IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่ ยามาฮ่า ฉลองครบรอบ 65 ปี ผลิตภัณฑ์ยานยนต์แบรนด์ยามาฮ่าทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยในปี 2563 บริษัทฯมีแนวโน้มทางการตลาดที่เติบโตขึ้นจากธุรกิจรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก พิกัดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 125 ซีซี ไปจนถึงขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 400 ซีซี ถึงแม้จะมีการระบาดของเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก
แต่ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ได้ปรับตัวและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อย่าง All New YAMAHA NMAX 155 และ All New YAMAHA WR155R ที่สร้างความนิยมได้ในเวลาอันรวดเร็ว
รวมถึงธุรกิจยานยนต์ทางน้ำ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ “WAVERUNNER” และ “Outboard Motor” ที่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 84% จากคุณภาพของสินค้าที่ได้รับการยอมรับ รวมถึงการบริการหลังการขาย และการบริการนอกสถานที่ สร้างฐานลูกค้าให้กับแบรนด์ยามาฮ่าที่อยู่คู่กับวงการยานยนต์ยาวนานมามากกว่าครึ่งศตวรรษอย่างไรก็ตาม อีกธุรกิจของ ยามาฮ่า คือ ธุรกิจยานยนต์ทางน้ำ ซึ่งประกอบด้วย YAMAHA WAVERUNNER และ Outboard Motor ที่มีสัดส่วนรายได้น้อยกว่า 10% ของธุรกิจ ยามาฮ่า ทั้งหมด แต่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 84% ซึ่งยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่รบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากปริมาณนักท่องเที่ยวที่ลดลงเหลือราว 8 ล้านคน ในปีนี้ จากเดิมที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณอยู่ที่ 40 ล้านคน
โดยล่าสุด ได้แนะนำ YAMAHA WAVERUNNER FX CRUISER HO Luxury Performance ที่มีความหรูระดับพรีเมียมและความสบายสำหรับการขับขี่ ขุมพลัง 1,812 ซีซี ออกแบบตัวถังด้วย NanoXcel 2 เทคโนโลยี พร้อมกับระบบ RiDE รุ่นใหม่ ง่ายต่อการควบคุม ราคา 549,000 บาทและ YAMAHA WAVERUNNER รุ่น VX-C ประหยัดน้ำมันมากที่สุดในโลกที่ ด้วยเทคโนโลยี่ใหม่ล่าสุด TR-1 Engine คือเครื่องยนต์ 3 สูบ 1,049 ซีซี น้ำมันถังเดียวสามารถทำระยะทางบนน้ำเรียบได้มากกว่า 200 กิโลเมตร ราคา 349,000 บาท
โดยในปัจจุบันธุรกิจยานยนต์ของยามาฮ่าประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก, รถจักรยานยนต์นำเข้าขนาดเครื่องยนต์มากกว่า 400 ซีซี, รถกอล์ฟไฟฟ้า และยานยนต์ทางน้ำ ซึ่งในภาพรวมธุรกิจยานยนต์ของยามาฮ่ากำลังเติบโตขึ้นเป็นอย่างดีทั้งในประเทศไทยและในตลาดโลก ได้รับการยอมรับในคุณภาพของสินค้า รวมถึงการบริการหลังการขาย และกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ซึ่งล่าสุดได้ออกแคมเปญฉลองครบรอบ 65 ปี ด้วยการรับประกันรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ขนาดไม่เกิน 300 ซีซี เป็นเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความทนทานของรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า โดยยามาฮ่า ประเทศไทย เป็น รายแรก และรายเดียวในขณะนี้ที่กล้าให้การรับประกันนานขนาดนี้
นายพงศธร กล่าวต่อว่า ส่วนผลกระทบจากโควิด-19 ที่ส่งผลต่อตลาดรวมรถจักรยานยนต์หดตัวลดลง จากเดิมที่บริษัทฯคาดการณ์ไว้ต้นปี 2563 ว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 1.72 ล้านคัน หรือเติบโตขึ้น 2% อย่างไรก็ตามมาถึงตอนนี้เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากรถจักรยานยนต์เป็นสินค้าจำเป็นอีกทั้งที่ผ่านมามีการเปลี่ยนงาน ย้ายถิ่นฐานที่อยู่อาศัย ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ส่งผลให้การขนส่งโลจิสติกส์ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก คาดว่าทั้งปียอดขายตลาดรวมรถจักรยานยนต์จะอยู่ที่ 1.52 ล้านคัน หรือหดตัวลง 11-12%
สําหรับยอดขายของยามาฮ่า ที่ต้นปีที่ผ่านมามียอดขายหดตัวน้อยกว่าตลาดรวม เป็นผลมาจากการที่บริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่น ให้อำนาจการตัดสินใจเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น และคล่องตัวโดยปรับกลยุทธ์การตลาด และการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า การสนับสนุนร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ด้วยการลดสต๊อกรถเพื่อผ่อนคลายความกังวล ไม่ต้องแบกสต๊อกไว้มากเกินไปพร้อมทั้งจัดกิจกรรมการตลาด ทั้งจากส่วนกลาง ด้วยแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ พร้อมทั้งร่วมกับร้านค้าตัวแทนจำหน่าย มุ่งเน้นเข้าถึงลูกค้าในแต่ล่ะท้องถิ่นให้มากขึ้น การทำการตลาดแบบออนไลน์ เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ในการเลือกดูรุ่นรถดีลเลอร์หลายรายประสบความสำเร็จและจัดให้มีพนักงานทำงานเต็มเวลา เพื่อตอบคำถามลูกค้าออนไลน์โดยเฉพาะ
ส่งผลให้ในปี 2563 นี้ยามาฮ่าสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้เป็น 15.7% จากเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 15% หรือมียอดขาย 238,000 คัน ลดลงเล็กน้อยไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ที่มียอดขาย 259,000 คัน โดย ยอดขายส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มอัตโนมัติ 65% ครอบครัว 20% และสปอร์ตอีก 15% โดยปัจจัยบวก 5 ประการที่ส่งผลให้ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ฟื้นตัวเร็วภายหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก มีดังนี้ คือ 1.ประชาชนลดค่าใช้จ่ายการเดินทางชีวิตประจำวัน 2.ประชาชนย้ายถิ่นฐานอาศัย 3. มีสนับสนุนช่วยเหลือจากรัฐบาล 4.มีการเปลี่ยนอาชีพ และ 5. ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์เติบโต ซึ่งส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ปรับแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา โดยมีการวางแผนร่วมกันระหว่าง ฝ่ายผลิต, ฝ่ายขาย และ ฝ่ายการตลาด ในการคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภคของรถจักรยานยนต์รุ่นใด, สีใด และปรับคำสั่งผลิตชิ้นส่วนไปยัง ซัพพลายเออร์ และ ฝ่ายผลิตเพื่อปรับการผลิตให้เหมาะสม รวมถึงทำงานร่วมกับผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ในช่วงสถานการณ์การแพร่รบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการปรับลดสต๊อกเพื่อรักษาสภาพคล่องของกระแสเงินสดให้กับดีลเลอร์ โดยหลังจากนี้จะมีการปรับระบบการสั่งซื้อและการผลิตใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับการลดสต๊อกของดีลเลอร์ โดยเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตด้วยการลดเวลาการผลิตลง เพื่อตอบสนองความต้องการให้ลูกค้าอย่างมีมีประสิทธิภาพมากขึ้น