันล้านบาท และงานโรงงานปิโตรเคมี MOCD2 Project มูลค่าประมาณ 4.6 พันล้านบาท เป็นต้น” นายบุณยกฤต กล่าว
สำหรับโครงการในต่างประเทศ บริษัทฯ ได้เตรียมบันทึกกำไรพิเศษจากการขายโรงไฟฟ้าในประเทศเมียนมา ขนาดกำลังการผลิต 120 MW และเตรียมพัฒนาโครงการ Ahlone เฟส 2 ขนาดกำลังการผลิต 388 MW คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ได้ภายในเดือน สิงหาคม 2562 นี้
เบื้องต้นจะเป็นการขายไฟฟ้าให้แก่กระทรวงไฟฟ้ารัฐบาลเมียนมาร์โดยตรง ซึ่งคาดว่าจะสามารถขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนภายในอีก 2 ปี นับจากนี้
ส่วนโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์ในต่างประเทศ อีกโครงการ มีมูลค่า 7,500 ล้านบาท ที่ได้ร่วมกับ Sojitz Corporation นั้น คาดว่าจะได้งานประมาณ 1 ใน 3 ของมูลค่างานที่เข้าประมูล หรือประมาณ 15,500 ล้านบาท
ขณะที่ทิศทางอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 นี้ บริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น จะส่งผลด้านบวกให้การลงทุนในประเทศมีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้กลับมาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ส่วนแผนการนำ บริษัท ทีทีซีแอล พาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นั้น บริษัทฯ ได้ยื่นแบบไฟลิ่ง ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ขณะนี้ได้แต่งแต่งให้ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว โดยจะจดทะเบียนจัดตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ดังนั้นหากเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นไทย จะเป็นลักษณะไพรมารี่ ลิสติ้ง คาดว่าจะเริ่มซื้อขายได้ประมาณต้นปี 2563
“เราคาดว่าโรงไฟฟ้าโครงการ Alone ขนาดกว่า 300 เมกะวัตต์ในเมียนมา จะได้สัญญา PPA ภายในไตรมาส 2 นี้ ดังนั้นเราจึงต้องการให้ได้ PPA ก่อนจึงค่อยยื่นไฟลิ่ง จะทำให้มูลค่าหุ้นดีขึ้น นอกจากแผนนำหุ้นเข้าตลาดแล้ว บริษัทก็เปิดกว้างให้พันธมิตรเข้ามาถือหุ้นด้วย เพราะเชื่อว่าหากได้ PPA แล้วมีผู้สนใจมาก หากได้พันธมิตรก็อาจจะไม่ต้องเข้าจดทะเบียนก็ได้ แต่ขณะนี้การนำหุ้นเข้าตลาดฯยังเป็นตัวเลือกลำดับแรกอยู่” นายบุณยกฤต กล่าวทิ้งท้าย
บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL จัดตั้งขึ้นโดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง กลุ่ม ITD และ TEC ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 20 ล้านบาท เป็นบริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านการออกแบบวิศวกรรมและก่อสร้างโรงงานแบบครบวงจรรายแรกของประเทศไทย เดิมบริษัท ชื่อ “บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)” เปลี่ยนชื่อในวันที่ 9 เมษายน 2558 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศ โดยปัจจุบัน Sojitz เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทนที่ TEC ที่ทำการขายไปต้นปี 2561