IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้แทนกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมการประชุม Eastern Economic Forum (EEF) ครั้งที่ 4 วันที่ 11-13 ก.ย. 2561 ณ เมืองวลาดิวอสต็อก สหพันธรัฐรัสเซีย ว่า ในที่ประชุมได้ประชาสัมพันธ์เขตเศรษฐกิจใหม่ รวมถึงการนำเสนอความพร้อมในด้านโลจิสติกส์เพื่อดึงดูดนักลงทุน
ตามนโยบาย Look East ของนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ต้องการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันออกไกลให้มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นภายใน 2-3 ปีนี้ และให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียมากขึ้น
ทั้งนี้ ศักยภาพของภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียมีสูง เนื่องจากมีพื้นที่ครอบคลุมถึง 10% ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติทั้งแร่ธาตุ ถ่านหิน ป่าไม้ และสัตว์น้ำจำนวนมาก นอกจากนี้เมืองวลาดิวอสต็อก ยังอยู่ห่างจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เพียง 700 กิโลเมตรเท่านั้น อีกทั้งรัฐบาลรัสเซียมีการส่งเสริมการลงทุนในหลายด้าน เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง ท่าเรือ การศึกษา เป็นต้น โดยปี 2561 รัฐบาลรัสเซียมีแผนการลงทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาภูมิภาคตะวันออกไกลเป็นเงินถึง 4,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนมีเพียงประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ และมาเลเซียเท่านั้น ที่มีการลงทุนในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย ดังนั้นนักลงทุนของไทยจึงควรพิจารณาขยายตลาดมายังรัสเซียตะวันออกเพิ่มขึ้น เพื่อเจาะฐานผู้บริโภคใหม่และใช้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมการลงทุนต่างๆ ในภูมิภาคนี้
“มีการพูดกันถึงศักยภาพของประเทศไทยทั้งในด้านการเป็นฐานการผลิต การลงทุนและระบบโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการค้าระหว่างประเทศ พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน รวมไปถึงบทบาทของไทยในอาเซียนที่ให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ ความเชื่อมโยงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยให้ภูมิภาคอาเซียนพัฒนาเป็นหนึ่งในผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกอย่างแท้จริง” นายสกนธ์ กล่าว
สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างอาเซียนและรัสเซียในปี 2560 เติบโตถึง 35% โดยสินค้าไทยที่มีศักยภาพในการส่งออก ได้แก่ ผักและผลไม้กระป๋อง ทูน่ากระป๋อง