IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
ตามมาด้วยสถาบันบริหารธุรกิจนานาชาติจีน-ยุโรป (CEIBS) และสถาบันธุรกิจของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์
การจัดอันดับโรงเรียนธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกมีการพิจารณาคุณภาพและความครอบคลุมของหลักสูตรต่างๆ รวมถึงผลสัมฤทธิ์ของ 4 หลักสูตรหลัก (MBA, EMBA, MIM, EE Open & Custom) ทั้งในส่วนของหลักสูตรวิชาการและวิชาชีพในปี 2561 แต่ละหลักสูตรหลักมีสัดส่วนคะแนนอยู่ที่ 25% โดยหลักสูตรแบบเดี่ยวจะมีสัดส่วนคะแนน 100% ส่วนหลักสูตรแบบโครงการร่วมระหว่างสองสถาบันจะมีสัดส่วนคะแนน 50% สำหรับแต่ละสถาบัน
วิธีการจัดอันดับนี้ชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของโรงเรียนธุรกิจแต่ละแห่งได้อย่างชัดเจน ทั้งยังสามารถประเมินศักยภาพการให้ความรู้เชิงวิชาการและเชิงวิชาชีพของสถาบันต่างๆ ในระดับนานาชาติด้วย
ACEM เป็นโรงเรียนธุรกิจเพียงแห่งเดียวจากเอเชียแปซิฟิกที่ติดโผในการจัดอันดับแบบเดี่ยว โดยในปี 2561 หลักสูตรหลักทั้ง 4 ของ ACEM ยังคงติด 40 อันดับแรกของโลก และ 10 อันดับแรกในเอเชียแปซิฟิก
-
การจัดอันดับหลักสูตร MBA ประกาศผลเมื่อเดือนมกราคม 2561:
หลักสูตร MBA ของ ACEM คว้าอันดับที่ 34 ของโลก และอันดับที่ 8 ในเอเชียแปซิฟิก ทั้งยังคว้าอันดับ 1 ของโลกในด้าน “อัตราการจ้างงาน” และ “การขึ้นเงินเดือน”
-
การจัดอันดับหลักสูตรการศึกษาสำหรับผู้บริหาร (EE) ประกาศผลเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561:
หลักสูตร EE ของ ACEM คว้าอันดับที่ 17 ของโลก ขณะที่โครงการพิเศษคว้าอันดับ 2 และโครงการเปิดคว้าอันดับ 1 ของเอเชียแปซิฟิก
-
การจัดอันดับหลักสูตรปริญญาโทด้านการบริหาร (MIM) ประกาศผลเมื่อเดือนกันยายน 2561:
หลักสูตร MIM ของ ACEM คว้าอันดับที่ 18 ของโลก และครองอันดับ 1 ในเอเชียแปซิฟิก และติด 50 อันดับแรกของโลกเป็นเวลาสิบปีติดต่อกัน ทั้งยังครองอันดับ 1 ของโลกในด้าน “อัตราการจ้างงาน” และ “การขึ้นเงินเดือน”
-
การจัดอันดับหลักสูตร EMBA ประกาศผลเมื่อเดือนตุลาคม 2561:
หลักสูตร EMBA ของ ACEM คว้าอันดับที่ 8 ของโลก และอันดับ 4 ในเอเชียแปซิฟิก และติด 10 อันดับแรกของโลกเป็นเวลาสี่ปีติดต่อกัน ทั้งยังครองอันดับ 1 ของโลกในด้าน “การขึ้นเงินเดือน”