STC ปั้นโปรดักส์ใหม่ L-Wall ชู Backlog กว่า 285 ล้านบาท ลุย EEC

STC มั่นใจรายได้ปี  2563 นี้โตไม่ต่ำกว่า 10% แย้มมีงานตุนในมือ (Backlog) กว่า 285 ล้านบาท พร้อมเตรียมเซ็นสัญญาเพิ่มทั้งโครงการภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะงานของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทุ่มงบอีก 100 ล้านบาท ลุยเพิ่มกำลังการผลิตคอนกรีตอีก 20%

นายเอกชัย ชัยตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ จำกัด (มหาชน) หรือ STC เปิดเผยว่า บริษัทฯได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อทรัพย์สินสำหรับใช้ในการประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ ของ บริษัท ควอลิตี คอนกรีต 2013 จำกัด มูลค่า 9.83 ล้านบาท โดยการซื้อทรัพย์สินครั้งนี้เพื่อใช้ดำเนินธุรกิจของบริษัทให้มีสมรรถนะที่ดีและเพิ่มรายได้จากการขยายธุรกิจ และตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งงานภาครัฐและเอกชน ส่งผลให้บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ขณะที่ครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ 227.75 ล้านบาท หรือเติบโต 16.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 422 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) มูลค่าประมาณ 285 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ อีกทั้งอยู่ระหว่างเตรียมเซ็นสัญญาเพิ่ม มูลค่า 452 ล้านบาท ทั้งในงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ระยะเวลา 1-2 ปี

พร้อมกับเดินหน้ายื่นเสนอราคางานโครงการต่างๆเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ยังมีแผนการลงทุนขนาดใหญ่จำนวนมาก ดังนั้น STC จึงมีแผนจะขยายโรงงานเพิ่มกำลังการผลิตคอนกรีตในไลน์ผลิตเดิมอีก 20% โดยตั้งงบลงทุนไว้ 100-120 ล้านบาท

โดยบริษัทฯกำลังจะขยายกำลังผลิตเพิ่มในส่วนของท่อระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กและบ่อพักน้ำขนาดใหญ่ที่โรงงานนาวัง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการผลิตบางส่วนแล้ว และได้มีการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังผลิตของท่อระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กและบ่อพักน้ำอีก 9,600 คิวคอนกรีตต่อปี แม้ผลงานไตรมาส 3 ในปีนี้ทรงตัว เพราะงานภาครัฐชะลอ แต่คาดการลงทุนของรัฐจะเกิดขึ้นปลายไตรมาส 3 ถึงต้นไตรมาส 4 ทำให้ STC คาดการจัดซื้อ จัดจ้างวัสดุเกี่ยวกับงานก่อสร้างจะกลับมาเติบโตและเห็นภาพชัดเจนในไตรมาส 4 นี้

ผลิตภัณฑ์ "L-Wall" รุ่น LW 2.40x2.00x2.80 m. เมื่อเทียบกับความสูงของชายไทยระดับมาตรฐาน

ทั้งนี้ STC พยายามสร้างโปรดักส์ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งานของลูกค้าในทุกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ "L-Wall" ซึ่งเป็นกำแพงกันดินสำเร็จรูปพร้อมฐานแผ่ และกันดินไหล สามารถใช้เป็นรั้วสำเร็จได้ มีคุณสมบัติเด่นที่พร้อมใช้งานติดตั้งง่าย แข็งแรง ติดตั้งได้รวดเร็ว สามารถเคลื่อนย้ายไปใช้งานที่อี่นได้ สามารถติดตั้งง่ายมากๆ โดยมีขั้นตอนการติดตั้งเพียง 1.ขุด 2.เทลีน / ปรับระดับพื้น 3.แล้ววางกำแพง ก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องเข้าแบบเทในที่ ซึ่งเสียทั้งเวลาและค่าแรง เคลื่อนย้านก็ไม่ได้ อีกทั้งหน้างานไม่สะอาด ผลิตภัณฑ์ "L-Wall" ถูกกว่า ดีกว่า รวดเร็วกว่า ขนาดความกว้างมาตรฐานเท่ากัน และมีความสูงให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 1.00-2.80 ม. หรือสามารถสั่งผลิตตามแบบที่ต้องการก็ได้ ท่านใดสนใจสามารถติดต่อฝ่ายขายได้ที่ โทร. 038 423115-6, 081 7238759, 062 5960001

“แม้ว่าสถานการณ์การก่อสร้างในภาคตะวันออก จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนโครงการต่างๆ แต่ยังคงมีการพัฒนาพื้นที่ต่างๆ เพิ่ม ส่งผลให้ราคาที่ดินขยับสูงต่อเนื่องผลจากการลงทุนดังกล่าวและนั่นถือเป็นปัจจัยที่ดีที่จะหนุนผลประกอบการของบริษัทให้เติบโตต่อเนื่อง” นายเอกชัย กล่าว

ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างในเขตพื้นที่โซนตะวันออก โดยเฉพาะเมืองพัทยาจังหวัดชลบุรี ไม่เคยหลับใหล หลักๆ เป็นการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนผ่านสัดส่วนรายได้เอกชนสูงถึงระดับ 70% และภาครัฐ 30% ทว่า นับตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างในเมืองพัทยาได้รับอานิสงค์จากการลงทุนครั้งใหญ่ของไทย ผ่านโครงการ EEC ส่งผลให้พื้นที่ใน 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ ระยอง มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ผลิตภัณฑ์หลักของ STC มี 3 ประเภท คือ

  • ผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 70% ซึ่งบริษัทผลิตและจำหน่ายคอนกรีตสำเร็จรูปสำหรับงานก่อสร้างอาคารแนวราบและแนวสูง รวมถึงงานโครงสร้างและงานฐานรากต่างๆ (Foundation and Structure) งานปรับปรุงพื้นที่และภูมิทัศน์ (Landscape Construction) เช่น งานกำแพงกั้นดินและงานรั้ว เป็นต้น และโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ต่างๆ เช่น ระบบระบายน้ำ เป็นต้น 

  • ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ (Ready-Mixed Concrete) คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 30% ซึ่งบริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จตามคำสั่งของลูกค้า ซึ่งแต่ละสูตรการผลิตคอนกรีตผสมเสร็จแตกต่างกันตามการใช้งาน บริษัทจึงต้องศึกษาและพัฒนาปรับเปลี่ยนสูตรการผลิตเพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอายุใช้งานจำกัด ทำให้การบริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถคอนกรีตมิกซ์เซอร์จะทำได้แค่รัศมีไม่เกิดระยะเวลา 2 ชั่งโมง หรือราว 20 ถึง 25 กิโลเมตร  

  • การให้บริการที่เกี่ยวข้อง (Related Service) โดยบริษัทยังมีการให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ให้บริการตอกเสาเข็ม บริการบั๊มคอนกรีตขึ้นที่สูง หรือบริเวณที่รถคอนกรีตมิกซ์เซอร์เข้าไม่ถึง เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร (One Stop Shop) 

 

ที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตทั้งด้านรายได้และกำไรที่โดนเด่น ตามนโยบายการลงทุนในโครงการ EEC เริ่มชัดเจนมากขึ้น ซึ่งบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ขณะที่ STC ขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับดีมานด์จากงานของภาครัฐบาลและเอกชน เพื่อสอดรับกับนโยบาย EEC ไว้เรียบร้อยแล้ว สอดคล้องกับเงินระดมทุนหลังจากนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้สถาบันการเงินแล้ว ที่เหลือบริษัทจะนำมาเป็นเงินหมุนเวียนเพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมงานก่อสร้าง งานระบบระบายน้ำ งานนิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียงในเขตภาคตะวันออกที่กำลังขยายตัว

ปัจจุบันบริษัทมีโรงงาน 4 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองพัทยา ทำให้บริษัทได้เปรียบทางธุรกิจในเรื่องของระยะทางขนส่ง และต้นทุนการแข่งขันที่สามารถบริหารจัดการได้ดีกว่าคู่แข่งมาก ประกอบกับ 'STC' ได้รับการยอมรับและความน่าเชื่อถือจากลูกค้ามานานกว่า 30 ปี จึงสนับสนุนให้ STC มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา และด้วยการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการผลิตท่อระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กและบ่อพักขนาดใหญ่ ซึ่งหาคู่แข่งได้น้อยราย ทำให้สามารถสร้างกำไรที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับอดีต

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนลงทุนในระยะ 3 เพื่อขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต  คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์และเครื่องจักร โดยจะมีกำลังการผลิตประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน คาดว่าจะเริ่มลงทุนในปี 2564 คาดว่าเงินลงทุนจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของกิจการในอนาคต โดยโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับโครงการ EEC  เช่น โครงการปรับปรุงทางหลวงและโครงข่ายถนนสายรองในพื้นที่รอบๆ อู่ตะเภา, มาบตาพุด และถนนเลียบชายฝั่งทะเลระยอง-ชลบุรี เพื่อเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ EEC




รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc
เพิ่มเพื่อน

Rate this item
(1 Vote)
Last modified on Tuesday, 02 November 2021 12:21
สุเทพ ชื่นนาทกุล

Author : เกาะติดข่าววงการก่อสร้าง แวดวงอุตสาหกรรมหนัก เคมีภัณฑ์และพลาสติก การกลั่นน้ำมัน โรงเหล็ก การทำเหมือง การสร้างเขื่อน สนามบิน ทางรถไฟ ถนน อ่างเก็บน้ำ ระบบชลประทาน ฯลฯ

Latest from สุเทพ ชื่นนาทกุล

Related items

Tweet Feed

Post Gallery

Taiwan Excellence โชว์โซลูชั่นระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ปลดล็อคศักยภาพอุตสาหกรรมไทย ในงาน Manufacturing Expo 2025

Zoomlion ฉลองครบ 10 ปีในไทย พร้อมเปิดศูนย์ครบ 10 สาขา เดินหน้าขยายบริการภาคอีสาน ด้วยการเปิดสาขาใหม่ที่อุบล

มันส์ติดขอบสนาม กับศึกโมโตครอส C "Thailand Motocross 2025" สนาม 6-7จะมีขึ้นที่ ซิลเวอร์ ร็อค จ.เลย ลุ้นแย่งแชมป์ มันส์ระเบิดแน่!!!

"เทระวัตต์ เอนเนอร์จี" ผนึก 4 พันธมิตรชูบริการ "ONE STOP SERVICE" จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เปิดตัว ‘SigenStor’ All-in-One โซลูชันระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมแบตเตอรี่ และ AI อัจฉริยะ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก SIGENERGY ครั้งแรกในประเทศไทย

อร่อยกับ “มาม่า” แล้วไปสนุกจัดเต็มกับคอนเสิร์ตออร์เคสตราสุดยิ่งใหญ่  “Bodyslam Power of The B-Side Concert ความฝันกับจักรวาล”

แกร็บ ผนึก กทม. หนุนนโยบายสร้างเมืองปลอดภัย  ดึง บุ๋ม ปนัดดา ปลุกพลังคนขับป้องกันภัยคุกคามทางเพศ

กลุ่มธุรกิจ TCP ผสานพลัง บีไอจี นำไนโตรเจนคาร์บอนต่ำใช้ในกระบวนการผลิตมุ่งสู่ Net Zero

finbiz by ttb แนะธุรกิจ SME นำ AI เทคโนโลยีอัจฉริยะ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

เผยความต้องการซื้อรถยนต์มือสองตลาดภูมิภาคมีแนวโน้มเติบโต AUCT จับมือไฟแนนซ์เปิดประมูลขายทั่วประเทศไม่มีวันหยุด

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM