IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) แจ้งว่าบริษัทได้ลงนามสัญญาก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินร่วมกับโครงการก่อสร้างทางลอดรัชดา-ราชพฤกษ์ ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มูลค่าโครงการ 286.50 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 781 วัน สิ้นสุดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564
]
ทั้งนี้ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) เริ่มประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและ ผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง ตั้งแต่ปี 2519 ปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจหลักประเภทรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภท ผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรงและผลิตภัณฑ์คอนกรีตอื่น รวมทั้งผลิตเหล็กแปรรูป ใช้เป็นวัสดุในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของบริษัทเอง และจำหน่ายให้กับลูกค้าภายนอก
- บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ได้จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2519 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 4 ล้านบาท และได้เพิ่มทุนขึ้นเป็นลำดับ
- ในปี พ.ศ.2538 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 400 ล้านบาท เป็น 500 ล้านบาท โดยกระจายหุ้นให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- จากนั้นในวันที่ 27 กันยายน 2538 บริษัทก็ได้รับอนุมัติให้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงทุนย้อนหลัง 3 ปี คือ ปี 2555 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 2,217,950,679 บาท ทุนชำระแล้ว 1,552,901,243 บาท ปี 2556 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 2,221,587,311 บาท ทุนชำระแล้ว 1,974,801,416 บาท
- ปัจจุบัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 2,585,481,515 บาท และมีทุนชำระแล้ว 2,585,481,515 บาท โดยแบ่งเป็นหุ้นสามัญ 2,585,481,515 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
- บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) ได้ให้บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (“ทริส”) ทำการจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัท ซึ่งทริสได้ประกาศเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 อันดับเครดิต : BBB- และแนวโน้มอันดับเครดิต : Stable โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานของบริษัทในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่หลากหลายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงมูลค่างานที่ยังไม่ได้ส่งมอบที่อยู่ในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม ทริสมองว่าจุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากภาระหนี้ที่สูง ตลอดจนลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นลงของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง การแข่งขันที่รุนแรง และความเสี่ยงจากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันในงานวิศวกรรมโยธาจากโครงการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ต่อไป อีกทั้งบริษัทมีโอกาสที่จะได้งานโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้น ทริส วิเคราะห์ว่า ความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการลดลงของภาระหนี้จะเป็นปัจจัยบวกแก่อันดับเครดิต และ/หรือ แนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท