Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

Create an account

Fields marked with an asterisk (*) are required.
Name *
Username *
Password *
Verify password *
Email *
Verify email *
Captcha *
Reload Captcha
amatatanee-strip-Steel-Strip-Head

TSS เน้นเป้ากลุ่มสื่อสาร-พลังงาน

“บริษัท ไทย-สแกนดิค สตีล จำกัด” (TSS) ผู้นำระดับแนวหน้ารุกการพัฒนาเสาโครงเหล็กสำหรับเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาสื่อสารโทรคมนาคม ประกาศความพร้อมรองรับการเติบโตในธุรกิจพลังงานทางเลือกและการสื่อสารของไทย เร่งผลักดันอุตสาหกรรมไทยรองรับเศรษฐกิจยุค 4.0

แหล่งข่าว บริษัท ไทย-สแกนดิค สตีล หรือ (TSS) บริษัทในเครือ (BJC Group) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินงานก้าวสู่ปีที่ 30 โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรมพิธีทำบุญครบรอบ 28 ปี วันสถาปนาบริษัท และจัดกิจกรรม เช่น ร่วมทำบุญใส่บาตร พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และ พิธีมอบประกาศเกียรติพนักงานปฏิบัติงานครบ 10 ปี. ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจออกแบบ ผลิตและชุบสังกะสี โครงสร้างเหล็กเพื่อใช้กับเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมทั่วไป จนได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

 

โดยบริษัทฯมีโรงงานตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงในการเขียนและออกแบบ รวมถึงการนำหุ่นยนต์สำหรับงานเชื่อมมาช่วยในการผลิต และติดตั้งเครื่องจักรที่ควบคุมการทำงานด้วยสมองกล (Computer Numercial Control – CNC) จึงทำให้โครงสร้างที่ออกแบบมีคุณภาพสูง ลดต้นทุนการผลิต และสามารถตอบความต้องการลูกค้าได้เป็นอย่างดี จนได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก ด้วยกำลังการผลิตกว่า 25,000 ตันต่อปี ยอดขายกว่า 300,000 ตัน

ด้วยความต้องการของลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมและกลุ่มไฟฟ้าที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากโครงการของภาครัฐและเอกชน ส่งผลให้บริษัทฯ พัฒนากำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

รวมถึงรองรับธุรกิจด้านพลังงานทางเลือก (Solar Roof) ของบริษัทฯ ที่ถือเป็นธุรกิจใหม่ซึ่งได้ลงทุนและได้รับการยอมรับจากลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นอย่างดี

บริษัท ไทย-สแกนดิค สตีล หรือ ทีเอสเอส เป็นบริษัทในเครือกลุ่มบริษัทเบอร์ลี่ยุคเกอร์ ดำเนินธุรกิจด้านเหล็กโครงสร้างการ์วาไนซ์ เสาส่งไฟฟ้า เสาการสื่อสารโทรศัพท์ สถานีพลังงานขนาดย่อยและโครงสร้างอุตสาหกรรมทั่วไป ด้วยการผลิตระดับมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 และ ISO 14001 : 2015 เป็นมาตรฐานสากลระดับโลกด้านการบริหารจัดการและด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการบริหารการจัดการเกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัท อีกทั้งบริษัทยังให้ความสำคัญยิ่งต่อสิ่งแวดล้อมที่อยู่ทั้งภายในและภายนอกโรงงานอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ คือเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงงานก่อสร้างสถานีย่อยต่างๆ โดยมีลูกค้าหลักคือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯได้ส่งมอบงานเพื่อพัฒนาโครงการสายส่งไฟฟ้าเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยและประเทศเพื่อนบ้านมาอย่างต่อเนื่อง และจากการทาง กฟผ.ขอโฟกัสการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่และระบบสายส่งไฟฟ้าช่วง 10 ปีแรก ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ (PDP2018) ซึ่งโครงการดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับอานิสงส์สำหรับการใช้เสาส่งไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์เสาสื่อสารโทรคมนาคม และงานก่อสร้างโครงการต่างๆ อีกด้วย

โดยนายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า การลงทุนของกฟผ.ตามแผน PDP2018 ส่วนใหญ่จะเป็นโรงไฟฟ้าหลักในแต่ละภูมิภาคที่ตามแผนแบ่งออกเป็น 7 ภาค โดยเน้นการรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้า ซึ่งในช่วง 10 ปีแรกของแผน(2561-2570) ถือว่ามีความชัดเจนว่า กฟผ.จะต้องลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า จำนวน 8 โรง กำลังการผลิตรวมประมาณ 5,400 เมกะวัตต์  ประเมินเบื้องต้นจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 3 แสนล้านบาท  และการลงทุนระบบสายส่งอีกประมาณ3แสนล้านบาท รวมเป็นเงินลงทุนประมาณ 6 แสนล้านบาท

 

โครงการลงทุนโรงไฟฟ้าโรงใหม่ของกฟผ. จะเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ยกเว้นโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่จะใช้ลิกไนต์ และจะต้องอยู่ในพื้นที่โรงไฟฟ้าเดิม เช่น โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้าบางปะกง  โรงไฟฟ้าน้ำพอง  ส่วนโรงไฟฟ้าก๊าซที่สุราษฏร์ธานี นั้น กำลังดูในรายละเอียดว่าจะมีการซื้อพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับการเตรียมความพร้อมด้านการเงินนั้น กฟผ.กำลังพิจารณาในหลายๆรูปแบบเพื่อหาเครื่องมือหรือนวัตกรรมทางการเงินสมัยใหม่ ที่เหมาะสม มาใช้ในการลงทุน  เพื่อให้มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ

นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า การลงทุนตามแผน PDP2018 ในช่วง 10 ปีแรก จะทำให้สัดส่วนการผลิตของกฟผ. ลดลง เหลือประมาณ 31% จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 35% โดยในช่วง 10 ปี หลังของแผน ที่จะมีโรงไฟฟ้าใหม่เข้าระบบ จะต้องรอการกำหนดนโยบายจากกระทรวงพลังงาน ว่าจะให้ กฟผ. เป็นผู้ลงทุนในโรงไฟฟ้าโรงใดอีก ซึ่งหากรัฐให้เอกชน ลงทุนแทนกฟผ.ทั้งหมด  สัดส่วนกำลังการผลิตของกฟผ  ก็จะลดลงเหลือประมาณ 24% ในปี 2580

“แผน PDP2018 ยังจะต้องมีการทบทวนปรับปรุงใหม่ ทุกๆ 5 ปี จึงอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์  ดังนั้นการเตรียมความพร้อมจึงเน้นไปที่ช่วง 10 ปีแรกของแผนซึ่งค่อนข้างจะมีความชัดเจน โดย สัดส่วนกำลังการผลิต ของกฟผ.ที่จะลดเหลือประมาณ 31% จาก 35% ในปัจจุบัน ก็ยังถือว่าเพียงพอสำหรับการดูแลภาพรวมการรักษาความมั่นคงไฟฟ้าของประเทศ” นายวิบูลย์ กล่าว


Rate this item
(1 Vote)
Last modified on Thursday, 09 January 2020 05:20
กำจัด ชื่นคชลักษณ์

Author : เกาะติดทุกข่าวในอุตสาหกรรมก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ สถาปัตยกรรม ออกแบบตกแต่ง วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง อาคารเขียว  วิศวกรรม กฏหมายก่อสร้าง ข่าวสถาปนิก ฯลฯ

Related items

Leave a comment

Make sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.


  

Tweet Feed

Post Gallery

ESC ปิดหีบสำเร็จตามเป้า มุ่งรณรงค์ลดการเผาอ้อย ชูแนวคิด Full Integrated System เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

Zoomlion ประเทศไทยฉลองครบรอบ 9 ปี เปิดตัวศูนย์บริการสาขานครสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่!

ซีพี ติดอันดับความยั่งยืนโลก ระดับ “Top 5 %” จาก S&P Global ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ชูจุดเด่นเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

STEC ปรับกลยุทธ์ “Move To The Next Chapter” มุ่งพัฒนาต่อยอด New S-Curve เน้น Backlog แสนล้าน วางนโยบายองค์กร ตอบแทนสังคม มอบอาคารชาญวีรกูลที่ 71

Thaifoods Fresh Market โตสวนกระแส ครบ 350 สาขาตามเป้า, TFG จับมือ CooperL ตั้ง TFNG ดำเนินธุรกิจฟาร์มสุกรปู่ทวดพันธุ์ ด้วยงบลงทุนกว่า 746 ล้านบาท

TTA ต่อยอดธุรกิจขนส่งทางเรือ เข้าถือหุ้น 100% "ไทแทน แทงเกอร์" รุกธุรกิจผลิตน้ำมันดิบ เข้าถือหุ้น 10.14% "แวลูร่า เอ็นเนอร์ยี่" Q3/66 กำไร 374.8 ล้านบาท

AWC เผย Q3 ลงทุน 1 หมื่นล้าน กำไรพุ่ง 1.13 พันล้าน เชื่อมั่นพลังขับเคลื่อนความยั่งยืนกับพันธมิตรทุกภาคส่วน ร่วมสร้างไทยให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก

โครงการการพัฒนาระบบควบคุมการยิงเพื่อการดำรงสภาพยุทโรปกรณ์ ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ขนาด 40 มิลลิเมตร แอล 70

Double A เผยกำไรโตต่อเนื่อง 3 ไตรมาสแรก พุ่งขึ้นกว่า 2.5 เท่า เดินหน้าสู่ Net Zero ด้วย ESG ในปี 2050 วางโรดแมป ขับเคลื่อนธุรกิจ ลดโลกร้อน สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM