Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

Create an account

Fields marked with an asterisk (*) are required.
Name *
Username *
Password *
Verify password *
Email *
Verify email *
Captcha *
Reload Captcha
AEC

Grab เปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศแห่งอาเซียนในมาเลเซีย

แกร็บ แพลตฟอร์มการให้บริการออนไลน์สู่ออฟไลน์ผ่านมือถือชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาค หรือ Regional Centre of Excellence (RCoE) แห่งใหม่ ภายในพื้นที่สำนักงานขนาด 54,000 ตารางฟุตที่ได้รับการต่อขยาย

  • ศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาค จะเป็นแหล่งรวมกลยุทธ์ธุรกิจหลักและฟังก์ชันการดำเนินการในด้านต่างๆ ของแกร็บ ซึ่งรวมถึง ข้อกฎหมาย ประสบการณ์ลูกค้า บริการทางการเงิน และบริการสร้างสรรค์
  • ศูนย์วิจัยและพัฒนาที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโซลูชั่นและความสามารถในการสร้างความไว้ใจและความปลอดภัย เพื่อเดินหน้าส่งมอบพันธกิจ Safer Everyday ของแกร็บสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • การลงทุนที่แข็งแกร่งโดยแกร็บ จะสนับสนุนแผนแม่บทอุตสาหกรรม 4.0 และเป้าหมายเศรษฐกิจดิจิทัลของมาเลเซีย ผ่านการสร้างงานใหม่ที่มีมูลค่าสูงสำหรับชาวมาเลเซีย อย่างน้อย 400 ตำแหน่ง ในระยะเวลาอันสั้น

โดยศูนย์ความเป็นเลิศแห่งนี้จะเป็นแหล่งรวมกลยุทธ์ธุรกิจหลักและฟังก์ชันการดำเนินงานด้านต่างๆ ของแกร็บ ซึ่งรวมถึง ข้อกฎหมาย ประสบการณ์ลูกค้า บริการทางการเงิน และบริการสร้างสรรค์ การดำเนินการดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ ที่แกร็บได้กลับเข้ามาลงทุนอย่างแข็งแกร่งในประเทศซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจ ต่อจากการเปิดตัวศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งแรกในมาเลเซียเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อบ่มเพาะบุคลากรด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของมาเลเซีย ซึ่งศูนย์วิจัยและพัฒนาในมาเลเซียแห่งนี้ นับเป็นแห่งที่ ในแผนงานขยายศูนย์ R&D ของแกร็บไปทั่วโลก ทั้งนี้ การเปิดพื้นที่สำนักงานส่วนขยายใหม่ ได้รับเกียรติจาก ดาโตะ อิกนาเทียส ดาเรลล์ ไลคิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานในพิธี

 

Grab’s cafeteria area turned into an event place.

แกร็บจะสร้างงานใหม่ที่มีมูลค่าสูงอย่างน้อย 400 ตำแหน่งในทันที ผ่านการเปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาค รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาในมาเลเซียแห่งนี้ ซึ่งจะทำให้จำนวนพนักงานทั้งหมดของแกร็บในมาเลเซียเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 คน โดย RCoE จะเป็นผู้นำในการพัฒนากลุ่มบุคลากรที่มีทักษะสูงและมีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน และเนื่องด้วยแกร็บมีการดำเนินธุรกิจครอบคลุม 336 เมือง ใน ประเทศ บุคลากรเหล่านี้จึงจะได้รับโอกาสในการมองผ่านเลนส์ระดับภูมิภาค เพื่อนำเสนอโซลูชั่นและดำเนินโครงการต่างๆ

ทีมกฎหมายจะให้คำแนะนำเดี่ยวกับกฎระเบียบ นโยบาย และประเด็นทางกฎหมายที่ส่งผลต่อทั้งภูมิภาค ขณะที่ทีมประสบการณ์ลูกค้าจะให้บริการสนับสนุนที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าในหลายประเทศ

ด้านทีมสร้างสรรค์และออกแบบจะพัฒนาทรัพย์สินเชิงสร้างสรรค์สำหรับโครงการและแคมเปญการตลาดระดับภูมิภาค และทีมบริการทางการเงินจะดำเนินนโยบายการเงิน การจัดซื้อ และการบริหารความเสี่ยงในทุกประเทศที่แกร็บเข้าไปดำเนินธุรกิจในภูมิภาค

Image taken at the launch. 

สำหรับทีมเทคโนโลยีและวิศวกรรมในศูนย์วิจัยและพัฒนาที่มาเลเซีย จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโซลูชั่นและขีดความสามารถในการสร้างความไว้ใจและความปลอดภัย ที่ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาความปลอดภัยสำหรับประชาชนในมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ แกร็บเดินหน้าเพิ่มการลงทุนระดับโลกในเทคโนโลยีขั้นสูง วิทยาการข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ และแมชชีนเลิร์นนิ่ง เพื่อให้ทุกการเดินทาง ทุกการจัดส่งสินค้า และทุกการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของเราปลอดภัยและเสถียรยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา โดยทีมเทคโนโลยีและวิศวกรรรมของมาเลเซียจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายสูงสุดในการลดการเกิดอุบัติเหตุที่สามารถป้องกันได้บนแพลตฟอร์มของเราให้เป็นศูนย์

 

Sean Goh speaking at the launch.

"มาเลเซียมีความภูมิใจที่ได้เป็นบ้านเกิดของสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นอย่างแกร็บ แกร็บเป็นตัวแทนของนวัตกรรม การยืนหยัด ความสร้างสรรค์ การมีไหวพริบทางธุรกิจ และการทำงานหนัก ซึ่งล้วนเป็นค่านิยมที่รัฐบาลตั้งเป้าที่จะปลูกฝังให้เกิดขึ้นในหมู่บริษัทเทคโนโลยีของมาเลเซีย เราดีใจที่ได้เห็นแกร็บมอบประโยชน์กลับคืนให้มาเลเซีย และมุ่งมั่นที่จะบ่มเพาะบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีในประเทศ ตลอดจนสนับสนุนการถ่ายทอดความรู้ผ่านทางศูนย์ R&D ทั้งนี้ ในฐานะที่แกร็บเป็นซูเปอร์แอปที่ตอบสนองทุกการใช้งานในชีวิตประจำวันของชาวมาเลเซีย แกร็บจึงไม่เพียงรองรับความต้องการด้านการเดินทางผ่านบริการเรียกรถโดยสารเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจท้องถิ่นผ่านทางแพลตฟอร์มการส่งสินค้าและการชำระเงิน" ดาโตะ ดาเรลล์ ไลคิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าระหว่างประเทศ กล่าวที่งานเปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศฯ "นี่คือสิ่งที่มาเลเซียต้องการเพื่อมุ่งไปข้างหน้าตามเป้าหมายเศรษฐกิจดิจิทัลที่เราวางไว้ โดยทางกระทรวงฯ ปรารถนาให้บริษัทมาเลเซียจำนวนมากขึ้นที่ทำผลงานยอดเยี่ยมในเวทีระดับโลก กลับเข้ามาลงทุนอย่างมีคุณภาพในบ้านเกิด เพื่อพัฒนาประเทศชาติ ผ่านการสร้างงานที่มีมูลค่าสูง และบ่มเพาะผู้ประกอบการมาเลเซียรุ่นใหม่"

 

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า "รัฐบาลจะเดินหน้าวางแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของมาเลเซีย เพื่อนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีทางสังคมยิ่งขึ้นไป โดยในบริบทนี้ นโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ระดับชาติ (National Policy on Industry 4.0 หรือ Industry4WRD)และแผนยุทธศาสตร์อีคอมเมิร์ซระดับชาติ (National e-Commerce Strategic Roadmap หรือ NeSR) ถือเป็นแผนแม่บทที่สำคัญในการ 'ดึงดูด สร้างสรรค์ และพลิกโฉมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงดูดเทคโนโลยีสำคัญๆ เพื่อสร้างสรรค์ระบบนิเวศดิจิทัลที่เหมาะสม การพลิกโฉมภาคการผลิตและบริการไปเป็น 'ภาคอุตสากรรมแบบอไจล์และการช่วยให้ผู้ประกอบการมาเลเซีย 'มีความพร้อมสำหรับอีคอมเมิร์ซดังนั้น รัฐบาลจึงขอสนับสนุนความร่วมมือที่ต่อเนื่องระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อผลักดันให้แผนปฏิบัติการต่างๆ ในแผนแม่บททั้งสองฉบับบรรลุผลสำเร็จ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของเรา"

 

"การทุ่มลงทุนก่อตั้งศูนย์ความเป็นเลิศระดับภูมิภาคและศูนย์ R&D แห่งล่าสุดในมาเลเซีย คือการดำเนินการของเราในการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของรัฐบาลมาเลเซียที่ต้องการให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 และเป้าหมายเศรษฐกิจดิจิทัลของมาเลเซียให้บรรลุผลสำเร็จ เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้มาเลเซียปลดล็อคผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น ด้วยการสร้างงานมูลค่าสูง บ่มเพาะคนเก่งด้านเทคโนโลยีเชิงลึก และดึงดูดชาวมาเลเซียในต่างประเทศให้กลับมาทำประโยชน์ให้กับบ้านเกิดมากขึ้น เราไม่เคยลืมรากเหง้าของเราว่า มาเลเซียคือที่ที่เราตั้งแกร็บขึ้นเมื่อเกือบ ปีก่อน ด้วยเป้าหมายที่เรียบง่ายนั่นคือ การแก้ปัญหาความปลอดภัยในการเดินทาง เราเติบโตขึ้นไปไกลกว่าการเป็นเพียงผู้ให้บริการเรียกรถ โดยวันนี้ เราได้ก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์แอปสำหรับทุกวันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจึงย่อมที่จะมอบกลับคืนแก่ประเทศที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรา" ฌอน โก๊ะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ มาเลเซีย

 

"การลงทุนเหล่านี้อยู่นอกเหนือพันธกิจที่เราดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็คือการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการเดินทางและได้รับความปลอดภัยมากขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ที่ดีขึ้นสำหรับผู้ขับขี่และพันธมิตรด้านการจัดส่งสินค้า และทำให้ธุรกิจท้องถิ่นสามารถใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้และเครือข่ายการจัดจำหน่ายของเรา เพื่อสร้างรายได้ทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ยังมีอีกหลายอย่างที่เราสามารถทำได้เพื่อปรับปรุงชีวิตประจำวันของชาวมาเลเซีย เราต้องการที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลมาเลเซียเพื่อพัฒนากฎระเบียบและนโยบายที่ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์  ซึ่งเอื้อให้นวัตกรรมสามารถเติบโต ตลอดจนตอบสนองผลประโยชน์ของชาวมาเลเซียได้มากและดียิ่งขึ้น" นายฌอน กล่าว

แกร็บมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนแผนแม่บทของ "มาเลเซีย 4.0" ในด้านต่างๆ ดังนี้: 

  • โซลูชั่นการเดินทางที่เชื่อมต่อ ราบรื่น และอัจฉริยะสำหรับทุกคน: แกร็บจะทำให้ชาวมาเลเซียทุกคนเข้าถึงการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น ด้วยบริการขนส่งที่หลากหลายที่สุดซึ่งพร้อมให้บริการบนแพลตฟอร์มของเรา แกร็บจะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับรัฐบาล ผู้ให้บริการด้านการขนส่งสาธารณะและเอกชน เพื่อตอบสนองความต้องการการเดินทางของชาวมาเลเซียตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
  • ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและโอกาสการสร้างรายได้สำหรับพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้ขับขี่: 86% ของพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้ขับของแกร็บ มีรายได้เสริมนอกเวลาจากการขับแกร็บ โดยพวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 37% นอกเหนือจากงานประจำ อีกทั้ง พาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้ขับแกร็บแท็กซี่ยังมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% ต่อวัน เมื่อเทียบกับในอดีตที่พวกเขาต้องอาศัยการโบกเรียกรถตามถนนและการจองรถแท็กซี่ตามปกติเท่านั้น แกร็บจะเดินหน้าสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้ขับขี่ และมอบโอกาสการสร้างรายได้ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมสนับสนุนด้านการเงิน เครื่องมือเทคโนโลยีที่ดีขึ้นกว่าเดิม ตลอดจนการฝึกอบรมทักษะและกิจกรรมชุมชนเพิ่มเติมสำหรับพวกเขาและคนที่พวกเขารัก
  • หน้าร้านแบบดิจิทัลสำหรับพารท์เนอร์ที่เป็นผู้ค้าของ GrabFood, GrabRewards และ GrabPayแกร็บจะช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก รวมถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สามารถตั้งค่าสถานะดิจิทัลบนแอปแกร็บ พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้และเครือข่ายการจัดจำหน่ายของเราเพื่อสร้างรายได้ทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น
  • การเข้าถึง GrabPlatform เพื่อช่วยสตาร์ทอัพ-พาร์ทเนอร์ขยายธุรกิจของพวกเขา: พาร์ทเนอร์สามารถสร้างบริการของตนเองบน GrabPlatform หรือผนวกรวมชุดเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของแกร็บเข้าสู่เว็บไซต์หรือแอปของพวกเขาเอง ยกตัวอย่างเช่นGrabPay สำหรับการชำระเงินผ่านมือถือ GrabExpress สำหรับโลจิสติกส์ GrabProfiles สำหรับการตรวจสอบผู้ใช้ สิ่งนี้จะช่วยให้พาร์ทเนอร์ของเราเข้าถึงผู้ใช้แกร็บได้โดยตรงและขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

เกี่ยวกับ แกร็บ

 แกร็บ คือแพลตฟอร์มการให้บริการแบบ O2O (Online to Offline) ที่มีการใช้งานสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้บริการต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ส่งอาหาร ส่งของ ช็อปปิง หรือชำระค่าสินค้าและบริการ ก็สามารถทำได้ด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลใบเดียว แกร็บเชื่อว่าชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกคนควรได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัล บริษัทจึงพร้อมที่จะมอบการเข้าถึงการเดินทาง การส่งอาหารและพัสดุ การชำระเงินทางมือถือ และบริการทางการเงินที่ปลอดภัยในราคาไม่แพง ปัจจุบัน แกร็บให้บริการในสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.grab.com

Rate this item
(1 Vote)
Last modified on Sunday, 03 February 2019 04:44
บงกชธร บวรปิติภูวดล

Author : เกาะติดข่าวในยุโรป

Related items

Leave a comment

Make sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.


  

Tweet Feed

Post Gallery

Zoomlion ประเทศไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์งานเหมืองครบวงจร ชูการบริการหลังการขายที่เข้าใจลูกค้ายิ่งกว่าเดิม

“คุณภาพของงาน การบริการที่ดี ตอบสนองทันใจ” คือหัวใจความสำเร็จของบริษัท พรีเมี่ยม ดีไซน์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด

เลือกผู้รับเหมาอย่างไรให้ได้งานสำเร็จ

ESC ปิดหีบสำเร็จตามเป้า มุ่งรณรงค์ลดการเผาอ้อย ชูแนวคิด Full Integrated System เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

Zoomlion ประเทศไทยฉลองครบรอบ 9 ปี เปิดตัวศูนย์บริการสาขานครสวรรค์อย่างยิ่งใหญ่!

ซีพี ติดอันดับความยั่งยืนโลก ระดับ “Top 5 %” จาก S&P Global ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ชูจุดเด่นเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน

STEC ปรับกลยุทธ์ “Move To The Next Chapter” มุ่งพัฒนาต่อยอด New S-Curve เน้น Backlog แสนล้าน วางนโยบายองค์กร ตอบแทนสังคม มอบอาคารชาญวีรกูลที่ 71

Thaifoods Fresh Market โตสวนกระแส ครบ 350 สาขาตามเป้า, TFG จับมือ CooperL ตั้ง TFNG ดำเนินธุรกิจฟาร์มสุกรปู่ทวดพันธุ์ ด้วยงบลงทุนกว่า 746 ล้านบาท

TTA ต่อยอดธุรกิจขนส่งทางเรือ เข้าถือหุ้น 100% "ไทแทน แทงเกอร์" รุกธุรกิจผลิตน้ำมันดิบ เข้าถือหุ้น 10.14% "แวลูร่า เอ็นเนอร์ยี่" Q3/66 กำไร 374.8 ล้านบาท

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM