สำหรับผู้ที่รักบ้าน และห่วงใยสุขภาพ อาจรับรู้ประโยชน์ของผ้าม่านจากข้อมูลที่มีอยู่มากมายในโลกโซเชียล แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ผ้าม่าน” ภายใต้การผลิตที่มีการรับรองมาตรฐานมีรายละเอียดปลีกย่อย และประโยชน์มากกว่าการทำหน้าที่ช่วยกรอง และป้องกันแสงแดด เหมือนผ้าม่าน ที่ผู้บริโภคคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อย่าง ม่านจีบ ที่มีการจับจีบด้านบน โดยมีการเว้นระยะห่างของจีบเท่าๆกัน ม่านล็อกลอน เป็นม่านที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู มีลักษณะคล้ายตัว S เรียงต่อกัน ม่านตาไก่ ม่านพับ ม่านคอกระเช้า ม่านหลุยส์ ที่อาจทำให้ดูหรูหรา แต่ก็มาพร้อมกับปัญหาเรื่องฝุ่นเช่นกัน ต่างจาก “ผ้าม่าน” ที่สามารถตอบโจทย์ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง HLS – Home Living Style ซึ่งเป็นผ้าม่านที่ถูกคัดสรรมาเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของสิ่งแวดล้อม แสงแดด และรูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างยิ่ง

ผ้าม่าน HLS – Home Living Style แบ่งออกเป็น 2 ชนิดให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ คือ

1.ผ้าม่าน Black Out

ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันแสง และป้องกันรังสี Ultraviolet A หรือที่เราเรียกสั้นๆ กันว่า UVA และ UVB ได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ เพราะในแสงแดดมี UVA มากถึง 95% ที่น่ากังวลก็คือรังสีชนิดนี้ สามารถผ่านทะลุกระจกได้ แม้เราอยู่ในอาคารก็ตาม และสามารถเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกคือ dermis โดยจะเข้าไปกดภูมิต้านทานของผิวหนัง ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถปกป้องผิวจากการเกิดและแพร่กระจายของมะเร็งผิวหนังได้ในที่สุด รวมทั้งตัวการร้ายที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เหี่ยวย่น และ ก่อให้เกิดจุดด่างดำที่สาวๆไม่ปรารถนาอีกด้วย ที่เหนือกว่าผ้าม่านทั่วไป ก็คือ ผ้าม่าน HLS ประเภทแรกนี้ช่วยประหยัดพลังงาน และช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องได้มากถึง 3-5 องศา อีกต่างหาก

2.ผ้าม่าน Dim Out

เป็นผ้าม่านที่ช่วยลดแสง โดยยอมให้แสงเล็ดลอดเข้ามาเพียงบางส่วน การควบคุมปริมาณแสงช่วยทำให้ยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ หรือแอคแซคเซอรี่ภายในห้องให้ยาวนานขึ้น

นอกจากผ้าม่าน HLS – Home Living Style ทั้ง 2 ชนิด จะมีคุณสมบัติโดดเด่นช่วยป้องกันแสงแดด รังสี UV รวมถึงช่วยกรองฝุ่นละอองไม่ให้เข้ามาภายในห้อง ตัวอาคาร หรือบ้าน แตกต่างจากผ้าม่านทั่วๆไปแล้ว ผ้าม่าน HLS ยังมากไปด้วยดีไซน์ และมีหลากหลายลายลวดลายให้คนรักบ้าน ได้เลือกสรรตกแต่งกรอบหน้าต่าง และบานประตูให้น่าหลงใหล อาทิ ลายดอกไม้ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน ลายกราฟิกกับห้องสไตล์ดิบเท่ และสีพื้น ที่เหมาะกับห้องสไตล์ มินิมอล ไม่เพียงเท่านั้นอินทีเรียดีไซน์ และคนรักบ้านต่างเลือกใช้ลวดลาย และสีสันของผ้าม่าน สะท้อนรสนิยมเจ้าของบ้าน รวมถึงช่วยเบรกความแข็งกระด้างของบ้านสไตล์ลอฟต์ ที่ใช้วัสดุหลัก อย่างเหล็ก ปูน ให้ดูนุ่มนวล และลงตัวมากขึ้น

ที่มากกว่านั้นคือผ้าม่าน HLS ทุกผืนล้วนได้รับการรองรับมาตรฐานในระดับประเทศด้านความปลอดภัยในการใช้งาน โดยทุกกระบวนการผลิตคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ภายใต้ฉลาก Smart Fabric UV Protection หรือเนื้อผ้าอัจฉริยะ จากสถาบันพัฒนาสิ่งทอ (THTI) การันตีเรื่องมาตรฐานในการทำความสะอาดที่ง่ายดาย

และที่สำคัญก็คือใช้วิธีการย้อมสีที่ปลอดสารก่อมะเร็งอีกต่างหาก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกขนาดผ้าม่านตามที่ต้องการ HLS – Home Living Style มีบริการสั่งตัดผ้าม่านขนาดพิเศษ (SEMI -MADE TO ORDER) พร้อมรับติดตั้งราวม่าน ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละท่านด้วย

หาซื้อผ้าม่าน HLS – Home Living Style ที่ห่วงใยสุขภาพ และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ได้แล้วที่ โฮมโปร ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.homepro.co.th …Exclusive @ HomePro เท่านั้น

ที่มา : baanlaesuan