IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
ดร.วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบเยอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาเนื้อไม้ รวมทั้งสินค้าเคมีภัณฑ์และอุตสาหกรรม เราได้มีความมุ่งมั่นตั้งใจศึกษาและพัฒนากระบวนการผลิตที่สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการนำระบบการผลิตในรูปแบบอินไลน์อัตโนมัติระบบสุญญากาศ หรือเรียกสั้นๆ ว่า AVID (Automatic Vacuum Inline Dispersion) ซึ่ง “เบเยอร์” เป็นผู้ผลิตสีหนึ่งเดียวในประเทศไทยและรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำนวัตกรรมการผลิตสียุคใหม่นี้มาใช้ จึงทำให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่าเราส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อเกิดประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด นอกจากนี้ AVID ยังสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 85.39% ต่อปี ควบคู่ไปกับการใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์เซลล์ นอกจากจะได้พลังงานสะอาดแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 335 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่งช่วยลดการเกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย”
รางวัล Thailand Energy Award 2021 นี้ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติและเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของสีเบเยอร์ ให้มุ่งพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นมิตรต่อโลก รวมทั้งชุมชนและสังคมรอบข้างต่อไป
สำหรับการรับรองฉลากเขียวและฉลากลดคาร์บอน ผลิตภัณฑ์ของสีเบเยอร์ผ่านการรับรองอย่างต่อเนื่องมากว่า 12 ปี โดยเฉพาะสินค้าเรือธงของเราทั้งสีเบเยอร์ชิลด์ และสีเบเยอร์คูล ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยความมั่นใจถึงคุณภาพสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล ซึ่งทางแบรนด์เองได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านขบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ และชุมชนรอบข้างมาโดยตลอด ทั้งนี้ทางเบเยอร์พร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากทุกกระบวนการผลิตสินค้า เพื่อสร้างมาตรฐานการผลิตสีทาอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ประกอบกับการยกระดับปณิธาน "Eco-Wellness Innovation สีนวัตกรรม รักษ์โลก รักคุณ" ขึ้นเป็นพันธกิจหลักขององค์กร
“แม้สถานการณ์โควิดช่วงที่ผ่านมา จะทำให้ภาพรวมธุรกิจสีทาบ้านและอาคารหดตัวลง แต่กลุ่มบริษัท สีเบเยอร์ ยังคงเติบโตสวนกระแส จากปัจจัยของการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงการปรับกลยุทธ์ต่างๆ ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ เพื่อตอบโจทย์และสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุค 5G อีกทั้งจัดแคมเปญ "เย็นเถิดชาวไทย" ที่มี โอ๊ต - ปราโมทย์ ปาทาน เป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพิ่มโอกาสและทางเลือกให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายออนไลน์ ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จ กลุ่มเป้าหมายได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี” ดร.วรวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ สิ่งที่จะสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค คือ มาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของสีเบเยอร์คูล ที่ได้รับการรับรองโดยสถาบันระดับโลกทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนวัตกรรมใหม่ของสีเบเยอร์คูล ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จัดเป็นสีบ้านเย็นที่ครองตลาดมายาวนาน และยังครองใจผู้บริโภคชาวไทย ด้วยคุณสมบัติสะท้อนความร้อนถึง 97% ทั้งเฉดสีเข้ม และสีอ่อน จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงกับโรคระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องของรายละเอียดสินค้า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สอดรับกับวิถีชีวิตใหม่ๆ ที่เชื่อว่า ผู้บริโภคจะอยู่บ้านและให้ความสำคัญกับบ้านมากขึ้นกว่าเดิม โดย “สีเบเยอร์คูล” สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าภายในบ้าน อีกทั้งยังให้ผู้บริโภคได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านแบบปลอดภัย เย็นกาย สบายกระเป๋า และเป็นอีกแรงในการช่วยลดภาวะโลกร้อน
“แม้ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว การปรับตัวของผู้ประกอบการจึงเป็นเรื่องจำเป็น ทั้งในด้านพัฒนากระบวนการผลิต และวิธีการทำตลาด โดยคำนึงถึงมาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นส่วนสำคัญ ที่จะทำให้ธุรกิจมั่นคงเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน” ดร.วรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม ทาง เบเยอร์ บริษัทสีนวัตกรรมรักษ์โลก รักคุณ ได้เดินหน้าโครงการ “สีแห่งความสุข Beger Be Happy” สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นปีที่ 8 โดยส่งมอบสีทาอาคารกว่า 400 ถัง ให้กับร้านค้าพันธมิตร หน่วยงาน และประชาชนทั่วไป เพื่อนำไปซ่อมแซมบ้านเรือนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เบเยอร์ ยังได้ส่งมอบถังยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด ประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมกล่อง ให้แก่ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี และทีมบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อนำไปกระจายความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตามนโยบายตอบแทนสังคมของสีเบเยอร์ ภายใต้โครงการ Beger Be Happy ณ ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรีอีกด้วย
โดย นางอมรรัตน์ ชัยยศบูรณะ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เบเยอร์ จำกัด กล่าวถึงที่มาของโครงการนี้ว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาสีที่เกิดจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ทำให้ที่พักอาศัยแลดูไม่สวยงาม ทางเบเยอร์จึงมีความประสงค์ที่จะสนับสนุนสีให้แก่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย เพื่อนำไปกระจายความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ รวมถึงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของชุมชนต่าง ๆ ให้กลับมาสวยงามน่าอยู่ สนับสนุนการช่วยเหลือสังคมตามนโยบายตอบแทนสังคมของสีเบเยอร์ ภายใต้โครงการ Beger Be Happy ที่ต้องการสร้างสังคมแห่งความสุขให้กับทุกคน พร้อมยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในฐานะสีของคนไทย