IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
นายวีระเดช โกวพัฒนกิจ ผู้จัดการการตลาด บริษัท เอสซีจี เซกิซุย-เซลส์ จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดย 3 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสร้างบ้านในยุคนี้คือ การบริการที่ครบวงจร คุณภาพการอยู่อาศัยและสุขภาพของเจ้าของบ้าน รวมถึงสมาชิกในครอบครัว อีกทั้งการดีไซน์ ฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย “ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากขึ้น ทั้งด้านสุขภาพ สุขอนามัย และสร้างพื้นที่ความสุขในการอยู่อาศัยให้กับตัวเองและครอบครัว ด้วยการมองหาสิ่งที่มาเติมเต็มชีวิต และหลีกหนีความวุ่นวายจากสังคมภายนอก”
ตลาดรับสร้างบ้านบนที่ดินตัวเองมีแนวโน้มเติบโตกว่า 50% โดยการขยายตัวของตลาดนี้นับเป็นสัดส่วนสูงถึง 15% ของตลาดสร้างบ้านในภาพรวม
เจาะตลาด “รีบิลด์”
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่า ตลาดรีบิลด์ (re-built) ตลาดรับสร้างบ้านบนที่ดินตัวเองมีแนวโน้มเติบโตกว่า 50% โดยการขยายตัวของตลาดนี้นับเป็นสัดส่วนสูงถึง 15% ของตลาดสร้างบ้านในภาพรวม ส่วนหนึ่งมาจากแผนของลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านอยู่แล้ว เมื่อมีปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ เช่น ราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาน้ำมัน นับเป็นตัวเร่งการตัดสินใจให้เร็วขึ้น
ปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดรีบิลด์ขยายตัวยังมาจากที่ดินเริ่มหายากขึ้น โดยเฉพาะในทำเลกลางเมือง ทำให้ความต้องการส่วนหนึ่งเข้าไปซื้อบ้านแล้วทำการรีบิลด์ เพื่อให้ได้บ้านสวยตรงใจบนทำเลที่ต้องการ ขณะที่อีกส่วนมาจากการส่งต่อบ้านพร้อมที่ดินจากรุ่นสู่รุ่นหรือทรัพย์สินมรดก ซึ่งอายุและโครงสร้างบ้านมีอายุหลายปี ทำให้มีข้อจำกัดหากมีการต่อเติม
บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากขึ้น ทั้งด้านสุขภาพ สุขอนามัย และสร้างพื้นที่ความสุขในการอยู่อาศัยให้กับตัวเองและครอบครัว ด้วยการมองหาสิ่งที่มาเติมเต็มชีวิต และหลีกหนีความวุ่นวายจากสังคมภายนอก
"บ้าน" ที่ตอบโจทย์ชีวิตไฮบริด
เมื่อโควิด-19 เข้ามาส่งผลให้ทุกคนใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น ทำงานที่บ้าน หรือเรียนที่บ้านมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มองหานวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาสร้างความปลอดภัยให้กับตัวเองและคนในครอบครัว ซึ่งก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ดีมานด์ในตลาดแนวราบ รวมถึงตลาดรับสร้างบ้านขยายตัวในช่วงที่ผ่านมา จากความต้องการพื้นที่ใช้สอยกว้างขึ้น และฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายเหมาะกับสมาชิกในบ้านที่มีหลายช่วงวัย
“สิ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงคือ ลูกค้าต้องการพื้นที่เอนกประสงค์รองรับกิจกรรมของทุกคนในบ้าน รวมถึงปรับใช้เป็นห้องทำงาน ห้องเรียน ห้องสันทนาการที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านนอก รวมถึงต้องการให้มีห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุ โดย เอสซีจี ไฮม์ มี 150 แบบบ้าน ที่รองรับให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เพราะการใช้ชีวิตวิถีใหม่ บ้านไม่ใช่พื้นที่อยู่อาศัยอย่างเดียว แต่เป็นพื้นที่ทำกิจกรรม ทำงาน สังสรรค์ ด้วยเหตุนี้พื้นที่บ้านจึงต้องใหญ่กว่าการอยู่อาศัย และจากพื้นที่ที่ขยายก็ทำให้มูลค่าบ้านเพิ่มขึ้นด้วย”
นอกจากก่อสร้างบ้าน เอสซีจี ไฮม์ ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่ดีต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ซึ่งนับได้ว่าผู้บริโภค ให้การตอบรับเป็นอย่างมากในการนำมาใช้ในบ้านปัจจุบัน ได้แก่ Air Tightness System การประกอบบ้านปิดช่องว่าง ทุกรอยต่อทั้งประตู หน้าต่างและผนัง และ Air Factory System ระบบหมุนเวียนอากาศพร้อมไส้กรอง 3 ชั้น ทำหน้าที่กรองอากาศจากภายนอกเข้าสู่บ้านเพื่อความสะอาดและลดกลิ่นรบกวนจากภายนอก นอกจากนี้ยังมีระบบไอออนไนเซอร์ (Ionizer System) เทคโนโลยีกรองอากาศภายในบ้าน ด้วยการปล่อยไอออน (ion) อนุภาคไฟฟ้าประจุลบและบวกในอากาศ ที่สามารถช่วยลดปริมาณเชื้อรา สารฟอร์มาลดีไฮด์ ไวรัส และสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นในอากาศก่อนนำเข้าสู่ภายในบ้าน
ส่งมอบโซลูชั่นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
นายวีระเดช กล่าวว่า ตลาดรีบิลด์ เป็นอีกโอกาสของเอสซีจี ไฮม์ ในการส่งมอบบริการสร้างบ้านที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า ซึ่งจะดำเนินการไปพร้อมกับการตอบโจทย์ความต้องการของคนที่เตรียมสร้างบ้านใหม่ในปีนี้และในอนาคต “มาตรฐาน” ที่เอสซีจี ไฮม์ ยึดมั่นในการส่งมอบงานคุณภาพให้กับลูกค้ามาโดยตลอดคือ มาตรฐานงานก่อสร้างและ มาตรฐานงานบริการ
ด้าน “มาตรฐานงานก่อสร้าง” บ้านเอสซีจี ไฮม์ ผลิตด้วยเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ในส่วนของโครงสร้างกว่า 80% แล้วเสร็จที่โรงงาน จากนั้นแล้วนำมาประกอบที่หน้างานโดยใช้ระบบ Modular โดยระหว่างการผลิตจะมีระบบตรวจสอบคุณภาพในโรงงานด้วยหุ่นยนต์ และเมื่อประกอบกับเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยทำให้มั่นใจได้ว่าบ้านที่ผลิตออกมานั้นจะสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ และเสียงรบกวนจากภายนอก
โดยข้อดีของการก่อสร้างบ้านในระบบนี้ อยู่ที่การมีโครงสร้างที่แข็งแรง ระบบการดูแลรักษาที่ง่าย มีการรับประกันและบริการตรวจเช็คสภาพบ้านฟรีทุกหลังตลอด 20 ปี
“มาตรฐานงานบริการ” บ้านเอสซีจี ไฮม์ ให้บริการแบบครบวงจรกับลูกค้า ตั้งแต่เดินเข้ามาติดต่อจนถึงพร้อมเข้าอยู่ ด้วย 7 ขั้นตอนการทำงานที่เป็นมาตรฐานมืออาชีพ ได้แก่
- ออกแบบบ้าน
- เตรียมพื้นที่ก่อสร้าง
- ผลิตโครงสร้างบ้านในโรงงาน
- ทำฐานรากและระบบใต้บ้าน
- ยกตั้งบ้านและติดตั้ง
- งานวัสดุและพื้นผิว (งานอาคารประกอบและงานตกแต่งภายใน)
- ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนส่งมอบ
แบบบ้าน HARMONY 930 A บ้าน 2 ชั้น สไตล์ CONTEMPORARY สำหรับครอบครัวขนาดกลาง ออกแบบให้ดูเรียบง่ายแต่สง่างาม ทุก ๆ ห้องสามารถรับวิวรอบบ้านได้ผ่านหน้าต่างขนาดใหญ่ มีการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า มีชานนอกบ้าน สำหรับพักผ่อนของคนในครอบครัวทั้งชั้น 1 และชั้น 2
ตอกย้ำแบรนด์ผู้นำนวัตกรรมสร้างบ้าน
สำหรับ 3 แบบบ้านที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ได้แก่
- ULTIMATE 4-1 B (ภาพปก) พื้นที่ใช้สอย 449.6 ตร.ม. (ตารางเมตร) โดดเด่นด้วย Double volume ขนาดใหญ่ ทำให้ภายในโปร่ง โล่ง รู้สึกสบาย ทุกห้องจัดวางพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน ครบครันทุกการใช้งาน ราคา 24.3 ล้านบาท
- HARMONY 930 A บ้าน 2 ชั้น สไตล์ CONTEMPORARY พื้นที่ใช้สอย 298.4 ตร.ม. สำหรับครอบครัวขนาดกลาง ออกแบบให้ดูเรียบง่ายแต่สง่างาม ราคา 14.7 ล้านบาท
- HARMONY 630 E พื้นที่ใช้สอย 351.0 ตร.ม.บ้านสไตล์ NATURE โดดเด่นด้วยการเลือกใช้วัสดุที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง รู้สึกสบายของผู้อยู่อาศัย ราคา 17.9 ล้านบาท
จากประสบการณ์กว่า 13 ปี เอสซีจี ไฮม์ สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านการพัฒนาด้านคุณภาพงานก่อสร้างและบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับเทรนด์พฤติกรรมการอยู่อาศัย-ใช้ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป
“เอสซีจี ไฮม์ ขอเป็นตัวเลือกแรกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้ากลุ่มครอบครัวใน 74 จังหวัดทั่วประเทศ ที่กำลังมองหาบ้านแนวราบหลังใหม่ และ สร้างบ้านหลังใหม่บนที่ดินเดิม หรือ รีบิลด์ ซึ่งจนถึงวันนี้เราได้ส่งมอบบ้านคุณภาพให้กับลูกค้ามากกว่า 1,200 ครอบครัว” นายวีระเดช กล่าว
ทั้งนี้ เอสซีจี ไฮม์ ได้เปิดกลยุทธ์เพิ่มเพื่อการอยู่อาศัยส่ง 4 แบบบ้านใหม่ชูนวัตกรรมบ้านแห่งอนาคต ULTIMATE Series ทั้งบ้านแบบชั้นเดียว และสองชั้น พร้อมโซลูชั่นเพื่อการอยู่อาศัยยุคใหม่ที่ครบเรื่องนวัตกรรมและสุขภาพ ตอบโจทย์ Work From Home และชีวิตช่วง Post Pandemic ที่ทันสมัยใส่ใจสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในยุค New Normal ได้มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยแห่งอนาคตในทุกมิติโดยใช้ระบบโมดูล่าร์ (Modular) ที่แข็งแรงและทันสมัย
บ้านรุ่น ULTIMATE Series ภาพบ้านจริง (ภาพสถานะงานก่อสร้าง : 90%) โดดเด่นด้วยผนังภายนอกและหลังคาที่กรุด้วยเซรามิคทั้งหลัง ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมตอบโจทย์การพักผ่อน ด้วยระบบการป้องกันเสียงและฝุ่นจากภายนอก Window and Door System ที่มาพร้อมกระจกนิรภัยหนาถึง 17.76 มิลิเมตร
รวมถึงได้พัฒนาระบบต่างๆ เพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นของผู้อยู่อาศัยยุคใหม่ที่ใช้เวลาทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home มากขึ้นโดยได้พัฒนา 4 แบบบ้านใหม่รุ่น ULTIMATE Series ทั้งบ้านแบบชั้นเดียว และสองชั้นขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 346.8 ตารางเมตรขึ้นไป ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 14.9 – 17.5 ล้านบาท เจาะกลุ่มคนที่ต้องการสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง และสร้างบ้านบนที่ดินเดิม พร้อมฟังก์ชั่นดีไซน์พื้นที่ทำงาน รองรับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ที่คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น
มั่นใจได้ว่า ทุกชีวิตในบ้านเอสซีจี ไฮม์จะมีความสุขตลอดการอยู่อาศัย ด้วยนโยบายการสร้างบ้านด้วย SCG HEIM System ระบบการสร้างบ้านที่ปฏิวัติการก่อสร้างบ้านของเมืองไทย
โดยในแต่ละแบบบ้านที่มีความสวยงามและทันสมัยแล้ว เอสซีจี ไฮม์ ยังคงเน้นการใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์การอยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน อาทิ เทคโนโลยีกรองอากาศภายในบ้านที่สามารถช่วยลดปริมาณเชื้อรา สารฟอร์มาลดีไฮด์ ไวรัส และสารก่อภูมิแพ้ที่เกิดจากไรฝุ่นในอากาศก่อนนำเข้าสู่ภายในบ้านทำให้อากาศภายในบ้านสะอาดยิ่งขึ้น ตลอดจนการป้องกันเสียงจากภายนอก ทั้งนี้การออกแบบบ้านจะมีการเพิ่มฟังก์ชั่นรองรับไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัวด้วยพื้นที่ Semi-outdoor เชื่อมต่อในบ้านกับนอกบ้านและเปิดรับแสงธรรมชาติเหมาะสําหรับมุมนั่งพักผ่อน หรือพื้นที่ทำงาน นอกจากนั้นการใช้กระจกจะช่วยให้บ้านดูโปร่ง เรียบหรูมากยิ่งขึ้น ภายในบ้านเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยการแยกส่วนอยู่อาศัยและส่วนใช้งานร่วมกันได้อย่างลงตัว รวมถึงการออกแบบพื้นที่เชื่อมต่อระเบียง (Terrace) ไว้พักสายตาไปยังสวนด้านนอกอีกด้วย
ทั้งนี้จากประสบการณ์อันยาวนานกว่า 100 ปี ที่ SCG ได้ผลิตวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงและรักษามาตรฐานตลอดมา จึงได้ผสานความร่วมมือกับ บจก. เซกิซุย เคมิคอล ผู้ชำนาญด้านเทคโนโลยีการสร้างบ้านจากญี่ปุ่น ที่ก้าวล้ำด้วยการใช้หุ่นยนต์ประกอบบ้านในโรงงานควบคู่กับการรักษามาตรฐานคุณภาพการสร้างบ้านระบบโมดูล่าร์และคุณภาพการบริการหลังส่งมอบบ้าน มั่นใจได้ว่า ทุกชีวิตในบ้านเอสซีจี ไฮม์จะมีความสุขตลอดการอยู่อาศัย ด้วยนโยบายการสร้างบ้านด้วย SCG HEIM System ระบบการสร้างบ้านที่ปฏิวัติการก่อสร้างบ้านของเมืองไทย ด้วยการผลิตด้วยหุ่นยนต์ภายในโรงงาน ปิดช่องว่างทุกรอยต่อทุกส่วนของบ้าน ทั้งประตู หน้าต่าง และผนังด้วย Seal คุณภาพสูง และควบคุมคุณภาพก่อนนำมาติดตั้งบนพื้นที่จริง จนได้บ้านที่สมบูรณ์แบบทุกรายละเอียด
โดยการออกแบบ และก่อสร้างบ้านของ เอสซีจี ไฮม์ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีทั้งด้านสุขภาพจากการอยู่อาศัยในบ้านที่ให้อากาศบริสุทธิ์ บรรยากาศเงียบสงบ และความปลอดภัยไร้กังวลตั้งแต่คิดจะมีบ้านกับเอสซีจี ไฮม์จนถึงการก่อสร้าง การอยู่อาศัย และการดูแลตลอดไปจากรุ่นสู่รุ่น โดยปัจจุบัน เอสซีจี ไฮม์ ให้บริการรับสร้างบ้านแบบครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยจากประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย การขออนุญาตก่อสร้าง ออกแบบบ้าน ก่อสร้าง ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพงาน งานตกแต่งภายในและส่วนครัว รวมถึงบริการหลังการขาย ซึ่งเปิดให้บริการครอบคลุมใน 74 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึง กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ทั้งนี้โครงสร้างของบ้าน เอสซีจี ไฮม์ ทั้งหลังจะมีทั้งความแข็งแรงและความยืดหยุ่นสูง สามารถทนแรงดึงได้ถึง 4,000 กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร และผ่านการเชื่อมโดยหุ่นยนต์ในโรงงาน จึงมั่นใจได้ในความแข็งแรงและทนทาน ซึ่งบ้านเอสซีจี ไฮม์ คือ หนึ่งเดียวในเมืองไทยที่เลือกใช้เหล็กเคลือบสารชนิดพิเศษ ZAM หากผิวเหล็กเกิดรอยที่อาจก่อให้เกิดสนิม สาร ZAM ซึ่งเคลือบบนพื้นผิวจะทำปฏิกิริยากับอากาศเพื่อสร้างเกราะขึ้นมาปกป้องเนื้อเหล็กภายใน ช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างเหล็ก จึงมีความแข็งแรงและทนทาน ชั่วลูกชั่วหลาน
การสร้างบ้านเอสซีจี ไฮม์ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดภัย สบายใจ อยู่ได้ถึงชั่วลูกชั่วหลาน เป็นบ้านในฝันของทุกคน หัวใจหลักคือการรวบรวมความต้องการของสมาชิกทุกคน ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิตในบ้านและวัสดุต่างๆที่ต้องการ นำมาพัฒนาเป็นแบบก่อสร้างและงานสถาปัตย์ที่ละเอียดและชัดเจน หมดปัญหาการนำวัสดุด้อยคุณภาพมาใช้ หรือทำงานผิดจากความต้องการ มั่นใจได้ว่าบ้านจะสร้างเสร็จตามระยะเวลาที่ตกลงกัน และงบไม่บานปลาย เพราะกว่า 80% ของโครงสร้างหลักจะทำในโรงงานด้วยหุ่นยนต์อัจฉริยะทันสมัย ด้วยเหล็ก SS400 ซึ่งเคลือบสาร ZAM มีประสิทธิภาพในการป้องกันสนิมดีกว่าสารป้องกันสนิมทั่วไป และถึงแม้ว่าเจ้าของบ้านจะไม่มีเวลาหรือไม่มีความรู้ความชำนาญในงานก่อสร้าง ก็จะได้บ้านที่มีคุณภาพดีตรงตามความต้องการ เพราะช่างทุกคนได้ผ่านการฝึกอบรมเป็นอย่างดี และมีทีมตรวจสอบคุณภาพงานอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน สมาชิกทุกคนในครอบครัวมั่นใจได้ว่า จะมีความสุข ความสบายใจในบ้านเอสซีจี ไฮม์ ซึ่งเป็นที่สุดของบ้านเพื่อคุณภาพการอยู่อาศัยตลอดไป