IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | [email protected]
นายพีรยศ รุจิเทศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเจน เอนจิเนีย ริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของบริษัท มิลล์คอนสตีล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการลงนามในสัญญาร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการว่าจ้างให้บริษัทก่อสร้างปรับปรุงโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน บริเวณหาดป่าตอง ภูเก็ต มูลค่า 199 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยนายสุภาพ กสิวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบำรุงรักษา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 ภาคใต้ กล่าวว่า “ปัญหาในเรื่องสายสื่อสารที่ยังไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเท่าที่ควรนับว่าเป็นปัญหาระดับชาติ และนอกจากนี้ยังเป็นเรื่องกล่าวขานกันในระดับโลกถึงความยุ่งเหยิงของสายสื่อสารต่างๆในประเทศไทย
ที่ผ่านมาทาง กฟภ. เขต 2 นครศรีธรรมราช ได้มีการแก้ไขปัญหามาแล้วหลายครั้ง หลายรูปแบบ ตั้งแต่ปี 2555 เช่นการรวบ-รัด-มัดสาย แต่ก็ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ วันนี้จึงถึงเวลากับการแก้ไขปัญหาที่เข้มข้นขึ้นเพื่อความยั่งยืน
นายวีรชัย หวังปัญญา หัวหน้าแผนกจัดระเบียบสายสื่อสาร กฟภ.สำนักงานใหญ่ กล่าวว่า “จากการสำรวจสายสื่อสารที่มีทั้งหมดในประเทศ พบว่ามีเส้นทางที่จัดเป็นเส้นทางวิกฤติที่ขึ้นบัญชีไว้กับ กสทช. อยู่ 219 เส้นทาง โดยวัดจากเส้นผ่าศูนย์กลางของจำนวนสายไฟเมื่อนับรวมกันทั้งหมดต่อเสาไฟฟ้า 1 ต้น ซึ่งเส้นทางที่มีความหนาแน่นที่สุดอยู่ในพื้นที่พัทยา ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางรวมกันทั้งหมดกว่า 1,000 มิลลิเมตร โดยระเบียบนั้นกำหนดไม่ให้เกิน 300 มิลลิเมตร และในแผนงานจะคัดเลือกเส้นทางทั้งหมด 24 เส้นจาก 12 เขต ในการแก้ไขปัญหา โดย 1 ในนั้นมีเส้นทางในจังหวัดภูเก็ตด้วย คือเส้นทางจากแยกไสน้ำเย็น-นาในร่วมใจ รวมระยะทางทั้งสิ้น 1.2 กิโลเมตร”
“ในการแก้ไขปัญหานี้ ผู้ประกอบการต่างๆจะต้องลดขนาดและจำนวนของสายสื่อสารลงให้เป็นไปตามมาตรฐานของกฟภ.โดยมาตรฐานนั้นจะแตกต่างกันไป ซึ่งตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่าเสาไฟฟ้า 1 เสาควรมีสายสื่อสารอยู่กี่เส้นเพราะขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของเสาไฟฟ้าภายในพื้นที่ซึ่งมีหลากหลายประเภทต่างกัน โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการเองทั้งหมด ทางกฟภ.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ”
ทั้งนี้ยังกล่าวถึงกรณีการตัดสายสื่อสารต่างๆเนื่องจากรกเสาไฟฟ้าของประเทศว่า “มาตรการการตัดสายสื่อสารทิ้งเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะทำถ้าหากว่าสายสายนั้นเป็นสายที่สร้างปัญหา ความจริงแล้ว สายสื่อสารสมัยใหม่ที่ถูกผลิตขึ้นมานั้นมีเทคโนโลยีในการพิมพ์ชื่อสังกัดหน่วยงานเจ้าของสายนั้นๆอยู่แล้วมาเป็นของหน่วยงานใด ถ้าหากว่ามีสายสื่อสารใดที่ไม่มีชื่อหน่วยงานปรากฏและสายนั้นสร้างปัญหาอยู่ เช่นสายนั้นเป็นสายที่พาดผ่านถนนและสร้างการกีดขวาง หรืออยู่ในเส้นทางที่อยู่ในแผนงานการแก้ไขปัญหาและไม่มาปรากฏตัวแสดงความเป็นเจ้าของและดำเนินการแก้ไขปัญหา กฟภ.ก็จำเป็นต้องทำการตัดออกแต่จะให้เป็นมาตรการสุดท้าย ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยเองได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบสายสื่อสารที่พาดผ่านเสาไฟฟ้านี้ด้ว”
“อย่างไรก็ตาม กฟภ.ยืนยันว่าการแก้ปัญหาครั้งนี้จะดำเนินการให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด”
ทางด้านนายวัชรินทร์ ประภา (แถวหน้าคนซ้าย) ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ป่าตอง กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบครั้งนี้ว่า “กฟภ.ป่าตองได้คัดเลือกเส้นทาง ซอยไสน้ำเย็น-ซอยนาในร่วมใจ ให้เป็นเส้นทางในการจัดระเบียบเนื่องจากป่าตองเป็นพื้นที่ที่รองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่การท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งมองจากจุดยุทธศาสตร์แล้ว ถนนทวีวงษ์ (ถนนเส้นหน้าหาดป่าตอง) เป็นจุดที่สำคัญที่สุดของพื้นที่ป่าตอง จึงดำเนินการจัดระเบียบด้วยการนำสายไฟทั้งหมดลงใต้ดิน (underground) จุดสำคัญรองลงมาคือเส้นทางซอยใสน้ำเย็น-ซอยนาในร่วมใจ จึงเลือกให้เป็นเส้นทางในการแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบครั้งนี้”