IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือจากกองทัพเรือแจ้งผลการคัดเลือกผู้ประกอบการเพื่อดำเนินโครงการงานระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น พื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โดยข้อเสนอของบริษัทฯ ได้รับการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการคัดเลือกผู้ประกอบการดำเนินโครงการฯ เพื่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน (Hybrid) ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถสร้างเสถียรภาพด้านการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในเขตพื้นที่พัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาได้อย่างชัดเจน
โดยแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้าระยะที่ 1 บริษัทฯ จะได้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 80 เมกะวัตต์ พร้อมกับการพิจารณาจัดหาพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเพื่อการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 15 เมกะวัตต์ และ ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) 50 เมกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งการพัฒนาโครงการฯ ตามแผนงานระยะที่ 1 ดังกล่าว บริษัทฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับจัดทำรายละเอียดการดำเนินโครงการฯ ตามข้อกำหนดและขอบเขตงาน (TOR) และข้อเสนอของบริษัทฯ เพื่อให้การพัฒนาโครงการฯ มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุดให้กับกองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นางปรียนาถฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนในการดำเนินงานโรงไฟฟ้าในพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาตามข้อเสนอของบริษัทฯ นั้น ยังประกอบด้วย
แผนการพัฒนาโรงไฟฟ้า ระยะที่ 2 ซึ่งจะประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 80 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน และ/หรือติดตั้งบนหลังคา และ/หรือแบบลอยน้ำ 55 เมกะวัตต์
ซึ่งบริษัทฯ จะได้ปฎิบัติงานตามนโยบายที่ได้รับจากกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในขั้นตอนต่อไป เพื่อให้การก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามแผนงานดังกล่าวสามารถรองรับปริมาณความต้องการการใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่การพัฒนาโครงการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาได้อย่างมั่นคงอีกด้วย
อนึ่ง กรอบระยะเวลาในการพัฒนาและดำเนินการก่อสร้างโครงการระยะที่ 1 ของบริษัทฯ จะสามารถดำเนินการได้ในทันที ระหว่างปี พ.ศ. 2561 – 2564 ส่วนแผนการพัฒนาโรงไฟฟ้าระยะที่ 2 ตามข้อเสนอของบริษัทฯ นั้น ได้รับการกำหนดไว้ ระหว่างปี พ.ศ. 2564 – 2566
บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจ และมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ต่อการที่ BGRIM ได้รับโอกาสอันสำคัญยิ่งให้เป็นผู้พัฒนาระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าและน้ำเย็นในครั้งนี้ ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดเตรียมความพร้อมไว้แล้วทุกประการเพื่อให้ สามารถดำเนินงานอันจะเป็นการสนับสนุนและตอบสนองต่อนโยบายในการพัฒนาพื้นที่สนามบิน
นานาชาติอู่ตะเภาและพื้นที่โดยรอบดังกล่าวให้กับกองทัพเรือและรัฐบาลให้เป็นผลสำเร็จตามหน้าที่และความรับผิดชอบที่บริษัทฯ ได้รับมอบหมาย โดยการดำเนินการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน (Hybrid) ระยะที่ 1 ตามข้อเสนอของบริษัทฯ นั้น ได้รับการคาดหมายว่า จะสามารถดำเนินการก่อสร้างและเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับพื้นที่รับผิดชอบหลักบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา และ พื้นที่รับผิดชอบรองในส่วนของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ พร้อมทั้งจำหน่ายน้ำเย็นให้กับท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ได้ภายในเดือนมกราคม 2564 เพื่อเป็นการรองรับความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคของท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาและพื้นที่พัฒนาโดยรอบได้อย่างมั่นคง มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป