สินค้าอาหารไทย พุ่งเป้าสู่อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต อินฟอร์มา เผยกุญแจสำคัญ ต้องใช้นวัตกรรม-เทคโนโลยีพัฒนาสินค้าอาหาร สร้างมูลค่าส่งออกเพิ่มถึง 20-30% เผยข่าวดี ProPak Asia 2025 จับมือบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีอาหารแห่งอนาคตทั่วโลกร่วมโชว์
แนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารโลกเปลี่ยน ผู้บริโภคเน้นอาหารคุณค่าโภชนาการสูง ดีต่อสุขภาพ ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้าน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทยผู้จัดงาน ProPak Asia 2025 เผยผู้ผลิตสินค้าอาหารไทยพร้อมปรับตัวรับเทรนด์ใหม่ ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าสินค้าอาหารส่งออกไทยได้ 20-30% พร้อมรับการเติบโตปี 2570 ที่คาดว่าสินค้าอาหารแห่งอนาคตจะมีมูลค่าแตะ 500,000 ล้านบาท ชี้นวัตกรรมและเทคโนโลยีอาหารเป็นกุญแจสำคัญ ล่าสุดเผยข่าวดีจับมือบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีอาหารแห่งอนาคตทั่วโลกร่วมโชว์กว่า 2,000 ราย จาก 42 ประเทศ

นางสาวกชสร โตเจริญธนาผล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน ProPak Asia 2025 กล่าวถึง การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยสู่อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต (Future Food Industry) ว่า ไทยเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าอาหารสำคัญของโลก อุตสาหกรรมอาหารมีสัดส่วนถึง 24.6% ของ GDPข้อมูลจากสถาบันอาหาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่าการส่งออกสินค้าอาหารไทยปี 2567 มีมูลค่าถึง 1,638,445 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนสินค้าอาหารที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว อาหารสัตว์เลี้ยง ปลาทูน่ากระป๋อง ซอส-เครื่องปรุงรส อาหารพร้อมทาน และผลิตภัณฑ์มะพร้าว ซึ่งจากข้อมูลจะเห็นว่าสินค้าอาหารส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโภคภัณฑ์ หรือ แปรรูปขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้นหากต้องการพัฒนาคุณภาพ เพิ่มมูลค่า และสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับสินค้าอาหารไทย ก็ต้องก้าวสู่อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต โดยมีกุญแจสำคัญ คือ นวัตกรรมและเทคโนโลยีอาหาร (Food Innovation & Technology)
ทั้งยังเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการอาหารและผู้ผลิตอาหารทางเลือก ผู้ผลิตวัตถุดิบ นักวิจัย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี นักลงทุนและสตาร์ทอัพด้าน FoodTech ได้มีการสร้างเครือข่ายใหม่ ๆ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือและเพิ่มโอกาสเข้าถึงนักลงทุนและบริษัทอาหารที่สนใจในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต

อุตสาหกรรมแห่งอนาคตนั้น นอกจากตอบสนองผู้บริโภคที่ต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพแล้ว ต้องเพียงพอต่อประชากรโลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วย ปัจจุบันสัดส่วนของกลุ่มอาหารแห่งอนาคตไทยมีเพียง11% ของมูลค่าการส่งออกอาหารทั้งหมด ซึ่งหากนำนวัตกรรมมาพัฒนาแปรรูปจะสร้างมูลค่าการส่งออกอาหารได้เพิ่มถึง 20-30% โดยในปี 2570 คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารแห่งอนาคตของไทยจะมีมูลค่าถึง 500,000 ล้านบาท สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารแห่งอนาคตของไทยปัจจุบัน แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ อาหารโปรตีนทางเลือก (Alternative Protein) เช่น เนื้อจากพืชและโปรตีนจากแมลง อาหารเพื่อสุขภาพและชะลอวัย (Functional & Medical Food) เช่น อาหารเสริมโปรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ อาหารสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วย อาหารบำรุงสมองและภูมิคุ้มกัน อาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Sustainable & Upcycled Food) เช่น อาหารจากโปรตีนสาหร่ายและจุลินทรีย์ อาหารจากวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตร อาหารที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Food Tech & Smart Food) เช่น อาหารที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
โดยในงาน ProPak Asia 2025 ครั้งนี้ ได้ยกอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตมาเป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเจ้าของนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการผลิตที่ทันสมัยจากทั่วโลกมาร่วมจัดแสดงกว่า 2,000 ราย จาก 42 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีแปรรูปและการผลิตอาหาร (ProcessingTechAsia) เครื่องจักรอัตโนมัติ หุ่นยนต์ช่วยผลิต (Food Robotics) AI & IoT สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน (PackagingTechAsia) บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล Smart Packaging โซลูชันด้านความปลอดภัยอาหาร Lab&TestAsia) ระบบตรวจสอบคุณภาพอาหาร พร้อมเปิด Future Food Corner ที่จะนำเสนอแนวโน้มและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโซลูชันที่เป็นตัวกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต ทั้งยังเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการอาหารและผู้ผลิตอาหารทางเลือก ผู้ผลิตวัตถุดิบ นักวิจัย ผู้พัฒนาเทคโนโลยี นักลงทุนและสตาร์ทอัพด้าน FoodTech ได้มีการสร้างเครือข่ายใหม่ ๆ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือและเพิ่มโอกาสเข้าถึงนักลงทุนและบริษัทอาหารที่สนใจในอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต รวมถึงตลาดต่างประเทศในการขยายการส่งออกสินค้าอาหารอีกด้วย

ด้านนายเชษฐ เมฆทวีกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มที ฟู๊ด ซิสเทมส์ จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องจักรในอุตสาหกรรมอาหารจากสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ฯลฯ สำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร เนื้อสัตว์แปรรูป อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม และอาหารสัตว์เลี้ยง กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว อย่างการใช้ระบบ Automation ทำให้กระบวนการผลิตดีขึ้น หรือระบบสนับสนุน Smart Factory 4.0 เช่น การเข้าถึงข้อมูลเครื่องจักร กระบวนการผลิต ทำให้ผู้ผลิตเข้าถึงข้อมูลและนำไปใช้ได้ต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งนอกจากทางบริษัทฯ จะมีการนำเข้าเทคโนโลยีเครื่องจักรใหม่ๆ มานำเสนอแก่ลูกค้าเพื่อปรับปรุงการผลิตแล้ว ยังมีการขยายธุรกิจไปในด้าน R&D สำหรับ automation รวมถึง Ai เพื่อรองรับตลาดในอนาคตต้องการลดต้นทุน การปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานในสายธุรกิจอาหาร ส่วนมุมมองต่อการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตนั้น จำเป็นต้องนำข้อมูลด้านต่างๆ มาช่วยวิเคราะห์ ตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นในการผลิตจนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจถึงแนวโน้มของตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ
สำหรับการร่วมจัดแสดงงานกับ ProPak Asia 2025 นั้น นอกจากจะนำเครื่องจักรที่ทันสมัยมาแสดงเพื่อให้เห็นว่ามีประเภทใดบ้างที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ได้ร่วมงานกันและเป็นโอกาสดีในการได้พบปะพูดคุยต่อยอดธุรกิจกับลูกค้าใหม่ โดยในแต่ละครั้งที่ได้ร่วมงาน ProPak Asia ล้วนได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งลูกค้าและได้ซัพพลายเออร์ใหม่ๆ

ด้านนายนายอัคเซล อาร์ราส ประธาน บริษัท เอฟพีที ฟู้ด โพรเซสส์ เทคโนโลจี จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการผลิตอาหาร เทคโนโลยีการแปรรูป เครื่องจักร วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและโซลูชันที่ครบวงจรสำหรับอุตสาหกรรมอาหารตั้งแต่ฟาร์มจนถึงโต๊ะอาหาร กล่าวว่า แนวโน้มของอุตสาหกรรมอาหารนอกจากจะมุ่งเน้นไปสู่ความยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและความปลอดภัยทางอาหารแล้ว การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งอานาคต เป็นเป้าหมายของอุตสาหกรรมอาหารยุคใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา การนำโซลูชันและเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต การใช้ AI มาวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานและปรับปรุงประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางอาหาร การตรวจสอบย้อนกลับและความยั่งยืนในการยกระดับมาตรฐาน คุณภาพและเพิ่มมูลค่าสินค้าอาหารให้เป็นที่ต้องการของตลาดโลก
โดยในส่วนของการพัฒนานวัตกรรมของบริษัทฯ นั้น ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เช่น ระบบติดตามแบบไร้กระดาษ i-box RFID ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดของเสียและรักษาคุณภาพอาหาร ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำไปใช้ทั้งในอุตสาหกรรมการแปรรูปเนื้อสัตว์ การผลิตนมและการผลิตอาหาร นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังได้ลงทุนในศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ทันสมัยในสิงคโปร์ ในการพัฒนาอาหารแห่งอนาคตร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารของเราจากสถาบัน Temasek ซึ่งผลจากการลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจอาหารไทย ในขณะเดียวกันก็มีส่วนร่วมในระบบอาหารที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับอนาคต ส่วนการร่วมจัดแสดงงานกับ ProPak Asia 2025 นั้น ทางบริษัทฯ ได้นำเครื่องสไลซ์ที่ทันสมัยที่สุดจาก Weber ประเทศเยอรมนี มาร่วมเป็นไฮไลท์ในการจัดแสดง พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์กับทั้งลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงติดตามแนวโน้มและนวัตกรรมล่าสุดในอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหารอีกด้วย
งาน ProPak Asia 2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ผู้สนใจรายละเอียดการจัดงานและต้องการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าชมงาน ProPak Asia 2025 สามารถลงทะเบียนได้ที่www.propakasia.com